KKP : ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์

มุมมองหลังการประชุม : คงมุมมองเชิงบวก ได้รับข้อความเชิงบวกสองประการจากการประชุม ประการแรก คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น และจุดต่ำสุดน่าจะผ่านพ้นไปแล้ว แม้ว่าผู้บริหารจะยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับสถานการณ์รถมือสอง ประการที่สองผู้บริหารมุ่งมั่นที่จะจัดการเงินทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อที่ลดลง ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ KKP โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 50.00 บาท

ข้อความจากผู้บริหาร
• การลดลงของ credit cost เป็นผลมาจากคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น เนื่องจากการลดลงของสินเชื่อและกลยุทธ์การปล่อยสินเชื่อที่ระมัดระวังของธนาคาร credit cost ควรจะมีเสถียรภาพ
• สภาวะตลาดทุนที่ดีขึ้นช่วยได้มาก ไม่เพียงแต่ค่าธรรมเนียมนายหน้าเท่านั้น แต่รวมถึงรายได้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าธรรมเนียม IB
• เกี่ยวกับการซื้อหุ้นคืน ธนาคารได้ซื้อหุ้นไปแล้วประมาณ 11 ล้านหุ้น จากงบประมาณ 22 ล้านหุ้น ผู้บริหารกล่าวว่าธนาคารไม่ได้เก็งกำไรราคาหุ้น แต่เชื่อว่า PBV ในระดับปัจจุบันถูกเกินไป ธนาคารอาจยกเลิกหุ้นที่ซื้อ (หากธนาคารไม่ต้องการเงินทุนในขณะนั้น) หากมูลค่าเป็นธรรมในมุมมองของธนาคาร (เช่น 1x PBV) ธนาคารอาจเลือกทางเลือกอื่น เช่น การเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผล
• ผู้บริหารมุ่งมั่นที่จะจัดการเงินทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากโอกาสในการปล่อยสินเชื่อที่ลดลง
• credit cost YTD (รวมผลขาดทุนจากการขายรถยึด) อยู่ที่ 2.35% ดีกว่าเป้าหมายของธนาคารที่ 2.5-2.75% สำหรับปีนี้ 4Q เป็นช่วงที่ธนาคารพิจารณาตั้งสำรองบริหารความเสี่ยง แต่ไม่ควรมีนัยสำคัญ ในระยะกลาง credit cost ควรจะลดลงต่อไปแต่อัตราอาจไม่เร็วอย่างที่ผู้บริหารต้องการ

ธุรกิจธนาคารรายย่อย :
• ยังคงระมัดระวังในธุรกิจสินเชื่อเนื่องจากความเสี่ยงด้านเครดิตสูง ธนาคารยังคงเลือกการจองใหม่และอาจอนุญาต LTV สูงขึ้นสำหรับลูกค้าที่มีคุณภาพสูงเพื่อปรับปรุงราคา
• ธนาคารยังคงดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้และนี่เป็นเหตุผลสำหรับคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น
• ผู้บริหารคาดว่าราคารถมือสองจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญในปีหน้า ซึ่งหมายความว่า LGD อาจยังคงสูง ธนาคารจะพยายามควบคุม PD โดยเข้มงวดมาตรฐานการให้สินเชื่อ เนื่องจากมุมมองนี้ ธนาคารจะยังคงระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อต่อไป
• เนื่องจากการเติบโตของสินเชื่อที่ช้า ธนาคารกำลังลดการระดมทุนที่มีผลตอบแทนสูงเช่นหุ้นกู้ ในอนาคต ธนาคารจะมุ่งเน้นการขยาย CASA โดยได้รับความช่วยเหลือจากแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อควบคุมต้นทุนเงินทุนโดยรวม
• การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นผลดีสุทธิต่อ KKP แม้จะเพียงเล็กน้อย แต่ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจคาดหวังให้ธนาคารใช้ประโยชน์จากผลดีนี้เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบปัญหา
• ตัวเลขใน 3Q : ยอดขายรถยึด = 7.2 พันคัน สินค้าคงคลัง = 3 พันคัน LGD = ต่ำกว่า 50% ยอดขายใน 4Q ควรใกล้เคียงกับ 3Q

ธุรกิจตลาดทุน :
• สภาวะตลาดปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในเดือนสุดท้ายของไตรมาส ผู้บริหารเชื่อว่าอาจจะดำเนินต่อไป