Company Note
Moshi Moshi Retail Corporation
การขยายสาขา/ออกสินค้าใหม่จะช่วยผลักดันกำไรให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เราคาดว่า MOSHI จะประกาศกำไร 3Q24F เติบโตทั้ง YoY และ QoQ จาก 1) ยอดขายที่เติบโตจากการเปิดสาขาใหม่และปัญหา Supply shortage ที่โรงงานจีนคลี่คลาย รวมถึงการออกสินค้าใหม่ผลักดัน SSSG 3Q24F ให้ฟื้นตัว QoQ มาอยู่ที่ 5-6% จาก -8.5%, และ 2) Gross margin เพิ่มขึ้นจากสัดส่วนสินค้า High margin และสินค้า Import เพิ่มขึ้น ส่วนแนวโน้มคาดกำไรพุ่งแรงขึ้นอีกใน 4Q24F เนื่องจากเป็นช่วง High season ประกอบกับบริษัทมีสินค้าใหม่ๆ ที่ได้รับผลตอบรับดีมากวางขายหลายรายการ โดยรวมบริษัทยังคงเป้ายอดขายเติบโต 20% ในปีนี้และตั้งเป้าเติบโตอีก 15-20% ในปีหน้าจากการเปิดสาขาใหม่ 40 สาขา (หาพื้นที่ได้แล้ว 10 แห่ง) และจะทดลองเปิด XL Size Standalone ในช่วง 1Q25 หลังจากปีนี้คาดปิดปีเพิ่มขึ้น 34 สาขา เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจากบริษัทยังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก เนื่องจากมองว่าตลาดในเมืองไทยสามารถรองรับสาขา Moshi ได้สูงถึง 300-350 สาขา (ปัจจุบันอยู่ที่ 158 สาขา) และ Standalone อีก 40-50 สาขา นอกจากนั้นยังมีแผนขยายไปเปิดสาขาในต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาโดยจะเน้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน
คาดกำไรสุทธิ 3Q24F เติบโตดีทั้ง YoY และ QoQ
เราคาดกำไรสุทธิ 3Q24F อยู่ที่ 105 ล้านบาท (+34% YoY และ +40% QoQ หากไม่รวมกำไรพิเศษ) โดยสาเหตุมาจาก 1) คาดรายได้อยู่ที่ 720 ล้านบาท (+23% YoY, +13% QoQ) จากการเปิดสาขา MOSHI ใหม่ 8 แห่งบวก 1 Standalone ทำให้สาขาเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ จาก 119 และ 149 สาขาเป็น 158 สาขา ในขณะที่ SSSG 3Q24 ฟื้นตัว QoQ มาอยู่ที่ 5-6% จาก -8.5% จากการออกสินค้าคอลแลปส์ TEN & CANELE (เตนล์และกานูเล่) และ Thai Designer แบรนด์ Butterclub ที่วางขายปลายก.ค. รวมถึงสินค้า Art Toy, Model Toy, กล่องสุ่ม รวมถึงปัญหา Supply shortage จากโรงงานจีนคลี่คลาย, 2) Gross margin คาดว่าจะดีขึ้น YoY และ QoQ จาก 53.1% เป็น 53.7% โดยมาจากสัดส่วนสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้นและสัดส่วนสินค้า Import เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ จาก 55% เป็น 60%, และ 3) SG&A เพิ่มขึ้นน้อยกว่ายอดขายทำให้ SG&A to Sales ลด YoY และ QoQ จาก 34% และ 35.9% เป็น 33.2%
คาดยอดขายเติบโตต่อเนื่องจากการเปิดสาขาใหม่และเพิ่มสินค้าใหม่
เราคาดยอดขายและกำไร 4Q24F จะเติบโตเพิ่มขึ้นอีกทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากเป็นช่วง Peak season และบริษัทจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 5 MOSHI และ 1 Standalone รวมถึงมีการออกสินค้าลิขสิทธิ์ใหม่ๆ เช่น สินค้าคอลแลปส์กับ NCT Dream ในเดือนต.ค. (ปริมาณสินค้ามากกว่าสินค้า NCT Dream ที่เคยออกในเดือนธ.ค. 2023 ถึง 3 เท่า) โดยสินค้าบางตัวหมดภายในเวลาไม่กี่วัน และยังมีสินค้า Pre Order ที่จะทยอยส่งไปจนถึงต้นปีหน้า, สินค้าคอลแลปส์กับ Thai Artist แบรนด์ใหม่จะออกในเดือนพ.ย. และสินค้าจาก 52TOYS โดยเริ่มแรกวางขายใน 3 สาขาและเพิ่มเป็น 12 สาขาภายในปลายปี นอกจากนี้บริษัทยังได้ทดลองวางขายสติ๊กเกอร์ใน 7-11 จำนวน 20 แห่งในวันที่ 12 ก.ย.และวางแผนที่จะเพิ่มเป็น 50 สาขาภายในปลายเดือนต.ค. (ปัจจุบันยังรอ Feedback จากทางเซเว่น หากได้รับผลตอบรับดีจะเพิ่มจำนวนสาขาวางขายและอาจมีการขยายไปยังสินค้าอื่นๆ) ทั้งนี้จากสินค้า NCT Dream ที่เริ่มวางขายในช่วงวีคที่ 2 ของเดือนต.ค. ส่งผลให้ SSSG ในช่วงครึ่งเดือนแรกของต.ค. สูงถึง 30% (หากไม่รวมสินค้า NCT Dream SSSG อยู่ที่ 10%)
แนวโน้มกำไรยังสดใสจากสัดส่วนสินค้ามาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้นและการประหยัดจากขนาด
นอกจากยอดขายที่เติบโต Gross margin ก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากสินค้าลิขสิทธิ์และสินค้าในช่วงเทศกาล เช่น Halloween (Import 100%) เป็นสินค้า margin สูง รวมถึงการประหยัดจากขนาด ส่วนงาน Exhibition 2 งานคือ Kitty และ Sanrio Characters ที่ Central World ยังได้ผลตอบรับไม่ดีเท่าที่คาด บริษัทจึงมีแผนที่จะขยายระยะเวลาจัดงานไปถึงปลายปีนี้หรือวันเด็กปีหน้า เพราะคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในช่วง High season น่าจะช่วยผลักดันจำนวนผู้เข้าร่วมงานให้มากขึ้น (โดยบริษัทจะบันทึกรายได้ส่วนนี้ตามหลัก Proportionate Consolidation ตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทที่ 50%) และบริษัทตั้งเป้ารายได้ในส่วนนี้จะอยู่ที่ 1% ของยอดขายรวม
คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าที่เหมาะสม 65 บาท
เราคงประมาณการกำไรและมูลค่าที่เหมาะสมของ MOSHI ที่ 65 บาท ซึ่งคิดจากวิธีคิดลดมูลค่าของกระแสเงินสด (Discount Cash Flow) ด้วยสมมติฐาน WACC 7.4% โดยอิงจาก risk free rate 3.2% risk premium 6.4% Beta 1 average cost of debt ที่ 4% และ Terminal growth 1%