มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
SETคาดเริ่มลดความร้อนแรง:โดยมองแรงกดดันจากภายนอกจะเข้ามารบกวนในระยะสั้นทำให้Upside ของตลาดในวันนี้อาจมีจำกัด ปัจจัยลบที่เข้ามากดดันนำโดยประเด็น ADBปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 67 ลงจากคาดการณ์เดิมในเดือน เม.ย. ที่ 2.6%เหลือ 2.3%โดยมอง การใช้จ่ายภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชน และ การส่งออกของไทยขยายตัวน้อยกว่าที่คาดไว้มีเพียงการท่องเที่ยว และ การบริโภคภาคเอกชนที่ยังคงเป็นแรงหนุนหลัก นอกจากนี้ยังปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 68ลงจาก 3% เหลือ 2.7% หลังมองการบริโภคภาคเอกชนจะเดินหน้าลดลงอย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากภาวะทางการเงินที่ตึงตัว และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ตกต่ำ พร้อมชี้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ภาครัฐจะออกมาจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพียงสั้นๆ คาดจะสร้างความกังวลให้ตลาดและอาจมีการชะลอการเพิ่มน้าหนักในตลาดหุ้นไทย กดดัน Upside ของดัชนี 2) นลท.ต่างชาติพลิกกลับมาอยู่ฝงขายสุทธิเป็นครั้งแรกในรอบ6 วันทำการ ขณะที่เม็ดเงินนลท.ต่างชาติไหลเข้าตลาดพันธบัตรเริ่ม เปลี่ยนไปซื้อพันธบัตรระยะสั้นอายุไม่เกิน 1 ปีจึงอาจสะท้อนความกังวลที่เริ่มเข้ามา

ด้านปัจจัยหนุนมาจากการแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับกลุ่มเปราะบางและผู้พิการโดยเข้าสู่วันที่ 2 ของการแจกเงิน คาดจะยังเป็นบวกต่อสภาพคล่องและกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ แต่เนื่องจากตลาดได้ซึมซับปัจจัยดังกล่าวไประดับหนึ่งแล้ว จึงอาจไม่ได้ช่วยผลักดันดัชนีมากนัก ด้านปัจจัยอื่น ตัวเลข NewHomeSalesสหรัฐเดือน ส.ค. 67 ออกมาเพิ่มขึ้น 7.16 แสนหลัง มากกว่าที่ตลาดคาดที่ 6.99 แสนหลัง สะท้อนภาพกำลังซื้อในภาคอสังหาฯแต่มองตลาดจะให้น้าหนักกับตัวเลข PCEในวันศุกร์มากกว่า จึงอาจไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดมาก ส่วนคืนนี้จับตาตัวเลข GDP สหรัฐ 2Q67 และ ถ้อยแถลงของประธานเฟด เพื่อคาดการณ์ทิศทางดอกเบี้ยในการประชุมรอบเดือน พ.ย. 67

กลยุทธ์การลงทุน : 1)นโยบายภาครัฐฯ:BE8,CENTEL, MINT,SPALI, AP,SIRI ,SC,BJC,AEONTS2)ดอกเบี้ยโลกขาลง+บาทแข็ง: AAV, BGRIM, GULF, GPSC, HANA , CRC 3)China Play: SCGP, NER, STA, PSL, RCL และ 4) ส่งออกไทยโต: AAI, ITC, TU

แนวรับ-ต้าน
1,450 –1,465

ปัจจัยบวก
+ ECB เผยมีแนวโน้มที่ธนาคารกลางยุโรปจะลดอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนถึงกลางปีหน้าเป็นอย่างน้อย จนลงมาอยู่ที่ระดับ 2% - 3% โดยคณะกรรมการ ECB กล่าวว่า Natural Rate ของยูโรโซนจะอยู่ที่ 2%
+สนค. เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนส.ค.67 พบว่าการส่งออก มีมูลค่า 26,182 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 7%y-y ทำให้ยอดส่งออกรวม 8 เดือนแรกของปีนี้มีมูลค่ารวม 197,192 ล้านดอลลาร์
+ ธปท. ชี้จะติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด และพร้อมเข้าดูแลเมื่อเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนมากผิดปกติเพื่อลดผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของภาคเศรษฐกิจจริง
+ ประธาน กนอ. เดินหน้าจัดงาน “Now Thailand-The Golden Era”ณ เมืองเซินเจิ้น เพื่อเชิญชวนนักลงทุนจีน เข้ามาลงทุนในไทย
+ กบง. สั่งตรึงราคา LPG ที่ไม่เกิน 423 บาทต่อถัง (15 ก.ก.) อีก 3เดือน สิ้นสุด 31 ธ.ค. 67

ปัจจัยลบ
-GISTDA ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมด้วยข้อมูลภาพจากดาวเทียมSentinel-1 ของวันที่ 25 ก.ย.67 พบน้าท่วมขังบริเวณพื้นที่บางส่วนของ 3 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ นครพนม สกลนคร และบึงกาฬ รวมพื้นที่ประมาณ 2 แสนไร่ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปลูกข้าว ชุมชนที่อยู่อาศัย และเส้นทางคมนาคม
- โอเปก ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ามันทั่วโลกในระยะกลางและระยะยาว โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจในอินเดีย แอฟริกาและตะวันออกกลาง รวมทั้งความล่าช้าของการเปลี่ยนไปใช้EV
-จีนเรียกร้องให้สหรัฐฯ หยุดยั้ง "การปราบปรามอย่างไม่สมเหตุสมผล"ต่อบริษัทต่างๆ ของตน เพื่อตอบโต้ข้อเสนอของสหรฐั ฯ ที่จะห้ามติดตั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ของจีนในยานพาหนะต่างๆ บนท้องถนน เนื่องด้วยปัญหาความมั่นคงของชาติ

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์