Company
เอสไอเอสบี
แนวโน้มผลประกอบการยังเติบโตต่อเนื่อง จำนวนนักเรียนได้ตามเป้าหมาย
ผู้บริหารมั่นใจแนวโน้มผลประกอบการปีนี้เติบโตต่อเนื่อง จาก
จำนวนนักเรียนปัจจุบัน อยู่ที่ 4,565 คน ใกล้เคียงกับเป้าหมายของบริษัทปีนี้ที่ 4,600 คนแล้ว
บริษัทมีแผนทำโครงการ “Halving Project” เป็นโรงเรียนอินเตอร์ที่มีระดับค่าเทอมที่รองลงมาดึงส่วนแบ่งการตลาดจากนักเรียน 2 ภาษา โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดินคาดว่าจะเห็นได้ในเร็วๆนี้ โดยหากสำเร็จคาดจะดำเนินงานได้ในปี 2026 หรือปี 2027
ความคืบหน้าในการขยายสาขาเดิม 1,800 ที่นั่ง สำหรับปี 2024-25F โดย สาขาเชียงใหม่เฟส 2 จำนวน 300 ที่นั่ง เริ่มดำเนินงานแล้ว ก.พ. 24, สาขาประชาอุทิศเฟส 3 600 ที่นั่ง เริ่มเปิดดำเนินงาน 1Q26,สาขาธนบุรี โครงการ 3.1 ขยาย 300 ที่นั่ง ตึกชั้นปฐม เสร็จ ส.ค.24 แล้ว และโครงการ 3.2 ขยายพื้นที่ 600 ที่นั่ง ซื้อที่ดินรองรับมัธยมปลาย พร้อมให้บริการ ส.ค.25 ปัจจุบัน 4 สาขาเดิมของบริษัทมีอัตราจำนวนนักเรียน 80-90%, สาขาใหม่นนทบุรี 78% และระยอง 48%
บริษัทได้ซื้อระบบการสอนภาษากับพาร์ทเนอร์ที่มาเลเซียซึ่งมีศูนย์สอนภาษาอังกฤษหลักสูตร UK มีความเชี่ยวชาญเฉพาะและสามารถวัดผลชัดเจนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด (tracking system) เริ่ม 19 ต.ค.24.นี้ โดยทางโรงเรียนได้มีการติดต่อเด็กที่ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานภาษาอังกฤษให้กลับมาเรียนปรับพื้นฐานเพื่อทดสอบอีกครั้ง และมีแผนในอนาคตพัฒนาเปิดโรงเรียนสอนภาษาให้บุคคลภายนอก
แนวโน้มผลประกอบการ 3Q24F เติบโต YoY, QoQ จากเปิดเทอมใหม่และค่าเทอมที่ปรับเพิ่มขึ้น
เราคาดกำไรสุทธิ 3Q24F จะอยู่ที่ 228 ล้านบาท (+77%YoY, +9%QoQ) จากการเปิดเทอมการศึกษใหม่ช่วงเดือน ส.ค. จำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นประมาณ 208 คน มาอยู่ที่ 4,565 คน แบ่งเป็นสัดส่วนสาขานนทบุรีเพิ่มขึ้น 52%, เชียงใหม่ 18% ตามด้วยระยอง 13% โดยเทอมการศึกษาใหม่เปิดเดือน ส.ค. บริษัทมีการปรับค่าเทอมเพิ่มขึ้น 5% (ค่าเทอมการปรับระดับชั้นเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 7-8%) สำหรับสาขาใหม่ที่เปิดปีที่ผ่านมาคือ นนทบุรี ปัจจุบันมีจำนวนนักเรียน 480 คน และสาขาระยองมีจำนวนนักเรียน 156 คน บริษัทมีการติดต่อเอเจนซี่เพื่อนำเสนอสาขาระยองให้กับเด็กจีน จากปัจจุบันที่มีเด็กจีนจำนวนมากที่สาขาประชาอุทิศและเชียงใหม่ เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2024-25F เพิ่มขึ้น +39%YoY และ +25%YoY ตามลำดับ คาดค่าเทอมเฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ 7% จากการปรับค่าเทอมและโครงสร้างนักเรียนในระดับปฐมและมัธยมที่เพิ่มขึ้นที่มีค่าเทอมสูงกว่าจากการขึ้นระดับชั้นทุก 2 ปี คาดจำนวนนักเรียนปี 2024-25F เพิ่มขึ้น 405 คน และ 410 คน ตามลำดับ ในขณะที่ต้นทุนส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่จากบุคลากรครูเป็นหลัก
เรายังคงคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 50 บาท
เราแนะนำ “ซื้อ” จากคาดผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องจากการเติบโตของโรงเรียนทุกสาขาที่มีทำเลดีและค่าเทอมอยู่ระดับกลางในกลุ่มโรงเรียน Inter Premium รวมถึงมีหลักสูตรสิงคโปร์ 3 ภาษา ที่มีภาษาจีนเพิ่มขึ้นตอบโจทย์ผู้ปกครอง และ ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 50 บาท อ้างอิงวิธี DCF (WACC 8%, T-growth 1.5%) ราคาเป้าหมายเทียบเท่า PEG24F 1.3X, บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็นเงินสดสุทธิ (net cash) ความเสี่ยง : 1) การแข่งขันของโรงเรียนนานาชาติ 2) การขาดแคลนบุคลากร