มุมมองตลาดวันนี้
SETมีโอกาสย่อตัวต่อ :โดยมองแรงกดดันมาจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกนำโดย 1) ความกังวลในประเด็นการเมืองกลับมาอีกครงั้ หลังกกต.ชี้ว่าคำร้อ งในกรณีที่นายทักษิณมีแนวโน้มครอบงำพรรคการเมืองนั้น มีมูล ซึ่งอาจนำไปสู่การยุบพรรคเพื่อไทย โดยขั้นตอนต่อไป คือการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบภายใน 30 วัน และ ฟังความเห็นจากนายทะเบียน กระบวนการทั้งหมดคาดจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ. ทำให้ตลาดกลับมากังวลต่อเสถียรภาพของรฐั บาลอีกครั้งเนื่องจากนโยบายต่างๆ รวมถึงโครงการที่รอการอนุมัตอาจหยุดชะงักและ ซ้าเติมภาพการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า อีกครั้งเช่นที่เคยเป็นมาในช่ว งงบประมาณปี66 2) ดอกเบี้ยอาจยังไม่เร่งรีบลง โดยผู้ว่าธปท. ให้ข้อมูลกับส านักข่าวต่างประเทศว่าไม่ได้เร่งรีบจะท าการลดดอกเบี้ยลง หลังได้ประกาศลดไปในสัปดาห์ก่อน เนื่องจากจะต้องรอพิจารณาจากพัฒนาการของอัตราเงินเฟ้อ และ สภาพเศรษฐกิจเป็นหลัก จึงอาจส่ง Sentimentเชิงลบให้หุ้นที่เคยคาดจะได้รับประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาลง เช่น กลุ่มการเงิน กลุ่มอสังหา และ กลุ่มค้าปลีก 3) Sentiment ลบจากภายนอก หลังตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงรับการดีดตัวขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี และ 10 ปี ที่ขึ้นไปแตะระดับ 4.08% และ 4.25% พร้อมกับ Dollar Index ที่พุ่งแตะระดับ 104.42 จุดกดดันต่อภาพรวมการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงและค่าเงินบาทล่าสุดอ่อนค่าแตะระดับ 33.81 บาทต่อดอลลาร์อาจหนุนหุ้นที่มีสัดส่วนส่งออกสูง ส่วนปัจจัยหนุนอื่นมองประเด็นการเตรียมลงทุนในไทยของ Nvidia จะเข้ามาหนุนหุ้นในกลุ่มนิคมฯ ชิ้นส่วนอิเล็กฯ และเกี่ยวเนื่องให้ปรับตัวขึ้นได้ โดย Bloomberg เผยนาย เจนเซน ฮวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nvidiaจะเตรียมเยือนไทยในเดือน ธ.ค. 67 นี้ คาดจะเห็นความคืบหน้าและรายละเอียดของแผนลงทุนครั้งนี้ด้านปัจจัยอื่นมองตลาดยังเน้นจับตางบ 3Q67 โดยในช่วงท้ายสัปดาห์นี้จะเป็น TRUE และ DELTA

กลยุทธ์การลงทุน :1)Nvidia ลงทุนไทย:WHA,AMATA, WHAUP, KCE, DELTA, CCET, GULF, ADVANC 2)Defensive: BCH,BDMS, BH, CHG, PR9, EASTW 3) เก็งงบ3Q67:BEM, BTG, CPF, INTUCH, PRM, TRUE และ 4) Short : BCP, OR, SCC, PTTGC

แนวรับ-ต้าน
1,460 –1,475

ปัจจัยบวก
+ ก.ท่องเที่ยวฯเผยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-20 ต.ค.67 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศแล้วทัง้ สิ้น 27.8 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของ
นักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1.3 ล้านลบ.
+ ยูบีเอส อินเวสเมนท์ แบงก์ (UBS Investment Bank) ของสหรัฐฯ ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้เป็น 4.8% หลังจากที่เศรษฐกิจขยายตัวดีกว่าที่คาดไว้ในไตรมาส 3/2567 โดยในช่วงก่อนหน้านี้ยูบีเอสคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจจีนไว้ที่ 4.6%
+ ครม.มีมติเห็นชอบการลดเงินสมทบกองทุนประกันสังคมของนายจ้างผู้ประกันตนตาม มาตรา 33 และ 39 และ ขยายกำหนดเวลาการยืนแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบกองทุนฯออกไป เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่น้าท่วม
+ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุการทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์จะทำให้ภาระดอกเบี้ยของลูกหนี้รายย่อย และภาคธุรกิจปรับลดลงเกือบ 1,300 ล้านบาท

ปัจจัยลบ
- สหรัฐฯเผยมาตรการที่มุ่งจำกัดการลงทุนของสหรัฐฯในจีนด้านเทคโนโลยีที่อ่อนไหวอยู่ในขัน้ ตอนสุดท้ายของการพิจารณา ภายใต้กฎระเบียบชุดนี้ก.คลังสหรัฐฯ จะกำหนดให้มีการแจ้งเตือนเมื่อมีการลงทุนออกนอกประเทศในจีนสำหรับเทคโนโลยีที่อ่อนไหว
- รายงานของ Tokyo Shoko Research เผยเมื่อต้นเดือนต.ค.67 ว่าญี่ปุ่นมีจำนวนคดีล้มละลายพุ่งสูงถึง 5,000 คดีเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ระหว่างเดือนเม.ย.-ก.ย.67 บริษัททั้ง 5,095 แห่ง มีหนี้สินรวมกันเกือบ 1.38 ล้านล้านเยน โดยหนี้สินส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมบริการ
- สถาบันคุ้มครองเงินฝากเผย ผู้มีเงินฝากในบัญชีไม่เกิน 1 ล้านบาท ฝากเงินน้อยลงกว่า 6.27 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับในสิ้นปี66 เป็นผลจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และ ผลตอบแทนของสินทรัพย์อื่นมีความน่าสนใจมากกว่า
-IMF คาด GDP ไทย ปี 67 โต 2.8% ส่วนปี 68 โต 3% พร้อมเตือนภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนอาจเลวร้ายลง และคาดปีนี้ GDP จีนจะโตเพียง 4.8%

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์