Company Note
Prima Marine
กำไรลดแค่ชั่วคราว แนวโน้มกำไรระยะกลางยังเป็นบวก ราคาหุ้นถูก คงคำแนะนำ “ซื้อ”
เราปรับลดประมาณการกำไรสำหรับ 3Q24F ลงเพื่อสะท้อนผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งซึ่งกระทบรายได้สกุลเงิน US$ จากธุรกิจ Offshore, FSU และธุรกิจขนส่งน้ำมันดิบ (COC) ซึ่งมีมูลค่าประมาณ US$40 ล้าน ประกอบกับบริษัทนำเอาเรือ Aframax 1 ลำไปดัดแปลงเป็น FSO ก่อนกลับมาให้บริการในเดือนธ.ค. ส่งผลให้กำไร 3Q24F ลดลง QoQ แต่ยังคงเติบโตดี YoY อย่างไรก็ตามเราคาดกำไร 4Q24F จะดีขึ้น และจะดีขึ้นอีกในปีหน้าเนื่องจากจะมีเรือ Crew Boat เข้ามาใหม่อีก 4 ลำ ดังนั้นเรายังคงคาด Core profit จะเติบโตทำ New high ต่อเนื่องทุกปี จากการเพิ่มกองเรืออย่างต่อเนื่อง แต่ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น PER ปี 2024F ที่ 8.1x เท่านั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ
คาดกำไร 3Q24F ลด QoQ แต่ยังเติบโต YoY เนื่องจากนำเรือไปดัดแปลงและบาทแข็ง
เราคาดกำไรสุทธิใน 3Q24F จะอยู่ที่ 497 ลบ. (+51% YoY, -22.5% QoQ) ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากเราคาดว่าในไตรมาสนี้บริษัทจะมีขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง 40 ลบ. เนื่องจากบริษัทมีการทำ Forward Contract ไว้แต่ค่าเงินแข็งค่าขึ้นมากช่วงปลายไตรมาส (หากอัตราแลกเปลี่ยนปลาย 4Q24F เท่ากับปัจจุบันบริษัทจะกลับรายการเป็น FX Gain) หากไม่รวม FX Loss กำไรจากการดำเนินงานปกติจะอยู่ที่ 537 ลบ. (เติบโต 55% YoY แต่ลดลง 16% QoQ) โดยกำไรที่โต YoY มาจากคาดรายได้เติบโต 20% และ Gross margin ดีขึ้นจาก 29.9% มาอยู่ที่ 36.1% ซึ่งมาจากผลการดำเนินงานของทุกธุรกิจดีขึ้น (ยกเว้นธุรกิจขนส่งน้ำมันดิบ) ส่วนที่คาดกำไรลด QoQ เนื่องจากคาดรายได้ลด 7.5% หลักๆ จากธุรกิจขนส่งน้ำมันดิบที่รายได้ลดหลังจากบริษัทเอาเรือ Aframax ไปดัดแปลงเป็น FSO ทำให้เรือลำนี้ขาดรายได้ไป 5 เดือน ก่อนจะกลับมาให้บริการ PTTEP ในเดือนธ.ค. นอกจากนั้นบริษัทยังมีการเปลี่ยนเรือ VLCC 1 ลำในเดือนก.ค.ทำให้เสียเวลาไป 3 สัปดาห์แต่เรือที่ได้กลับมาก็จะมี Efficiency มากขึ้น ส่วน Gross margin คาดว่าจะลดลง QoQ จาก 38.9% เป็น 36.1% แต่เราคาดว่าจะได้ชดเชยบางส่วนจาก S&A expenses ที่คาดว่าจะลด 10% QoQ เนื่องจากในไตรมาสนี้บริษัทไม่ได้มีบันทึกโบนัสพนักงานเหมือนในไตรมาสที่แล้ว
แนวโน้มคาดกำไร 4Q24F ดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ และจะเติบโตต่อเนื่องใน 1Q25F
เราคาดว่ากำไร 4Q24F จะดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากเรือ Aframax ที่นำไปดัดแปลงเป็น FSO จะกลับมาให้บริการในเดือนธ.ค. ส่วนธุรกิจอื่นมีแนวโน้มเป็นบวก ธุรกิจขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปและเคมี (PCT) น่าจะดีขึ้นเนื่องจากเข้าสู่ช่วง high season ส่วนธุรกิจ FSU มีแนวโน้มเป็นบวกเพราะดีมานด์ดีขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนั้นแนวโน้มมาร์จิ้นยังดีขึ้นด้วยจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิงซึ่งบริษัทเป็นคนจ่ายมีแนวโน้มลดลง ในส่วนธุรกิจ Offshore แนวโน้มดีต่อเนื่องจากเรือที่เพิ่มขึ้นและเต็มทุกลำ และมีการต่อสัญญากับลูกค้าในช่วง 2H ทำให้ได้เรทราคาใหม่ที่ดีกว่าเดิมมาก แนวโน้ม 1Q25F เราคาดว่ากำไรจะเติบโตขึ้นไปอีก เนื่องจากในปีหน้าบริษัทจะมีเรือ Crew Boat ลำใหม่อีก 2 ลำ โดยมี Target COD ในเดือนมี.ค. และก.ค. 2025 นอกจากนั้นบริษัทกำลังจะซื้อเรือ Hybrid Crew Boat เข้ามาเพิ่มอีก 2 ลำให้บริการลูกค้ากลุ่มใหม่จากต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเซ็นสัญญาในเดือนพ.ย.และเริ่ม Operate ในเดือนม.ค. 2025 และบริษัทยังได้สั่งต่อเรือ Small tanker ใหม่ขนาด 2500 DWT อีก 6 ลำโดยมีกำหนดการรับเรือปลายปี 2025 ส่วนแผนที่จะซื้อเรือ Aframax และ FSU ลำใหม่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ
คงคำแนะนำ “ซื้อ”โดยมูลค่าเหมาะสมยังอยู่ที่ 10.70 บาท
จากแผนของบริษัทที่กล่าวข้างต้นทำให้เราคาดว่าบริษัทจะทำกำไรปกติ New high ทั้งในปีนี้และปีหน้า ดังนั้นเรายังคงประมาณการกำไรและมูลค่าที่เหมาะสมที่ 10.70 บาท ซึ่งอิงจาก PER 10 เท่า ปี 2024F (คิดจากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีของหุ้น) เรายังคงแนะนำซื้อ ปัจจัยเสี่ยงมาจากความผันผวนราคาพลังงานที่จะส่งผลต่อดีมานด์การใช้เรือและต้นทุน