Company Note
Thai Union Group

ประกาศกำไรสุทธิ 3Q24 เพิ่มขึ้น แต่กำไรหลักลดลง YoY จากค่าใช้จ่าย transformation cost ที่เพิ่มขึ้น

บริษัทประกาศผลประกอบการ 3Q24 กำไรสุทธิ 1,400 ล้านบาท +16%YoY และ +15%QoQ โดยในไตรมาสนี้บันทึกขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน 54 ล้านบาท และการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์และค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวมทั้งหมด 110 ล้านบาท โดยหากไม่รวมรายการดังกล่าวคาดกำไรหลักจะ -4%YoY แต่เพิ่มขึ้น +5%QoQ รายได้รวมเพิ่มขึ้น +2.7%YoY จากธุรกิจเกือบทุกกลุ่มที่เพิ่มขึ้น ยกเว้นธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยอัตราแลกเปลี่ยนมีผลกระทบเชิงลบในไตรมาสนี้ เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 34.81 บาท ลดลง 1% YoY โดยแบ่งเป็น

ธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป (Ambient seafood) รายได้เพิ่มขึ้นจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นทุกภูมิภาค เติบโต YoY จากฐานต่ำ โดยเฉพาะตะวันออกกลาง ซึ่งเผชิญกับสถานการณ์ขาดแคลนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐใน 3Q23 นอกจากนี้ลูกค้ากลุ่ม OEM สหรัฐฯและแคนาดา ที่มีออเดอร์สินค้าจากการปรับกลยุทธ์ส่งเสริมการขาย และยอดขายเพิ่มขึ้น QoQ จากความต้องการซื้อทุกภูมิภาค ยกเว้นยุโรปที่ประสบกับสภาวะเศรษฐกิจหดตัว

ธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง (Frozen chilled seafood) ลดลงจากการปรับลดขนาดธุรกิจ Trading ที่อเมริกาที่มีผลขาดทุน ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในสหรัฐฯ และราคาตลาดของอาหารทะเลในสหรัฐฯปรับตัวลดลงเช่นกัน ส่งผลให้ธุรกิจ Frozen รายได้ลดลง

ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (PetCare) รายได้เพิ่มขึ้น 15%YoY ส่วนใหญ่เป็น ผลจากสัดส่วนการขายสินค้า พรีเมี่ยมที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ปริมาณขายเพิ่มขึ้น 3.2% YoY จากความต้องการ ซื้อที่เพิ่มขึ้นในตลาดหลัก รวมถึงยุโรปและสหรัฐอเมริกา การเพิ่มขึ้นของทั้งยอดขายและปริมาณขายในไตรมาสนี้บางส่วนเป็นผล จากฐานที่ต่ำใน 3Q23 และรายได้ลดลง -2%QoQ จากการขาดแคลนพื้นที่บนเรือและตู้คอนเทนเนอร์

ธุรกิจผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า (Value added and others) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY และ QoQ ส่วนใหญ่เป็นผลจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจบรรจุภัณฑ์และธุรกิจผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า เนื่องจากการขยายตลาดไปยังลูกค้าใหม่ อีกทั้งยังมีความต้องการซื้อที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และตะวันออกกลาง รวมถึงความต้องการซื้อในประเทศที่สูงขึ้นสำหรับธุรกิจบรรจุภัณฑ์

บริษัทรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุน 275 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากธุรกิจ Avanti Group และ Lucky Union Foods มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง

Gross margin เพิ่มขึ้น จากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป (Ambient seafood) ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่มีสัดส่วนรายได้มากสุดและราคาปลาทูน่าที่ปรับตัวลดลง

ค่าใช้จ่ายในการขายบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้น จากการทำการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขาย และการ transformation costs program 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ Sonar ที่มุ่งสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเติบโตของทั้งกลุ่มบริษัท และโครงการ Tailwind ที่มุ่งเร่งการเติบโตของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง

แนวโน้มผลประกอบการ 4Q24F อ่อนตัว จากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงมีการบันทึกค่าเสื่อมที่เพิ่มขึ้นและไม่มีการบันทึกบวกกลับการตั้งสำรองสินค้าคงคลัง และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นหลังจากบริษัทมีแผนtransformation costs program 2 โครงการ ซึ่งค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้น เราอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการรอรายละเอียดโครงการ transformation ซึ่งบริษัทจะประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมในวันที่ 11 พ.ย.2024