SET Index พักบ้าง 1455-1470
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีเกราะป้องกันความขัดแย้ง
Market Strategy
SET Index คาดพักตัวตามกรอบ 1455-1470 จุด แรงกดดันของความตึงเครียดในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่พุ่งสูงขึ้น หนุนสินทรัพย์ต่างๆ อยู่ในภาวะ Risk Off แต่เชื่อว่าเม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ที่เริ่มเข้ามาจะช่วยจำกัด Downside วันนี้เลือก BCP BCH

 

ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เพิ่มสูงขึ้นจากรายงานอิหร่านใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีอสราเอลเพื่อตอบโต้อิสราเอลที่สังหารผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และปฏิบัติการภาคพื้นดินทางตอนใต้ของเลบานอน สถานการณ์ข้างต้นหนุนราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น +2.6% Dollar Index แข็งค่า 0.4% ทองคำปรับขึ้น 1.1% สวนทางตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับลงในช่วง -0.4% ถึง -1.5% ซึ่งน่าจะเป็น Sentiment ลบต่อตลาดหุ้นภูมิภาคและบ้านเราในวันนี้

 

หากเปรียบเทียบการตอบสนองของสินทรัพย์ต่างๆ จากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านรอบก่อนระหว่าง 1-19 เม.ย. 67 พบว่าในช่วงเวลาดังกล่าวราคาน้ำมันดิบ Brent เคยปรับขึ้นสูงสุด 4% ทองคำปรับขึ้นสูงสุด 6% สวนทางตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับลงต่ำสุด -5% กดดัน SET Index ปรับลง -3% โดยจุดต่ำสุดของตลาดหุ้นเกิดเมื่อนักลงทุนเริ่มประเมินความขัดแย้งจะไม่บานปลาย หากเทียบเคียงกับสถานการณ์ปัจจุบันจึงยังต้องติดตามท่าทีการตอบโต้ของอิสราเอลอย่างใกล้ชิด

 

ด้านกลุ่มอุตสาหกรรมที่ Outperform ตลาดในรอบก่อนตอนกังวลต่อการเกิดสงคราม คือ กลุ่มพลังงาน (PTTEP BCP) และกลุ่ม Domestic Play (ชอบ PTTEP BCP) กลุ่มโรงพยาบาล (ชอบ BH BDMS BCH) กลุ่มค้าปลีก (ชอบ CPALL BJC HMPRO) และกลุ่มขนส่ง (ชอบ BEM) ส่วนกลุ่มที่ Underperform ตลาดคือกลุ่ม Global Play อย่างกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์และกลุ่มเกษตรฯ เป็นต้น
เม็ดเงินวายุภักษ์เริ่มเข้าตลาดหุ้นวันแรก เราเห็นสัญญาณบวกจากสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิ 3.46 พันล้านบาทมากที่สุดเป็นลำดับ 2 ของปี นอกจากนี้หากประเมินจากฝั่งซื้อขาเดียวพบว่าซื้อไป 8.8 พันล้านบาท มากกว่าเฉลี่ย 9M67 ที่ 4.2 พันล้านบาท ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นปัจจัยช่วยจำกัด Downside ตลาดเป็นอย่างดี

 

Market Summary
SET Index วานนี้ปรับขึ้น 15.8 จุด เป็นการขึ้นกระจายหลายอุตสาหกรรม โดยกลุ่มที่บวกเด่น คือ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Google เตรียมลงทุน Data Center GULF +1.3% BBIK +3.8% INSET +12.3% WHA +1% ตามด้วยกลุ่มท่องเที่ยวรับ Golden Week จีน AWC +1.6% AOT 1.2% CENTEL +0.6% กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์จากยอดส่งออกเกาหลีใต้ ก.ย.ขยายตัว 7.5%YoY ดีกว่าคาดส่วนหนึ่งมาจาก Semiconductor หนุน HANA +7.4% DELTA +2.3%

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ BCP BCH

 

BCP
น้ำมันวิ่งแรง หนุนราคาหุ้นวิ่งไกล
ราคาน้ำมันดิบ Brent วานนี้ดีดแรงกว่า 2% จากความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เพิ่มขึ้นระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านหลังมีรายงานเตรียมอิหร่านยิงขีปนาวุธ พิสัยไกลใส่อิสราเอล ซึ่งเราคาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาหุ้น BCP ในวันนี้

 

นอกจากนี้เราคาด BCP มีลุ้นได้เม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์จะทยอยเข้าในตลาด เนื่องจาก Valuation ถูกเพราะซื้อขาย PER68F 6 เท่า ปันผลสูง 5-8% และ ESG Rating อยู่ระดับ AAA

 

ด้านกำไรปกติ 2H67 คาดว่าฟื้นตัวตาม GRM ตามผลของฤดูกาล แต่กำไรสุทธิมีโอกาสถูกกดดันจากการขาดทุนสต็อคน้ำมันดิบ แต่เชื่อว่าตลาดน่าจะเริ่ม Price In ไปบ้างและมอง Outlook ข้างหน้าที่แนวโน้มกำไรจะเติบโตจากธุรกิจSAF จะสร้างกำไรให้กับ BCP ประมาณ 2.6-4.1 พันลบ. ต่อปีในช่วง 2568-2570 โดยกำไรปกติปี 68 เราคาดเติบโตแรง 48.6%YoY
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 62.00 บาท

 

BCH
ปีที่ท้าทายกำลังผ่านพ้นไป
คาดกำไร 3Q67 จะเติบโต YoY และ QoQ อย่างมาก หนุนจากการปรับรายได้เพิ่มประมาณ 70 ล้านบาท (เทียบกับ 54 ล้านบาทใน 4Q66) และการเข้าสู่ช่วง High Seasoท ของธุรกิจ

 

ส่วนกำไร 4Q67 จะลดลงทั้ง YoY และ QoQ จากการปรับ RW>2 ที่ 7.2 พันบาท/RW (ลดลงจาก 1.2 หมื่นบาท/RW) เพื่อลดความกังวลเรื่องการกลับรายการรายได้ในปีหน้าแต่มองว่าตลาดรับรู้ไปแล้วและให้ความสำคัญกับการฟื้นตัวในปี 68 มากกว่า

 

เราคาดกำไรปกติ 68 เติบโตราว 10% บนสมมติฐานที่อนุรักษ์นิยมว่าผู้ป่วยจากคูเวตยังไม่กลับมาและค่ารักษาของ RW>2 จะถูกบันทึกที่ราคาต่ำกว่าปกติที่ 1.08 หมื่นบาท/RW ทั้งนี้หากประกันสังคมมีการปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลมากกว่าอัตราข้างต้นถือเป็น Upside ต่อประมาณการทันที
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 19.50 บาท

KEY FACTOR
ตลาดหุ้นภูมิภาค ASEAN ปรับตัวขึ้นเด่น หากเทียบกับเอเชียในภาพรวม นำโดย 3 ตลาด ประกอบด้วย ไทย +1.09% ฟิลิปปินส์ +1.48% อินโดนีเซีย +1.52% โดยสำหรับตลาดหุ้นไทยที่แม้ว่ายังเผชิญแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติต่อเนื่องอีก -1,715 ล้านบาท สะสม 5 วันติดรวม -6,363 ล้านบาท แต่ได้แรงหนุนจากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันฯ +3,464 ล้านบาท ในขณะที่ค่าเงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่ากลับมาเหนือระดับ 32.5 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งถือว่า Underperform เทียบกับภูมิภาค

 

ตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศ จำนวนตำแหน่งงานเปิดรับสมัครในเดือน ส.ค. ของสหรัฐฯ 8.04 ล้านตำแหน่ง ดีกว่าที่ Consensus คาด 7.693 ล้านตำแหน่ง ในขณะที่คืนนี้จะมีการการจ้างงานภาคเอกชน ADP เดือน ก.ย. ซึ่ง Consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.25 แสนตำแหน่ง เร่งตัวขึ้นจาก +9.9 หมื่นตำแหน่ง อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งตัวเลขที่ออกมาดีน่าจะทำให้ตลาดผ่อนคลายลงจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย

EYES ON

 

 

2 ต.ค. ISM ภาคบริการ, การจ้างงานเอกชน ADP
3 ต.ค. PPI เดือน ก.ย. ของ Eurozone
4 ต.ค. การจ้างงานนอกภาคเกษตร

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ