สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 7 พฤศจิกายน 2567)---- เดือนต.ค.67 ตัวเลขส่งออกจีนขยายตัวอยู่ที่ 12.7%YoY จากการส่งออกไปตลาดหลักที่เร่งตัวขึ้นก่อนการยกระดับสงครามการค้าหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
• ใน 2 เดือนที่เหลือของปี 2567 คาดว่าส่งออกจีนยังมีแนวโน้มเร่งตัวก่อนทรัมป์จะเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะที่ยังต้องติดตามการกีดกันทางการค้าจากประเทศอื่น ๆ
• ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า หาก 2 เดือนที่เหลือของปี 2567 การส่งออกยังมีทิศทางเร่งตัวในระดับเดิมจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจไตรมาส 4/67 ให้สามารถเติบโตดีกว่าคาดการณ์เดิม
เดือนต.ค.67 ตัวเลขส่งออกจีนขยายตัวอยู่ที่ 12.7%YoY จากการส่งออกไปตลาดหลักที่เร่งตัวขึ้นก่อนการยกระดับสงครามการค้าหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยการส่งออกไปสหรัฐฯ ยุโรป และ ASEAN เพิ่มขึ้นอยู่ที่ +8.1%YoY, +12.7%YoY และ +15.8%YoY ตามลำดับ นอกจากนี้ การเร่งตัวขึ้นของการส่งออกยังได้รับปัจจัยหนุนบางส่วนจากความล่าช้าและการหยุดชะงักของการขนส่งในเดือนก.ย. 67 จากผลกระทบของพายุไต้ฝุ่นเบบินกา ด้านการนำเข้าหดตัวที่ -2.3%YoY ส่งผลให้เดือนต.ค.67 จีนยังคงเกินดุลการค้าอยู่ที่ 95.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
o ใน 2 เดือนที่เหลือของปี 2567 คาดว่าส่งออกจีนยังมีแนวโน้มเร่งตัวก่อนทรัมป์จะเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 20 ม.ค.68 ขณะที่ยังต้องติดตามการกีดกันทางการค้าจากประเทศอื่น ๆ หลังจีนยังมีการทยอยเร่งส่งออกสินค้าในอุตสาหกรรมที่มีกำลังการผลิตส่วนเกิน เช่น อุตสาหกรรมเหล็ก โดยในเดือนต.ค.67 ปริมาณการส่งออกเหล็กของจีนยังปรับสูงขึ้น (+40.8%YoY)
o ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า หาก 2 เดือนที่เหลือของปี 2567 การส่งออกยังมีทิศทางเร่งตัวในระดับเดิมจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจไตรมาส 4/67 ให้สามารถเติบโตดีกว่าคาดการณ์เดิม ทั้งนี้ รอติดตามมาตรการกระตุ้นภาคการคลังที่คาดว่าจะมีความชัดเจนในวันที่ 8 พ.ย. 67 อย่างไรก็ดี ทั้งปี 2567 คาดเศรษฐกิจจีนยังมีแนวโน้มเติบโตที่ 4.8%