Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

312

 

ปัจจัยแวดล้อมไม่เป็นใจ
เหมือนปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานเช้านี้ไม่เป็นใจ เริ่มจากกำไร 3Q67 ที่ประกาศออกมาแล้วบางส่วนพบว่าต่ำกว่าคาดถึง 22% และเมื่อนำไปประกอบกับ มาตรการกระตุ้นเศรษกิจจีนที่ไม่เป็นไปอย่างที่นักลงทุนคาดหวัง รวมถึงการกลับมาของ ปธน.ทรัมป์ ซึ่งมีแนวทางชัดเจนในเรื่องการกีดกันการค้ากับหลายประเทศ เป็นไปได้ที่จะนำไปสู่การปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนในบ้านเราอีกครั้งหนึ่ง สำหรับทิศทางของ FUND FLOW ดูเหมือนว่ายังอ่อนแรง โดยนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิต่อ ขณะที่แรงรับจากนักลงทุนสถาบันในบ้านเราก็อ่อนแรงลงจนในบางวันกลายเป็นขายสุทธิ สภาวะแวดล้อมดังกล่าวเป็นแรงกดดันต่อSET INDEX สำหรับ INVETMENT THEME ให้น้ำหนักไปที่หุ้น HIGH SEASON อย่าง ท่องเที่ยว, MEDIA, อาหาร,การแพทย์ภาพรวมของปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานเช้านี้ มีน้ำหนักไปในทางสร้างแรงกดดันต่อ SET INDEX ประเมินกรอบการเคลื่อนไหว 1455 – 1473 จุดหุ้น TOP PICK เลือก BCP, CBG และ MASTER

 

แรงส่งจากปัจจัยภายนอกดูแผ่วลง
การเดินหน้านโยบายของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงไป ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลก และอาจเป็นความเสี่ยงน่าจับตาเริ่มจากสหรัฐฯ ในประเด็น “ปัญหาภาวะโลกร้อนเสี่ยงรุนแรงขึ้น” หลังนโยบายของTRUMP ว่าที่ ปธน. สหรัฐฯ คนใหม่ ไม่เน้นสนับสนุนพลังงานสะอาด โดยล่าสุดเมื่อ 8พ.ย. 67 ตามเวลาท้องถิ่นนิวยอร์กไทม์ส รายงานว่า ทีมถ่ายโอนอำนาจของทรัมป์เตรียมการออกคำสั่งฝ่ายบริหาร และคำประกาศถอนตัวจากข้อตกลงปารีสลดขนาดพื้นที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติเพื่อเปิดทางให้กับการขุดเจาะน้ำมันและทำเหมืองขณะที่การประชุม COP29 สร้างความหวาดหวั่นว่าไม่น่าได้ข้อตกลงเป็นชิ้นเป็นอันและเพิ่มแรงกดดันให้ยุโรปและจีน รับบทผู้นำควบคุมโลกร้อนให้คืบหน้ายิ่งขึ้นการคำนึงถึงปัญหาภาวะโลกร้อนที่ลดลง อาจกดดันหุ้นกลุ่มอิง THAILAND ESG อาทิ GUDF GPSC BGRIM BANOU BCP CKP PTT เป็นต้น

 

ขณะที่จีน ยังมี “ความกังวลเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ” แม้ล่าสุด 8 พ.ย. ที่ผ่านมารัฐบาลจีนจะประกาศมาตรการ REFINANCE หนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น (LOCAL GOVT DEBT) วงเงิน 10 ล้านล้านหยวน เพื่อให้รัฐบาลท้องถิ่นสามารถออกพันธบัตรพิเศษเพิ่มเติม แต่นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวน้อยเกินกว่าที่ตลาดคาด ทำให้เกิดความผิดหวัง กดดันตลาดหุ้นจีนเช้านี้ร่วงลงต่อเนื่อง โดย HSI -2%นอกจากนี้ในมุมตัวเลขเศรษฐกิจ ด้านเงินเฟ้อจีนเดือน ต.ค. 67 ขยายตัวแค่+0.3%YOY ต่ำกว่าตลาดคาด สะท้อนภาคการบริโภคจีนยังน่าเป็นห่วง และอาจกดดันต่อ DEMAND โลก ได้


ประเด็นข้างต้นอาจกดดันหุ้นกลุ่มอิง CHINA PLAY เสี่ยงผันผวนแรงในช่วงนี้ อาทิSCGP IVL PTTGC NER STA AOR ERW HANA KCE เป็นต้น


ปัจจัยในประเทศยังไม่สนับสนุน FLOW ซื้อสุทธิมากนัก
หลังจากที่ปัจจัยภายนอกดูไม่สดใส (รายละเอียดในหัวข้อก่อนหน้านี้) ปัจจัยในประเทศก็ไม่ได้หนุนให้FLOW ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยมากนัก โดยประเด็นแรก คือ วันศุกร์ที่ผ่านมา “ฟิตซ์ เรตติ้ง” คงอันดับ CREDIT RATING ของไทยไว้ที่ BBB+ STABLE โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตจาก 2.6% ในปี 2567 และ 3.1% ในปี 2568 และคาดว่าปี2568 นักท่องเที่ยวจะกลับเข้ามาอยู่ในระดับเดียวกับก่อนช่วงโควิด-19 ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยที่ไม่ได้ SURPRISE ตลาดฯมากนักส่วนอีก 1 ปัจจัย คือ การคัดเลือกประธานบอร์ดแบงค์ชาติในวันนี้ ซึ่งได้เลื่อนมาจากกำหนดเดิมในวันที่ 4 พ.ย.67โดยมีอยู่ 3 ท่านที่เป็นแคนดิเดต(1 คนจากคลัง ,2 คนจากธปท.)ซึ่งต้องติดตามว่าวันนี้จะรู้ผลลัพธ์ว่าเป็นท่านใด หรือจะมีการเลื่อนการคัดเลือกอีกรอบหรือไม่ เนื่องจากมีการนัดชุมนุม ของกลุ่มการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่หน้าตึก ธปท.เช้านี้

 

ประเด็นดังกล่าวที่ไม่ได้เป็นปัจจัยหนุนมากนัก และยังมีความไม่แน่นอนของผลลัพธ์จึงทำให้ค่าเงินบาทยังทยอยอ่อนค่า และหนุนให้ต่างชาติ-สถาบันฯ สลับมาขายสุทธิหุ้นไทยทั้งคู่ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ราว 1.5 พันล้านบาท และ 1.2 พันล้านบาท ตามลำดับ(โดยปกติแล้วหากต่างชาติและสถาบันฯขายสุทธิหุ้นไทยทั้งคู่ จะกดดัน SET INDEX ให้วันนั้นๆดัชนีปิดตัวลบเสมอ) ฝ่ายวิจัยฯ จึงคาดว่า SET INDEX วันนี้มีโอกาสผันผวนและอาจทดสอบแนวรับของวันที่ระดับ 1455 จุดได้

 

 

SET ยังถูกกดดันต่อ จากแนวโน้มกำไร 3Q67 ที่ชะลอ
ในวันศุกร์ที่ผ่านมา งบ 3Q67 รายงานออกมา ส่วนใหญ่ยังคงต่ำกว่า BLOOMBERGCONSENSUS คาด ตามภาพทางด้านล่าง และมีเพียง 2 บริษัทที่กำไรสูงกว่าคาด คือRCL, SAV ส่งผลให้กำไรบริษัทจดทะเบียน 3Q67 ประกาศออกมาแล้ว 167 บริษัท (คิดเป็นสัดส่วนMARKET CAP 49%) มีกำไรสุทธิ 9.9 หมื่นล้านบาท (ลดลง -34% QOQ, ลดลง -33% YOY) และยังต่ำกว่าที่ตลาดคาดถึง 23%


นอกจากนี้จะสังเกตได้ว่า หุ้นที่ประกาศงบ 3Q67 ออกมาแล้วต่ำกว่าตลาดคาด มักจะทรงๆ ตัว ไปจนถึงย่อตัวลงแรงในวันถัดมา

 

ดังนั้นกำไรงวด 3Q67 ที่มีแนวโน้มลดลง QOQ, YOY และยังต่ำคาดมาก น่าจะกดดันตลาดหุ้นให้ผันผวนในช่วงของการรายงานงบ 3Q67 ถึงกลางๆ เดือนนี้ และน่าจะนำไปสู่การปรับประมาณกำไรตลาดปีนี้และปีหน้าลดลงอีกได้

 


Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส

ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ประคับประคอง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทย คงประคับ ประคอง แกว่งตัวไปมา ท่ามกลาง บริษัทจดทะเบียนไทย...

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้