กำไร3Q67ไม่ดีอย่างที่คิด
จากการติดตามตัวเลขผลประกอบการงวด 3Q67 ที่ประกาศออกมาแล้วบางส่วน (104 บริษัท คิดเป็น 44% ของ MARKET CAP รวม) พบว่าลดลงแรงทั้ง QOQ และ YOY และที่สำคัญเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าBLOOMBERG CONSENSUS ถึง 24% ถือเป็นสัญญาณลบสำหรับทิศทาง SET INDEX โดยอาจทำให้เห็นวัฎจักรของการปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนกลับมาอีกรอบหนึ่ง ส่วนผลการประชุม FEDและ BOE วานนี้ มีมติปรับลดดอกเบี้ยนโนบายลง 0.25% ตามคาด และในเดือน ธ.ค.67 คาดว่า FED น่าจะปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% แนวทางดังกล่าวทำให้BOND YIELD ปรับลดลงอีกครั้งหลังจากที่ปรับขึ้นรับผลการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ ซึ่ง REPUBLICAN ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นหลังจากนี้คงต้องติดตามการเดินหน้านโยบายต่างๆ ใกล้ชิดขึ้นSET INDEX น่าจะดูดซับปัจจัยการเมืองในสหรัฐฯ ไประดับหนึ่งแล้ว จากนี้ไปให้น้ำหนักผลประกอบการ 3Q67 ที่ต่ำกว่าคาด กรอบวันนี้ 1460 –1477 จุด TOP PICK เลือก CBG, CENTEL และ MASTER
FED – BOE ลดดอกเบี้ยตามคาด หนุนค่าเงินบาทแข็งตามกลไก
วานนี้ FED และ BOE ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ตามคาดสู่ระดับ 4.75%ซึ่งทาง FEDมั่นใจมากขึ้นว่า CPI สหรัฐฯ จะเข้าสู่กรอบเป้าหมาย 2% ได้ ขณะที่เศรษฐกิจยังขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่ POWELL เผยนโยบายจาก ปธน.คนใหม่ จะไม่มีผลต่อการตัดสินใจในระยะสั้น พร้อมคาดว่านโยบายการคลังที่ขยายตัวและการกีดกันการค้าจะส่งผลต่อคาดการณ์ในอนาคต จึงยังคงตัดสินใจแบบ MEETING BYMEETING โดย DOT PLOT คาดดอกเบี้ยปลายปี 2024 อยู่ที่ 4.50% และปลายปี2025 อยู่ที่ 3.50%
ประเด็นดังกล่าว จึงทำให้เงินบาทเริ่มแข็งค่า ตามการปรับลดดอกเบี้ยของ FED ซึ่งตามกลไลจะหนุนให้ FLOW ต่างชาติมีโอกาสชะลอการไหลออกอยู่บ้างจึงน่าจะหนุนให้ SETINDEX ทรงตัวในกรอบแคบ และมีโอกาสดีดตัวขึ้นในวันนี้ กรอบวันนี้ 1455/1460-1477 จุด
ส่วนกลุ่มที่ได้คาดว่าได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าว
1. หุ้นขนาดใหญ่หาก FUND FLOW เริ่มไหลกลับเข้ามา KBANK, SCB, BBL,AOT, PTT, PTTGC, IVL, SCC, CPALL, CRC, CPAXT, ADVANC
2. กลุ่มที่มีต้นทุน หรือหนี้สินสกุลเงินต่างประเทศ GULF, BGRIM, GPSC,PTTEP, AAV
คาดจีนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หนุนหุ้นธีม CHINA PLAY
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน มีความหวังมากขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจที่ทยอยออกมาในเดือน ต.ค. 67 เริ่มเห็นสัญญาดีขึ้น เริ่มจาก PMI ภาคการผลิต-บริการ และล่าสุดวานนี้ จีนเผยตัวเลขส่งออกพุ่งขึ้น +12.7%YOY ซึ่งสูงกว่าคาด และขยายตัวมากสุดในรอบ 27 เดือน ตามการฟื้นตัวของภาคการผลิตโลกนอกจากนี้ยังคาดหวังว่า ในการประชุม NPC วันนี้ (8 พ.ย. 67) จะมีการสรุปแผนและแถลง “มาตรกระตุ้นเศรษฐกิจจีนเพิ่มเติม” ออกมา โดยเฉพาะนโยบายการคลังอัดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบราว 10 ล้านล้านหยวน เพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้รัฐบาลท้องถิ่น และภาคอสังหาริมทรัพย์จีน รวมถึงนโยบายอื่นๆ
กรณีเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวได้จริง คาดหนุนให้ DEMAND โลกดีขึ้น พร้อมกับส่งผ่านอานิสงค์เชิงบวกมายังบ้านเรา ทั้งในแง่การค้าระหว่างประเทศ และภาคท่องเที่ยว ขณะที่ราคาน้ำมันมีโอกาสที่จะขยับขึ้นตาม ฝ่ายวิจัยฯ ได้สรุปหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์ธีม CHINA PLAY
อย่างไรก็ตาม ในระยะถัดไปยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องผลกระทบกรณี TRUMP ว่าที่ ปธน. สหรัฐฯ คนใหม่ มีแผนปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่ม60% ซึ่งอาจเพิ่มแรงกดดันต่อภาคเศรษฐกิจ และตลาดการเงินทั่วโลกเสี่ยงผันผวนได้ดังเช่น TRADE WAR ในปี 2561
กำไร 3Q67 ที่ประกาศแล้ว ดรอป QOQ, YOY และต่ำคาด 24%กำไรบริษัทจดทะเบียน 3Q67 ประกาศออกมาแล้ว 104 บริษัท (คิดเป็นสัดส่วน
MARKET CAP 44%) มีกำไรสุทธิ 9.1 หมื่นล้านบาท (ลดลง -32QOQ, ลดลง -29YOY)
นอกจากนี้กำไรงวด 3Q67 ที่ประกาศออกมายังต่ำกว่าที่ BLOOMBERGCONSENSUS คาดถึง24%
สรุป ทั้งกำไรงวด 3Q67 ที่มีแนวโน้มลดลง QOQ, YOY และยังต่ำคาดมาก น่าจะกดดันตลาดหุ้นให้ผันผวนในช่วงของการรายงานงบ 3Q67 ถึงกลางๆ เดือนนี้ และน่าจะนำไปสู่การปรับประมาณกำไรตลาดปีนี้และปีหน้าลดลงอีกได้
Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์