สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 8 พฤศจิกายน 2567)------บมจ. เอ็น.ดี. รับเบอร์ หรือ NDR โชว์ผงาน Q3/67 พุ่ง 111.45% พลิกเป็นกำไร3.44 ลบ. จากช่วงปีก่อนขาดทุน จากการเติบโตของยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ  โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์สินค้าราคาสูงที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และประสบความสำเร็จในการขยายตลาดไปยังประเทศญี่ปุ่นและอังกฤษ ด้าน "ชัยสิทธิ์  สัมฤทธิวณิชชา" กรรมการผู้จัดการ เผย ที่ประชุมบอร์ดไฟเขียว ออกวอแรนต์ (NDR-W3) จำนวนไม่เกิน 228,445,815 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม โดยไม่คิดมูลค่า ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ราคาใช้สิทธิ  1 บาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำรองและขยายธุรกิจในอนาคต

นายชัยสิทธิ์  สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี. รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR ผู้ผลิตและจำหน่ายยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์ภายใต้แบรนด์ N.D.Rubber  เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3/2567 มีรายได้อยู่ที่  224.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้  210.75 ล้านบาท และพลิกมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3.44 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 111.45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 30.1 ล้านบาท  ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ  โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์สินค้าราคาสูงที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังประสบความสำเร็จในการขยายตลาดไปยังประเทศญี่ปุ่นและอังกฤษ โดยเริ่มส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าในภูมิภาคใหม่เหล่านี้ตั้งแต่ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของบริษัทฯ ในตลาดต่างประเทศ

ขณะที่กำไรขั้นต้นยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจที่ 19.14% ของรายได้เนื่องจากบริษัทฯ สามารถควบคุมต้นทุนได้ อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าต้นทุนยางพาราจะยังคงอยู่ในระดับสูงก็ตาม

"ผลประกอบการในไตรมาส 3/2567 สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจ และศักยภาพในการเติบโตในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าและสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ อย่างยั่งยืน" นายชัยสิทธิ์ กล่าว

นายชัยสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯครั้งที่ 7/2567 มีมติเห็นชอบให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 3 (NDR-W3) ("ใบสำคัญแสดงสิทธิ NDR-W3") จำนวนไม่เกิน 228,445,815 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) โดยไม่คิดมูลค่า (ศูนย์บาท) ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ NDR-W3 โดยใบสำคัญแสดงสิทธิ NDR-W3 จะมีอายุ 1 ปี นับจากวันที่ได้ออก ใบสำคัญแสดงสิทธิ มีอัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อหุ้นสามัญ 1 หุ้น และมีราคาการใช้สิทธิเท่ากับ  1.00 บาทต่อหุ้น (ยกเว้นกรณีการปรับราคาใช้สิทธิ) โดยกำหนดให้วันที่ 13 ธันวาคม 2567 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น ที่มีสิทธิในการได้รับการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ NDR-W3 (Record Date)

พร้อมมีมติเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ อีกจำนวน 228,445,815 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 456,891,630 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 685,337,445 บาท  แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 685,337,445 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 228,445,815 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ตามใบสำคัญแสดงสิทธิ NDR-W3

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการยังมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนของบริษัท เอ็กซ์โทรนิค จำกัด เป็นทุนจดทะเบียน 152,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 1,520,000 หุ้น  จากทุนจดทะเบียน 66.00 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 660,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 100 บาท  โดยบริษัทฯดังกล่าวประกอบธุรกิจ  เพื่อเป็น Testing Center ให้กับอุปกรณ์ระบบ 5G  ซึ่ง NDR ถือหุ้นร้อยละ 99.99

และที่ประชุมมีมติอนุมัติให้บริษัท แอพโซลูท กรืน พาวเวอร์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด  เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในบริษัท เอ็น.ดี.กรีน แพลเน็ท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ NDR เพื่อขยายไปสู่ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพ ในสัดส่วน 30.43%  ซึ่งจะเป็นการเริ่มเข้าสู่ธุรกิจพลังงานสะอาดของกลุ่ม NDR