AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ฟื้นตัว ลุ้น Flow ไหลกลับ
เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

Market Strategy
SET Index คาดฟื้นตัวตามกรอบ 1445-1465 จุด จากความรุนแรงในตะวันออกกลางที่ดูจะไม่บานปลาย Bond Yield สหรัฐฯ ทีเริ่มทรงตัว ขณะที่ปัจจัยในประเทศหลังจากสถานการณ์น้ำในภาคเหนือมีแนวโน้มคลี่คลาย กลยุทธ์วันนี้เลือก BCH TASCO
ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ล่าสุดมีรายงานว่าอิสราเอลน่าจะตอบโต้ไปที่เป้าหมายทางการทหารมากกว่าเป้าหมายทางแหล่งนิวเคลียและน้ำมันของอิหร่าน ด้านฮิซบอลเลาะซ์มีความเป็นไปได้ที่เจรจาหยุดยิงกับอิสราเอล ความรุนแรงที่ดูจำกัดวงกดดันต่อราคาน้ำมันดิบ Brent วานนี้ปรับลง 4.6% ซึ่งเรามองเป็นบวกต่อเม็ดเงินเคลื่อนย้ายเข้าตลาดหุ้นมากขึ้น ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ปรับขึ้น หลังจากตลาดเริ่มปรับมุมมองต่อการปรับลดดอกเบี้ยฯปีนี้ให้ช้าลงที่ 50 bps จากเดิม 75 bps ส่งผลให้ U.S. Bond Yield 2 และ 10 ปีแกว่งทรงตัว หนุนหุ้นกลุ่มเทคฯ อย่าง NASDAQ +1.5% บวกนำ การเคลื่อนไหวข้างต้นน่าจะเป็นบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้าอย่าง GPSC GULF กลุ่มอิเล็คฯ DELTA
จีนวานนี้คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ประกาศแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะออกพันธบัตรพิเศษมูลค่ารวม 1 ล้านล้านหยวน เพื่อสนับสนุนโครงการท้องถิ่นและเตรียมเผยแผนการลงทุนมูลค่า 100,000 ล้านหยวนสำหรับปีหน้าภายในสิ้นเดือนนี้ และพร้อมออกมาตรการเพิ่มเติมสนับสนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์และกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ การประกาศแผนการกระตุ้นข้างต้นไม่ได้สร้าง Positive Surprise ทำให้มีแรง Sell on Fact กดดันต่อตลาดหุ้นฮ่องกงวานนี้ปรับลง 9.4% สัญญาณข้างต้นเป็นปัจจัยที่ทำให้เม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าจีนชะลอลง ซึ่งอาจเคลื่อนย้ายมายังตลาดหุ้นอื่นๆ เช่น ไทยมากขึ้น
สำหรับการประชุม ครม. วานนี้อนุมัติเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 9000 บาท วงเงิน 3 พันล้านบาท ขณะที่สถานการณ์น้ำในเชียงใหม่เริ่มคลี่คลาย ลำดับถัดไปอยู่ในช่วงของการฟื้นฟู ซ่อมแซม ซึ่งมองเป็นบวกต่อ TASCO GLOBAL HMPRO เป็นต้น

Market Summary
SET ปิดบวก 0.6 จุด กลุ่มที่ปรับเด่น คือ กลุ่มประกันตาม Bond Yield สหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นแรงหนุน BLA +5% TLI +9% กลุ่มธนาคารฟื้นตัวหลังจากแรงกดดัน กนง.ลดดอกเบี้ยน้อยลงหนุน KTB BBL KBANK ปรับขึ้นช่วง 1-1.6% และกลุ่ม CPN +0.8% และ CRC +3% คลายความกังวลหลังกลุ่มเซนทรัล จับมือกลุ่ม PIF ร่วมลงทุน Selfridges สวนกลุ่มโรงไฟฟ้า GPSC -2% GULF -1.7% กลุ่มอิเล็คฯ DELTA -0.9% กดดันจาก Bond Yield ขึ้น

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ BCH TASCO

TASCO กำไรฟื้นเด่นครึ่งปีหลัง
คาดกำไร 2H67 จะฟื้นตัวเด่น แรงหนุนจากตลาดยางมะตอยในประเทศตามการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 เราคาดปริมาณขายยางมะตอยในประเทศของใน 3Q67 จะเพิ่มเป็น 165,000 ตัน (+65% YoY , +67% QoQ) ขณะที่ 4Q67 จะดีต่อตามเม็ดเงินงบประมาณปี 68 ที่จะเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่ ต.ค. 67 เป็นต้นไป
เราคาดปริมาณส่งออกจะเพิ่มเป็น 170,000 ตัน (+6% YoY , +34% QoQ) ด้านราคาขายทั้งตลาดต่างประเทศ และ ในประเทศปรับเพิ่มขึ้นจาก 2Q67 ประมาณ 5-10% QoQ จึงคาดกำไรปกติ 3Q67 ฟื้นตัวเด่นขึ้น 500-800 ล้านบาท (+120% YoY,+103%QoQ) ส่วน 4Q67 คาดผลประกอบการดีขึ้นอีก
ระยะสั้นได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงและการซ่อมแซมถนนหลังปัญหาน้ำท่วมคลี่คลาย
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 19.50 บาท

BCH คาดผ่านจุดที่แย่ที่สุดไปแล้ว
คาดกำไร 3Q67 จะเติบโต YoY และ QoQ อย่างมาก หนุนจากการปรับรายได้เพิ่มประมาณ 70 ล้านบาท (เทียบกับ 54 ล้านบาทใน 4Q66) และการเข้าสู่ช่วง High Seasoท ของธุรกิจ
ส่วนกำไร 4Q67 จะลดลงทั้ง YoY และ QoQ จากการปรับ RW>2 ที่ 7.2 พันบาท/RW (ลดลงจาก 1.2 หมื่นบาท/RW) เพื่อลดความกังวลเรื่องการกลับรายการรายได้ในปีหน้าแต่มองว่าตลาดรับรู้ไปแล้วและให้ความสำคัญกับการฟื้นตัวในปี 68
เราคาดรายได้ปี 68 เติบโตราว 10% บนสมมติฐานที่อนุรักษ์นิยมว่าผู้ป่วยจากคูเวตยังไม่กลับมาและค่ารักษาของ RW>2 จะถูกบันทึกที่ราคาต่ำกว่าปกติที่ 1.08 หมื่นบาท/RW ทั้งนี้หากประกันสังคมมีการปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลมากกว่าอัตราข้างต้นถือเป็น Upside ต่อประมาณการทันที
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 19.50 บาท

KEY FACTOR
ตลาดหุ้นต่างประเทศกลับมาผันผวนสูงจาก 1) ประเด็นตะวันออกกลางที่ยังมีความไม่แน่นอน บนความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล และ อิหร่าน และ 2) ตลาดหุ้นจีนกลับมาเปิดทำการหลังหยุดยาว ดัชนี SHCOMP ที่แม้จะปิดบวก +4.59% แต่ในระหว่างมีแกว่งทำจุดต่ำ-สูงสุดในระหว่างวันที่ +1.09% และ +10.13% ตามลำดับ ซึ่งมีช่วงห่างถึง 9.06% ในขณะที่ Hang Seng ปรับตัวลงแรง -9.41% ทำจุดต่ำสุดในรอบ 6 วันทำการ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรและสร้างความผิดหวังต่อตลาด คือ การแถลงของประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ที่ยืนยันฟื้นเศรษฐกิจสู่เป้าหมาย แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่เพิ่มเติม
หากประเมินจากมุมมองของ Bloomberg Consensus ซึ่งล่าสุดยังคงประมาณการณ์ GDP ของทั้งปีนี้ที่ 4.8% และปีหน้าที่ 4.5% ยังไม่มีการปรับเพิ่มคาดการณ์หลังจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ตั้งแต่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา บ่งชี้ว่าตลาดยังอยู่ในช่วงประเมิน และรอดูผลต่อภาคเศรษฐกิจจริง สวนทางกับภาวะตลาดที่ปรับตัวขึ้นไปแรงก่อนหน้านี้ (SHCOMP +26.95% Hang Seng +14.69%)

EYES ON
10 ต.ค. CPI เดือน ก.ย. ของสหรัฐฯ
11 ต.ค. PPI เดือน ก.ย. ของสหรัฐฯ

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ