Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

480

 

 

 

SET Index พักตามกรอบ 1430-1450
สะสมหุ้นที่ผลประกอบการยังแข็งแกร่ง
Market Strategy
SET Index คาดพักตัวตามกรอบ 1430-1450 จุด จากความตึงเครียดในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอล-อิหร่านที่มีอยู่ รวมถึงการติดตามตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯเดือน ก.ย. ที่จะรายงานในคืนนี้ น่าจะทำให้นักลงทุนอยู่ในช่วง Risk Off โหมด กลยุทธ์วันนี้แนะนำรอสะสมหุ้นพื้นฐานดี กำไรมีแนวโน้มเติบโต AOT BEM

 

ความตึงเครียดในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอล-อิหร่านที่ยังมีอยู่สูง ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในช่วงติดตามแนวทางการตอบโต้ของอิสราเอล ที่ตลาดกังวลต่อการโจมตีไปที่แหล่งผลิตน้ำมันของอิหร่าน หนุนราคาน้ำมันดิบBrent ปรับขึ่นแรง 5% เม็ดเงินเคลื่อนเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยหนุน Dollar Index แข็งค่า 0.3% สวนทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลงในช่วง -0.2% ถึง -0.4% ภายใต้สถานการณ์ที่ยังเปราะบางประกอบกับวันนี้จะมีการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯ (คาดเพิ่มขึ้น 1.5 แสนตำแหน่ง) อัตราการว่างงานเดือน ก.ย. (คาด 4.2%) และเข้าสู่วันหยุดระหว่างสัปดาห์ จึงทำให้นักลงทุนอยู่ในโหมดชะลอลงทุน

 

ปัจจัยในประเทศวานนี้ รมช.คลัง อยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เกี่ยวกับมาตรการทางด้านภาษีเพื่อกระตุ้นภาคบริโภคในปีนี้ ที่จะยังไม่ใช่มาตรการคนละครึ่ง โดยหากอิงกับมาตรการทางภาษีที่มาจากพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมา มีการใช้มาตรการ Easy E-Receipt ซื้อสินค้ากับร้านที่อยู่ในระบบภาษีและนำไปลดหย่อนวงเงิน 5 หมื่นบาท หากเกิดขึ้นเรามองเป็นบวกต่อ SSSG ของหุ้นกลุ่มค้าปลีกในช่วง 4Q67 เนื่องจากปีก่อนไม่ได้มีมาตรกระตุ้นช่วงปลายปี ซึ่งเรามองเป็นบวกกับ CPALL CPAXT BJC HMPRO และ COM7

 

สำหรับประเด็นอื่นๆ วานนี้ รมว.คลังมีการหารือนอกรอบกับผู้ว่า ธปท. โดยมี 4 ประเด็นหลัก 1) การปัญหาหนี้ครัวเรือน 2) ดอกเบี้ยนโยบาย 3) การแข็งค่าเงินบาท และ 4)การกรอบเงินเฟ้อฯ ซึ่งโทนโดยเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลและมุมมองจากทั้ง 2 ฝ่าย แต่ยังไม่ได้เห็นการมาตรการที่เป็นรูปธรรมออกมา

 

Market Summary
SET Index ปรับลง 0.6% ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคจากความกังวลต่อความตึงเครียดในตะวันออกกลาง กลุ่มที่ปรับแรงกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ DELTA -1.8% HANA -3% กลุ่มยางพารา STA -12% NER -3.8% STGT -7% จากคณะกรรมการยุโรปเสนอเลือนการบังคับใช้กฎ EUDR ออกไป 12 เดือน (เดิมมีบังคับใช้ 30 ธ.ค. 67) กลุ่มธนาคาร KBANK -1.3% ตาม Flow ไหลออก ส่วนกลุ่มปรับขึ้น GULF +2.2% INTUCH +5% จากผู้ถือหุ้นโหวตอนุมัติควบรวม

 

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ AOT BEM
AOT
Earnings Trend ดูสดใส
เราคาดว่า AOT จะรายงานกำไรในไตรมาส 4/67 (กรกฎาคม-กันยายน 67) ที่ 4.1 พันล้านบาท (+13% YoY, -8% QoQ) การลดลง QoQ เกิดจากการเรียกคืนพื้นที่ขายสินค้าปลอดอากรทั้งขาออกและขาเข้า ส่วนการเพิ่มขึ้นของกำไร YoY จะมาจากปริมาณผู้โดยสารที่ฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ 86% ของระดับก่อนเกิดโควิด เราคาดการณ์ว่ากำไร 1Q68 (ต.ค.-ธ.ค.) จะเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นและได้ประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด

 

เรามีการปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 75.0 บาท หลังปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปีงบ 68 โดยคาดว่ากำไรในปี 68 จะเติบโต 22%YoY เนื่องจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ เราประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้า 41 ล้านคนในปี 68 (+14% YoY) ประมาณการกำไรหลักปี 69-70 มีอัพไซด์ 5-6% จาก PSC สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางต่อเครื่อง
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 75.00 บาท

 

BEM
กำไรกำลังมา
แต่ราคายังไม่ไป
คาดว่ากำไร 3Q67 มีโอกาสขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ หนุนจากจำนวนผู้โดยสาร MRT และผู้ใช้ทางด่วนฟื้นตัวจากช่วงเปิดเทอมของทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัย การปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินตั้งแต่ 3 ก.ค.67 รวมถึงประสิทธิภาพในการสร้างกำไรที่สูงขึ้น ช่วยหนุนกำไรปี 67 ขยายตัวได้ 10.4%YoY

 

ราคาหุ้นยังมี Upside ส่วนเพิ่มอีก 0.8 บาทต่อหุ้นหรือคิดเป็น 7.4% จากราคาเป้าหมายปัจจุบันที่ 10.8 บาท หากได้รับสัมปทานเก็บค่าผ่านทางทางด่วนเพิ่มเติมอีก 22 ปี แลกกับการสร้างทางด่วน 2 ชั้น (Double-deck) มูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้เราคาด BEM ยังเป็นหนึ่งในหุ้นที่เป็นเป้าหมายของกองทุนวายุภักษ์เนื่องจาก SET ESG Rating ที่ระดับ AA และเป็นหุ้นที่ NVDR ซื้อสุทธิโดยที่ราคาหุ้นยังปรับขึ้นน้อยกว่ากลุ่มขนส่ง จึงมองระดับเป็นปัจจุบันเป็นจุดที่น่าสะสมอย่างมาก
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 10.80 บาท

 

KEY FACTOR
กระแสเงินทุนต่างชาติขายสะสมมาตั้งแต่ช่วง 25 ก.ย. ทั้งในตลาดหุ้นและตราสารหนี้
ในระยะสั้นกระแสเงินทุนต่างชาติยังไหลออกจากตลาดเอเชียส่วนใหญ่ รวมถึงไทย ที่มีแรงขายต่อเนื่องทั้งในตลาดหุ้นที่ขายต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน อีก -2.77 พันล้านบาท สะสมรวม -1.45 หมื่นล้านบาท เช่นเดียวกับในตลาดตราสารหนี้ที่ขาย 6 วันติดต่อกัน สะสม -2.31 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าทะลุระดับ 33 บาท/ดอลลาร์

 

รมว.กระทรวงการคลัง หารือขอให้ ธปท. พิจารณาลดดอกเบี้ยนโยบาย ก่อนเข้าสู่การประชุม กนง. ครั้งสำคัญในวันที่ 16 ต.ค. อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทที่เริ่มกลับมาอ่อนค่า (หากเทียบกับจุดต่ำสุดที่ทำไว้บริเวณ 32.1 บาท/ดอลลาร์ ถือว่าอ่อนค่ากลับมามากกว่า 3% ในช่วงเวลาเพียงแค่ 3 วัน) อาจเป็นปัจจัยที่ลดแรงกดดันต่อการลดดอกเบี้ย

 

คืนนี้ติดตามการรายงานตัวเลขภาคแรงงานประจำเดือน ก.ย. ชุดสุดท้ายของสหรัฐฯ ประกอบด้วย 1) การจ้างงานนอกภาคเกษตร (Consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้น +1.5 แสนตำแหน่ง เร่งตัวจากเดือนก่อนที่ +1.42 แสนตำแหน่ง และ 2) อัตราการว่างงาน (Consensus คาดทรงตัวที่ 4.2%)

 

EYES ON
4 ต.ค. การจ้างงานนอกภาคเกษตร

 

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

หมดแรง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็นหลายตลาด หมดแรง อ่อนตัวลง แต่หุ้นไทย วูบไป 1.44% ในเช้าวันนี้ ด้วยใช้ข่าวดี .....

ออมแรง ออกแรง By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง ยามนี้ ต้อง ออมแรง ออกแรง พลิกแพลงตามสถานการณ์ ด้วยการเมืองในประเทศ มีหลายกระแส ทั้งปรับครม.....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้