***Key Takeaways จาก Site Visit : มีโอกาสอีกมากในเกาหลีใต้***
อุปทานไฟฟ้าในเกาหลีใต้ยังไม่เพียงพอ โดยอุปทานไฟฟ้าใหม่และจากพลังงานหมุนเวียนอยู่ที่ 13% และจะเพิ่มเป็น 25% ภายในปี 2030 ขณะที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นจากกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ เช่น SK, Hyundai และ Samsung LG ซึ่งเข้าร่วม RE100 (ธุรกิจใช้พลังงานหมุนเวียน 100%) นอกจากนั้น ตามแผนพลังงานของเกาหลีใต้ จะมีการเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจาก 149GW ในปี 2023 เป็น 198GW ในปี 2030 ซึ่งส่วนเพิ่ม 40GW จะมาจากพลังงานหมุนเวียน เช่น โรงไฟฟ้าลม โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ดังนั้น จึงมีโอกาสที่จะขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในเกาหลีใต้อีกมาก
BGRIM เป็นผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนต่างชาติรายใหญ่ในเกาหลีใต้ โดยสิ้นส.ค.24 มีการลงทุนกว่า 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากงบประมาณลงทุนทั้งหมด 500 ล้านดอลลาร์ฯ กำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมและแสงอาทิตย์ทั้งหมดราว 1.9GM โดยโรงไฟฟ้าที่ได้รับอนุญาตให้ขายไฟฟ้าเข้าสายส่งจากหน่วยงานของเกาหลีใต้จะสามารถขายไฟฟ้าเข้าส่วนกลาง (Korea Power Exchange) ได้ตลอดอายุดำเนินงานของโรงไฟฟ้า เช่น 20 ปีหรือมากกว่า ส่วนราคาขายไฟฟ้า ผู้ประกอบการเลือกได้ว่าจะเป็นราคาคงที่ หรือราคาผันแปรเป็นรายชั่วโมง ซึ่งขึ้นกับต้นทุนพลังงาน ซึ่งโครงการปัจจุบันของ BGRIM ขายไฟฟ้าในราคาคงที่
คาดการณ์ผลตอบแทนจากโครงการโรงไฟฟ้า เราคาดว่า BGRIM จะได้รับเงินปันผลจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Saemangeum (99 MW) ที่ถือหุ้น 22% ราว 45 ล้านบาท/ปี เริ่มรับรู้รายได้ในปี 2022 และมีส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าลม Nakwol 1 (365 MW) ที่ถือหุ้น 49% ประมาณ 530 ล้านบาท/ปี โดยโครงการนี้จะเปิดดำเนินงานเชิงพาณิชย์ (COD) ตั้งแต่ 4Q25
คาดว่ากำไรปกติ 2H24F ยังไปได้ดี แม้ว่าราคา LNG จะปรับขึ้นแต่โรงไฟฟ้า SPP ยังได้ประโยชน์จาก Single Pooled Gas price ซึ่งมีราคาที่ต่ำกว่า LNG เนื่องจากเป็นค่าเฉลี่ยของก๊าซจากอ่าวไทยที่มีราคาต่ำ 65%, จากเมียนมา 15% และจาก LNG 20% ประกอบกับแหล่งเอราวัณของ PTTEP ผลิตก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น (จาก 377 เป็น 550 mmscfd) ส่งผลให้ Single Pooled Gas price ใน 2H24F มีแนวโน้มลดลง นอกจากนั้น เงินบาทที่แข็งค่าเร็วใน 3Q24 ทำให้ต้นทุนนำเข้าก๊าซลดลงและมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการมีหนี้ต่างประเทศ รวมถึงความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นด้วย เราประเมินว่ากำไรสุทธิ ไตรมาส 3/24 น่าจะเป็น Peak ของปีนี้
คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 31 บาท (SOTP) ปัจจัยหนุน คือ ผลประกอบการ 3Q24F ที่ดีขึ้น, ต้นทุนก๊าซลดลง, รับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าที่เปิดในปี 23 เต็มปี, มีโอกาสซื้อกิจการเพิ่มในปี 24-25 และโรงไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูง โดยมี EBITDA margin ที่ 24-25%.
บริษัทมี SET ESG Ratings : AAA และมี CG Report : 5 ดาว
นักวิเคราะห์ : ดุลเดช บิค : duladethb@th.dbs.com : Tel. 02 857 7833