Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

490

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 30 ต.ค.67 ปิด -3.96 จุด อยู่ที่ 1,447.20 จุด มูลค่าการซื้อขาย 39,584 ลบ.ต่างชาติขาย 4,268 ลบ. รายย่อยซื้อ 3,742 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 257 ลบ. สถาบันซื้อ 268 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 1,756 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น ADVANC,DELTA,GULF,TU,KCE และยอดขายในหุ้น BBL,BDMS,PTTEP,KBANK,SCC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,617 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ INX01,GLOBAL,RBF โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 16,133 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 55,268 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 138 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.22%, S&P500 -0.33%, Nasdaq -0.56% กลุ่มเทคโนโลยี -1.34% หลังหุ้นซูเปอร์ ไมโคร คอมพิวเตอร์ -32.6% เนื่องจาก Ernst & Young ถอนตัวจากเป็นผู้ตรวจสอบบัญชี และ AMD บริษัทผู้ผลิตชิป -10.6% หลังรายงานกำไร Q3/67 ต่ำกว่าคาด ขณะที่กลุ่มบริการสื่อสาร +0.99%, การเงิน +0.42% ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -1.25% ถูกแรงขายจากกลุ่มผู้ผลิตชิป -2% และกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานปรับลดลง นำโดยหุ้นแองโกล อเมริกัน -4% หลัง BHP ยุติการเจรจาเข้าซื้อกิจการ

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายหุ้นกลุ่มผลิตชิป นำโดยหุ้น SMCI -32.6% จากความกังวลต่องบการเงินบริษัท ส่วนรายงาน US GDP Q3/67 ครั้งที่ 1 +2.8% & คาด +3.0% & Q2/67 +3.0% QoQ และ ADP เผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ ต.ค. เพิ่มขึ้น 233,000 & คาด 113,000 ตำแหน่ง เป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี บ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแรงดี ขณะที่ Microsoft รายงานกำไร Q3/67 ดีกว่าคาด โดยได้ปัจจัยหนุนจากบริการ Cloud Services เติบโต +33% แต่ถูกยังกดดันจาก Capex เพิ่มขึ้น ข้อมูลเศรษฐกิจวันนี้ติดตาม รายงานกำไรของ Apple, Amazon รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิในวันพฤหัส Core PCE ก.ย. คาด 2.6% & ส.ค. 2.7% YoY และวันศุกร์ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ต.ค. คาด 110,000 & ก.ย. 254,000 ตำแหน่ง , อัตราว่างงานสหรัฐ ต.ค. คาดทรงตัวที่ 4.1% ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจของเฟดในวันที่ 7 พ.ย. และรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย.
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลง จากแรงขายกลุ่มผู้ผลิตชิป ขณะที่รายงาน GDP เยอรมัน Q3/67 +0.20% & Q1/67 -0.1% QoQ ลดความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย และ GDP ยูโรโซน Q3/67 +0.4% สูงกว่าคาด +0.2% QoQ โดยวันนี้ติดตาม CPI ยูโรโซน ต.ค. คาด 9% & ก.ย. 1.7% ซึ่งมีผลต่อการประชุม ECB วันที่ 12 ธ.ค.        
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.61%, ฮั่งเส็ง -1.55% โดยรอข้อมูลเศรษฐกิจจีน และผลการประขุม NPC วันที่ 4 – 8 พ.ย. ซึ่งตลาดคาดมีโอกาสที่รัฐบาลจีนจะออกพันธบัตรพิเศษมูลค่าราว 10 ลล.หยวน เพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจจีน วันนี้ติดตามผลการประชุม BOJ คาดคงดอกเบี้ยที่ 25% และ PMI ภาคผลิต & บริการจีน ต.ค.
  • ดัชนี SET วานนี้ -0.27% ปริมาณการซื้อขาย 3.9 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 4,268 ลบ. รายย่อยซื้อ 3,742 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 257 ลบ. และสถาบันซื้อ 268 ลบ. ดัชนีปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มไฟแนนท์ -1.77% และธนาคาร -1.48% ถูกกดดันจากภาวะหนี้ครัวเรือนไทยอยู่ระดับสูง ส่งผลลบต่อความสามารถชำระหนี้กลุ่มสินเชื่อรถยนต์, บ้าน กอปรรอความคืบหน้าจาก ธปท. ในการออก ม.ช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มดังกล่าว ส่วนกลุ่มบรรจุภัณฑ์ -1.63% หลัง SCGP รายงานกำไร Q3/67 ต่ำกว่าคาด และ SCC รายงานกำไร Q3/67 อยู่ที่ 721 ลบ.-80.6% QoQ, -70.5% YoY โดยได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่า, การปรับลดมูลค่าสินค้าคงคลัง และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมอื่น ๆ ลดลง โดยภาพรวมดัชนี SET ถูกกดดันจาก Flow Fund ต่างชาติที่ชะลอการลงทุน ระหว่างรอผลการเลือกตัง ปธ.สหรัฐ ในวันที่ 5 พ.ย. และการประชุมเฟดวันที่ 7 พ.ย. กอปรดัชนียังถูกกดดันจากคาดการณ์กำไร Q3/67 บจ.ไทย 135 บริษัทมีโอกาส -9% QoQ, -20% YoY ( อ้างอิงจาก Bloomberg Consensus )             

Daily Strategy

  • ประเมินหากดัชนี SET ปรับลดลงมาที่บริเวณ 1,420 – 1,430 จุด (Forward P/E 5 – 15.6x) เป็นระดับที่เพียงพอเช้าซื้อเก็งกำไรหลังการรีบาวน์ระยะสั้น หลังตลาดทราบผลเลือกตั้งสหรัฐ, การประชุมเฟดสัปดาห์หน้า โดยมีแนวต้านที่ 1,460 จุด แนะนำทยอยซื้อ กลุ่มค้าปลีก & ท่องเที่ยว เช่น CPALL,CPAXT,AOT,AAV,BA คาดกำไร Q4/67 จะฟื้นตัวในช่วง High Season/ นิคม ฯ AMATA,WHA,ROJNA คาดได้ปัจจัยบวกจากการย้ายฐานการผลิตหากทรัมป์ชนะเลือกตั้ง / เก็งกำไร CPI, UVAN, APO จากราคาน้ำมันปาล์มที่ปรับขึ้น
  • AOT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 00 บาท) แนวโน้ม 4Q66/67 (ก.ค.-ก.ย.67) คาดกำไรลดลง QoQ เนื่องจากเป็น low season และเริ่มรับรู้ผลกระทบจากรายได้ค่าเช่าพื้นที่และผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่ลดลงของ King Power แต่จะยังปรับตัวดีขึ้น YoY จากสถิติการบินที่ฟื้นตัว มองข้ามไปที่แนวโน้มผลประกอบการ 1Q67/68-2Q67/68 จะกลับมาฟื้นตัว QoQ, YoY เพราะเข้า High Season ท่องเที่ยว โดยในปี 67/68 เราคาดการณ์กำไรสุทธิ 2.2 หมื่นล้านบาท เติบโต +17%YoY ภายใต้สมมติฐานจำนวนผู้โดยสารรวมอยู่ที่ 135 ล้านคน เติบโต +13%YoY และจำนวนเที่ยวบิน 8.3 แสนเที่ยวบิน +13%YoY ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการเปิด Runway 3 ในเดือน พ.ย.67
  • MEB* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 89 บาท) กำไรสุทธิงวด 1H67 +21%YoY ยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องตามรายได้(+ 15%YoY) ที่ขยับขึ้นทั้งในส่วนของแพลตฟอร์ม meb และ readAwrite สำหรับการดำเนินงาน 2H67 นี้  คาดว่าจะยังคงสดใส YoY ต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 4Q67 มีแรงหนุนจากการออกหนังสือใหม่รับสัปดาห์หนังสือแห่งชาติช่วงต.ค. ด้านMEB* เองวางเป้ารายได้ปี67 จะโตราว +10-15%YoY และช่วงถัดไป มีแผนสร้างแพลตฟอร์มวรรณกรรมออนไลน์ใหม่ในตปท. โดยใช้ภาษาท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เน้นประเทศในเอเชียเป็นหลัก ทั้งนี้ ปัจจุบัน ตลาดคาดกำไรสุทธิปี67 และ ปี68 ของ MEB* ที่  453 ลบ.(+17%YoY) และ 522 ลบ.(+15%YoY)

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ธ.ค. +$1.40 อยู่ที่ $68.61 / บาร์เรล, Brent ธ.ค. +$1.43 อยู่ที่ $72.55/บาร์เรล หลังกลุ่มโอเปกพลังเลือนแผนเพิ่มกำลังการผลิต 1.8 แสน บาร์เรล/วัน ใน ธ.ค. ออกไปอีก 1 เดือน ขณะที่ EIA รายงานสต็อคน้ำมันสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 515,000 บาร์เรล

 

Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+$19.70 อยู่ที่ $2,800.80 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจากการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และรอผลการเลือกตั้ง ปธ.สหรัฐในวันที่ 5 พ.ย. และประชุมเฟดวันที่ 7 พ.ย. ขณะที่สภาทองคำโลกเผยอุปสงค์ทองคำโลก Q3/67 +5% อยู่ที่ 1,313 ตัน  

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -227.74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -126.57 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -90.87 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -10.30 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 33.793 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.294 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -7 จุด อยู่ที่ 1,395

(+) BitCoinเช้านี้ +0.02% อยู่ที่ 72,285 ดอลลาร์สหรัฐ

(0) เช้านี้ติดตาม PMI ภาคการผลิตจีน ต.ค. คาด 50 & ก.ย. 49.8 และภาคบริการ ต.ค.คาด 50.4 & ก.ย. 50.0

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

30 ต.ค.     รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ฉบับย่อ

31 ต.ค.     ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

สัปดาห์ที5  สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

                สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

29 ต.ค.     US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี ( ต.ค.)

                US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS (ก.ย.)

30 ต.ค.     US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(ต.ค.)

US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 3) 

31 ต.ค.     CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน ( ต.ค.)

EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ต.ค.) 

US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index (ก.ย.)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

01 พ.ย.     US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) ( ต.ค.)

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ต.ค.) 

                US อัตราการว่างงาน ( ต.ค.)

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย 

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,

(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*

(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB

(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio October 2024: CPALL, WHA, CPF, THCOM, BDMS

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ประคับประคอง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทย คงประคับ ประคอง แกว่งตัวไปมา ท่ามกลาง บริษัทจดทะเบียนไทย...

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้