ภาวะตลาด : SET Index วันศุกร์ปิดขยับขึ้นเล็กน้อย +2.78 จุดปิดที่ 1463.42 โดยตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่ นักลงทุนมีการเลือกซื้อ/ขายเป็นรายบริษัท ปัจจัยติดตาม คือรายงานผลประกอบการ 3Q24 และผลเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐวันที่ 5 พ.ย.นี้ สถาบันในปท.ขายสุทธิ 360 ลบ. ต่างชาติซื้อ-ขายใกล้เคียงกัน

ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ : ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน (ไม่รวมเครื่องบิน อาวุธ) เดือนก.ย.เพิ่ม 0.5% ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 0.1% ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ที่สำรวจโดยม.มิชิแกนเพิ่มเป็น 70.5 สูงสุดนับตั้งแต่เม.ย.24 และดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 68.9
• นักลงทุนรอดูตัวเลขจ้างงานสหรัฐ ทั้งการเปิดรับสมัครงานใหม่, การจ้างงานภาคเอกชน และการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.24
+/- ดัชนีค่าเงินดอลลาร์แข็งเล็กน้อยเป็น 104.4 เงินบาทอ่อนเป็น 33.78 บาท/ดอลลาร์ ด้าน US bond yield 10 ปีพุ่งขึ้นสู่ 4.27% ดัชนี VIX ขยับเป็น 20.33 ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ทรงที่ 145.9 (ระดับสูงสุดรอบนี้ที่ 149) ดัชนี Baltic Dry Index อ่อนต่อเป็น 1410 (สูงสุดรอบนี้ 2110)

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
-/• NPL กลุ่มธ.พ.ใน 3Q24 ยังคงปรับขึ้นแม้ว่าจะมีการตัดหนี้สูญ ขาย NPL ออกไป อย่างไรก็ตาม ยังอยู่ในระดับที่ธ.พ.บริหารจัดการได้ ขณะที่การตั้งสำรอง ECL ยังอยู่ในระดับสูง ด้าน NIM คาดว่าจะทยอยลดลงใน 4Q24F และปี 25F เราจึงคงน้ำหนักลงทุนกลุ่มธ.พ.เป็น Neutral แม้ว่า Valuation จะไม่แพงและจ่ายปันผลสูง แนะนำเลือกซื้อจังหวะอ่อนตัว หุ้นเด่น KTB, BBL, TTB
+ ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมยังมีแนวโน้มดีต่อ คาดว่าจีนจะมีการย้ายฐานการเงินมาไทยเพิ่มขึ้นรวมถึงจะมีการเข้ามาลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับดิจิตอลดาต้าเซ็นเตอร์ คลาวด์ ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ในไทยมากขึ้น หุ้นเด่นเป็น AMATA, WHA

ปัจจัยติดตาม : สถานการณ์ตะวันออกกลาง, โครงการดิจิตอลวอลเล็ตเฟสสอง, มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวเพิ่มเติม, ตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐ, ผลเลือกตั้งปธน.สหรัฐ 5 พ.ย.นี้

กลุยทธ์ : ที่แนวรับ 1460/1477 ชะลอการลง หรือดีดกลับได้...ระยะสั้นยังเป็นการแกว่งตัวลงหรือพักฐานหลังหลุด 1480-1478 และ 1472 แต่ที่โซนแนวรับที่ 1460/1447 หยุดไหลหรือดีดกลับได้ แม้ว่าแนวโน้มจะเสียทรงการขึ้นต่อเนื่องไป ส่วนแนวต้านยังอยู่ที่ 1468/1482/1488-1490 ทิศทางระยะกลางคาดว่าจะยังกลับมาเป็นการแกว่งขึ้นหลังจบการพักฐาน หุ้นเด่นเทคนิควันนี้เป็น CHG, JMT

หุ้นพื้นฐานแนะนำลงทุน : CHG – คาดกำไรสุทธิใน 3Q24F เติบโตแกร่ง +23%YoY, +109%QoQ เป็น 401 ล้านบาท จากรายได้เพิ่ม +15%YoY,+21%QoQ เพราะเป็น high season ของร.พ. และมีรายได้จากประกันสังคมเข้ามา 90 ล้านบาทใน 3Q คาด GPM งวด 3Q24F เพิ่มเป็น 29.5% จาก 21.5% ใน 3Q23 แนวโน้มยังไปได้ดี ประเมินว่าอัตราค่าชดเชยโรคซับซ้อนจาก SSO จะอยู่ที่ 12,000 บาท/ราย แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 3.30 บาท

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@th.dbs.com : Tel 02 587 7829