Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

302

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 15 ต.ค.67 ปิด -5.07 จุด อยู่ที่ 1,465.03 จุด มูลค่าการซื้อขาย 64,670 ลบ.ต่างชาติขาย 2,355 ลบ.พอร์ตโบรกขาย 501 ลบ.สถาบันซื้อ 1,926 ลบ. และรายย่อยซื้อ 930 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 244 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น DELTA,ADVANC,BBL,AOT,CBG และยอดขายในหุ้น PTTEP,IVL,KBANK,KTB,GULF มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,933 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ NDX01,PSH,OR โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 2,866 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 93,091 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 2,288 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.75%, S&P500 -0.76%, Nasdaq -1.01% กลุ่มเทคโนโลยี -1.8% หลัง Nvidia -4.7% รับข่าวรัฐบาลสหรัฐเตรียมควบคุมการส่งออกชิป Ai ส่วนกลุ่มพลังงาน -3% ลดลงตามราคาน้ำมันดิบ แต่ได้แรงหนุนจากกลุ่มอสังหา ฯ +1.2%, สินค้าอุปโภคบริโภค +0.60% ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.80% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี -6.5% นำโดย ASML -15.6%

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย Nvidia -4.7% รับข่าวรัฐบาลสหรัฐเตรียมควบคุมการส่งออกชิป Ai ของสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนีเซมิคอนดักเตอร์ในตลาดฟิลาเดลเฟีย -5.3% ขณะที่กลุ่มพลังงาน -3% ลดลงตามราคาน้ำมันดิบ หลังอิสราเอลอาจไม่โจมตีแหล่งพลังงานของอิหร่าน ส่วนรายงานงบ บจ.สหรัฐนั้น UnitedHealth บริษัทประกันสุขภาพ -8% จากคาดการณ์กำไรปี 68 อาจต่ำกว่าเป้าหมาย โดยค่ำวันนี้ติดตามรายงานงบ Q3/67 ของ Goldman Sachs, Citi Group, Bank of America, Morgan Stanley และวันพฤหัสติดตามยอดค้าปลีกสหรัฐ ก.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และรายงานงบของ Netflix รวมถึงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลงจากแรงชายกลุ่มเทคโนโลยี -6.5% นำโดย ASML -15.6% หลังยอดจองซื้อรายไตรมาสปรับลดลง ซึ่งอาจส่งผลให้ยอดขายปี 68 ต่ำกว่าคาด ส่วนกลุ่มพลังงาน -3.3% ซึ่งปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบ -5% โดยวันพรุ่งนี้ติดตาม CPI ยูโรโซน ก.ย. คาดลดลงอยู่ที่ 8% & ส.ค. 2.2% YoY และการประชุม ECB ซึ่งคาดจะลดดอกเบี้ยลง 0.25% ซึ่งจะเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในรอบปีนี้     
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -2.53%, ฮั่งเส็ง -3.67% หลังนักลงทุนผิดหวังต่อ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจีน ที่ยังไม่สามารถระบุเม็ดเงินที่จะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งตลาดคาดหวังว่ารัฐบาลจีนใช้เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจราว 2 – 6 ลล.หยวน ขณะที่ดัชนีนิเกอิวานนี้ +0.77% ตอบรับมุมมองบวกต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสัปดาห์นี้วันศุกร์ติดตาม GDP จีน Q3/67 คาด 6% & Q2/67 4.7% YoY รวมถึงยอดค้าปลีก, ผลผลิตภาคอุต ฯ, ราคาบ้าน และอัตราว่างงานจีน ก.ย.    
  • ดัชนี SET วานนี้ -0.34% ปริมาณการซื้อขาย 6.4 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 2,355 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 501 ลบ. สถาบันซื้อ 1,926 ลบ. และรายย่อยซื้อ 930 ลบ. โดยดัชนีถูกแรงขายจากกลุ่มที่พึงพาอุปสงค์จากจีน เช่น วัสดุก่อสร้าง -2.99%, บรรจุภัณฑ์ -2.95% และปิโตรเคมี -2.1% หลัง ก.คลังจีนยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเม็ดเงินที่จะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งอาจส่งผลให้ GDP จีนปีนี้อาจขยายต่ำกว่าเป้าหมายที่ 5% ขณะที่กลุ่มค้าปลีกก็ถูกแรงชายกำไร หลัง ม.แจกเงินสดกลุ่มเปราะบาง 1.4 แสน ลบ. มีผลกระทบต่อการกระตุ้นกำลังซื้อค่อนข้างน้อย เนื่องจากภัยน้ำท่วมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยราว 3 หมื่น ลบ. คิดเป็น -0.16% ของ GDP ส่วนปัจจัยที่ช่วยหนุนดัชนี คือ เม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ และปรับขึ้นของหุ้น Market Cap.สูง เช่น DELTA, GULF, ADVANC สำหรับผลการประชุม ครม.วานนี้ พิจารณาออก ม.ช่วยน้ำท่วมผ่านธนาคารรัฐ, ก.คมนาคม & คลังศึกษาทำโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งคาดจะเริ่มได้ในช่วง ก.ย. 68 และรอพิจารณา ม.กระตุ้นท่องเที่ยวภาคเหนือ ประเด็นสำคัญวันนี้ติดตามการประชุม กนง.ซึ่งคาดจะคงดอกเบี้ยที่ 2.5% แต่อาจจะเริ่มส่งสัญญาณเขิงผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้มีโอกาสลดดอกเบี้ยได้ในการประขุม ธ.ค. นี้

Daily Strategy

  • วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,455 – 1,460 โดยมีแนวต้าน 1,470 – 1,475 คาดดัชนีมีโอกาสปรับฐานลงจากแรงขายกลุ่มอิเล็ก ฯ และรอผลการประชุม กนง. ในช่วงบ่ายนี้ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT,COM7 จาก ม.กระตุ้นกำลังซื้อ/ ไฟแนนท์ SAWAD,MTC,KTC,JMT, SCG คาด กนง.มีโอกาส่งสัญญาณเชิงผ่อนคลายมากขึ้น/ กลุ่มปลอดภัย BH,BDMS,ADVANC,CKP
  • COM7* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 23.80 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 2Q67 ที่ 752 ล้านบาท -9%QoQ, +7%YoY ลดลงจากปีก่อนตามอัตรากำไรขั้นต้น ขณะที่ SG&A เพิ่มขึ้นจากการขยายสาขา (ปัจจุบันมี 1,382 แห่ง) และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ส่วนแนวโน้มช่วงที่เหลือของปีคาดผ่านจุดต่ำใน 2Q67 ไปแล้ว โดยในช่วง 3Q67 แม้ถูกกดดันจากปัจจัยฤดูกาลแต่มีส่วนชดเชยจากการเปิดตัวสินค้า iPhone16 ในเดือน ก.ย. และน่าจะฟื้นตัวขึ้นต่อใน 4Q67 เป็นจุดสูงสุดของปีตามการบริโภคที่ฟื้นตัวและความต้องการสินค้า AI ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 67-68 ที่ 1 พันล้านบาท +9%YoY และ 3.5 พันล้านบาท +12%YoY
  • MAJOR* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย BB Consensus 16 บาท) แนวโน้มการดำเนินครึ่งปีหลังยังมีปัจจัยการขับเคลื่อนจากกระแสภาพยนตร์ไทยที่ยังเป็นที่นิยม โดยเฉพาะในไตรมาส4/67 เปิดเดือนต.ค. ด้วย ธี่หยด2 ซึ่งฉาย 5 วัน รายได้มากกว่า 350 ล้านบาท ขณะที่ช่วงที่เหลือของไตรมาส4 ยังมีโปรแกรมหนังที่น่าสนใจ เช่น 404 สุขีนิรันดร์, Gladiator2, Sonic3 เป็นต้น นอกจากนี้ รายได้ค่าโฆษณา และรายได้จากการขายอาหารเครื่องดื่มโดยเฉพาะป็อปคอร์น ก็คาดว่าจะลู่ขึ้นตามอัตราการเข้าโรงเช่นกัน ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิของ MAJOR* ปี67 และ68 จะอยู่ที่ 796 ลบ. (-24%YoY/ปี66 มีกำไรพิเศษจากการขาย MPIC ราว 346 ลบ.) และ 977 ลบ.(+23%YoY)

 

 

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI พ.ย. -$3.25 อยู่ที่ $70.58 / บาร์เรล, Brent ธ.ค. -$3.21 อยู่ที่ $74.25/บาร์เรล หลังอิสราเอลอาจไม่โจมตีเป้าหมายด้านพลังงาน & โรงไฟฟ้านิวเคลีย์ของอิหร่าน ขณะที่ตลาดกังวลต่ออุปสงค์น้ำมันจากจีนมีแนวโน้มชะลอตัว

 

Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+$13.30 อยู่ที่ $2,678.90 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.04% อยู่ที่ 103.259 และผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับลดลงอยู่ที่ 4.03%   

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -37.85 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมียอดขายหุ้นไทย -70.74  ล.ดอลลาร์หสหรัฐ, ซื้อหุ้นอินโดฯ +21.85 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +11.04 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 32.31 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.037 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -48 จุด อยู่ที่ 1,766

(+) BitCoinเช้านี้ +1.88% อยู่ที่ 67,166 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

16 ต.ค.     ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 5/2567

สัปดาห์ที3  ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

สัปดาห์ที4  ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์

กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย

 

ต่างประเทศ

17 ต.ค.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ก.ย.)

                EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ( ต.ค.)

                EU การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของธนาคารกลางแห่งยุโรป 

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US ดัชนียอดขายปลีก (ก.ย.)

18 ต.ค.     US ดัชนีจีดีพี (GDP) ของจีน (ไตรมาส 3)

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย 

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,

(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*

(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB

(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio October 2024: CPALL, WHA, CPF, THCOM, BDMS

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้