สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(15 ตุลาคม 2567)--------VRANDA เผยกระแสตอบรับบ้านพักตากอากาศในภูเก็ตไม่แผ่ว ล่าสุด โครงการ “วีรันดา วิลล่า แอนด์ สวีท ภูเก็ต” พูลวิลล่าและคอนโดมิเนียมพร้อมสระน้ำส่วนตัว มียอดขายกว่า 590 ล้านบาท คาดเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ยูนิตแรกได้ภายใน ธ.ค.นี้ พร้อมเตรียม Soft opening โรงแรมแห่งใหม่ “วีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต-ออโต้กราฟ คอลเลกชัน”และส่วนขยาย “วีรันดา คอลเลกชัน สมุย - ร็อคกี้ รีสอร์ท” ปลายปีนี้เพื่อเตรียมรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซัน

นายภวัฒก์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA ผู้นำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจไลฟ์สไตล์ ได้เผยถึงความสำเร็จในโครงการล่าสุด “วีรันดา วิลล่า แอนด์ สวีท ภูเก็ต” (Veranda Villas & Suites Phuket) ซึ่งอยู่ฝั่งใต้ของเกาะภูเก็ตบริเวณ ‘พันวา - อ่าวยน’ บนพื้นที่สโลปภูเขาพร้อมวิวทะเลทุกยูนิต โครงการนี้มีทั้งหมด 17 ยูนิต ประกอบไปด้วยพูลวิลล่า (Pool Villas) จำนวน 6 หลัง และคอนโดมิเนียมพร้อมสระว่ายน้ำ (Pool Suites) จำนวน 11 ยูนิต โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 27.5 – 175.9 ล้านบาท ล่าสุดในส่วนของพูลวิลล่า มียอดขายแล้ว 4 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 385 ล้านบาท และส่วนของคอนโดฯ มียอดขาย 9 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 204 ล้านบาท รวมมูลค่าขายทั้งสิ้น 589 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการรวม 882 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ยูนิตแรกได้ภายในเดือนธันวาคมนี้

นอกจากนี้ VRANDA ยังเตรียมเปิดโรงแรมแห่งใหม่ในจังหวัดภูเก็ต “วีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต - ออโต้กราฟ คอลเลกชัน” (Veranda Resort Phuket, Autograph Collection) ภายใต้เครือ Marriott International จำนวน 159 ห้อง มูลค่าโครงการกว่า 1.5 พันล้านบาท ซึ่งจะเปิดให้บริการแบบ Soft Opening ในปลายธันวาคมนี้ อีกทั้งยังมีส่วนขยายของโรงแรม “วีรันดา คอลเลกชัน สมุย - ร็อคกี้ รีสอร์ท” (Veranda Collection Samui - Rocky’s Resort) เพิ่มอีก 20 ห้อง เตรียมเปิดตัวปลายเดือนธันวาคม ทำให้บริษัทฯ มีห้องพักที่สมุยรวมทั้งหมด 70 ห้อง รองรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซันนี้

ด้าน บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ มอง VRANDA ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/67 ธุรกิจโรงแรมดีขึ้นในช่วงไตรมาส 3/67 ขณะที่การโอนฯอสังหาริมทรัพย์จะเป็นตัวช่วยผลักดันกำไรช่วงไตรมาส 4 มองผลดำเนินงานในปี 2568 turnaround เติบโต 200% โดยมีราคาเหมาะสมที่ 7.20 บาท 10x PER ปี 2568 ในขณะที่เฉลี่ยหุ้นในกลุ่มเทรดกันในช่วง 18-31x PER ปีหน้า