Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

426

 


AT THE OPEN (#ATO)
SET Index มีแรงส่งแกว่งช่วง 1450-1470
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ

Market Strategy
SET Index คาดแกว่งตามกรอบ 1450-1470 จุด มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่ยังมีออกมาต่อเนื่อง ขณะที่ฝั่งสหรัฐฯ การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจดีกว่าคาดช่วยลดความกังวลต่อ Recession สภาพแวดล้อมข้างต้นยังเป็นบวกต่อตลาดหุ้นบ้านเรา แต่อย่างไรก็ตามวันนี้อาจเห็นความผันผวนในช่วงท้ายตลาดสูงขึ้นจากการปิดสถานะของ Futures Series U กลยุทธ์วันนี้ชอบหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ CPF CREDIT

การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาดี เริ่มจาก GDP2Q67 ขยายตัว 3%QoQ ดีกว่าตลาดคาด 2.9%QoQ และการรายงาน Initial Jobless Claim เพิ่มขึ้น 2.18 แสนตำแหน่ง ดีกว่าตลาดคาด 2.23 แสนตำแหน่ง ทำให้ตลาดยังเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยัง Soft Landing มากกว่า Recession ช่วยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ปรับขึ้นในช่วง 0.4-0.6% และดีต่อ Flow ที่ยังไหลสู่ตลาดหุ้น

ฝั่งของจีนความสนใจหลักยังอยู่กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งวานนี้ รมว.คลังจีนเผยว่ามีแผนออกพันธบัตรพิเศษวงเงิน 2 ล้านล้านหยวน (2.84 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 1.6% ของ GDP) ในปีนี้ ซึ่งจะถูกนำมาใช้กระตุ้นภาคบริโภคและแก้ปัญหาหนี้รัฐบาลท้องถิ่น เพื่อผลักดัน GDP67 เข้าสู่เป้าหมายขยายตัว 5% (เทียบกับ Consensus คาดขยายตัว 4.8%) วงเงินของพันธบัตรที่สูงกว่าตลาดคาดที่ 1 ล้านล้านหยวน หนุนต่อตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงวานนี้ปรับขึ้นแรง +4% หุ้นกลุ่มเกี่ยวเนื่องกับภาคบริโภคบวกเด่น เช่น Haidilao +18% เรามองเป็น Sentiment บวกต่อ CPF มีธุรกิจหมูในจีนลงทุนผ่าน CTI กลุ่ม F&B หรือกลุ่มเกษตรที่ส่งออกไปจีน เช่น SNNP TKN CBG NER STA กลุ่มท่องเที่ยวที่ประโยชน์ทางอ้อม CENTEL AOT
ส่วนประเด็นอื่นๆ ราคาน้ำมันดิบวานนี้ปรับลงแรง -2.5% จากมีรายงานซาอุฯ เตรียมปล่อยน้ำมันออกมาในเดือน ธ.ค. ซึ่งเป็นลบต่อกลุ่มพลังงานต้นน้ำในวันนี้ ส่วนประเด็นที่ติดตามคืนนี้การรายงานตังเลข Core PCE เดือน ส.ค. ตลาดคาดขยายตัว 2.7%YoY เร่งตัวจากเดือนก่อนเล็กน้อยที่ขยายตัว 2.6%YoY

 


Market Summary
SET Index ติดลบ 6.55 จุดหรือ -0.45% กลุ่มที่ลงแรงคือกลุ่มที่โดนขายทำกำไรจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเช่น กลุ่มบรรจุภัณฑ์ SCGP -4% กลุ่มวัสดุก่อสร้าง -3% กล่ามปิโตรฯ PTTGC -2% ด้านกลุ่มที่ปรับขึ้นสวนตลาดคือกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากฟื้นฟูหากผ่านน้ำท่วม DOHOME +2% GLOBAL +1% HMPRO +1% และกลุ่ม ร.พ. ประกันสังคม BCH +7% CHG +4% จาก ร.พ. เอกชนเสนอกำหนด

 

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ CPF CREDIT


CREDIT ราคาหุ้นอยู่ในจุด ที่น่าสนใจ
ราคาหุ้นเคลื่อนไหวต่ำกว่าดัชนี SET ถึง 36% นับตั้งแต่ IPO ในเดือนก.พ. 67 valuation เริ่มอยู่ในจุดที่น่าสนใจเนื่องจากหุ้นมีการซื้อขายที่ PER68 ที่ 7.0 เท่า และ PBV ที่ 0.96 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของคู่แข่งที่ PER 9.2 เท่า และ P/BV 1.1 เท่า
คาดสินเชื่อของจะเติบโต 12-15% ในปี 67-69 นำโดยสินเชื่อไมโครเอสเอ็มอีและสินเชื่อเพื่อการซื้อบ้าน ขณะที่ NIM มีแนวโน้มลดลงเนื่องจากสินเชื่อ MSME ที่มีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าและคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีกว่าสินเชื่อไม่มีหลักประกัน ทั้งนี้ในบรรดาธนาคารทั้งหมด CREDIT มี NIM สูงสุด (8.3% ในปี 66) เนื่องจากมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้า Underserved Segment
คาดว่ากำไร 2H67 ฟื้นตัวจากคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น ทำให้กำไรทั้งปี 67 หดตัวเหลือ 15% YoY ดีขึ้นจาก 1H67 ที่หดตัวแรง 31% YoY ส่วนกำไรปี 68 คาดโต 15% YoY เนื่องจากสินเชื่อเติบโตสองหลัก การควบคุมต้นทุนที่ดี และ credit cost ที่ลดลง
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 29.00 บาท


CPF ได้ Sentiment บวกจากมาตรการกระตุ้นจีน
คาดว่า CPF ได้ Sentiment บวกจากมาตรการกระตุ้นของจีน ที่ล่าสุดเซี่ยงไฮ้ได้ประกาศแจกคูปองเงินสดสำหรับการบริโภคมูลค่ากว่า 500 ล้านหยวนและรัฐบาลเตรียมแจกเงินให้กับกลุ่มผู้ยากจนทั่วประเทศ เพื่อช่วยกระตุ้นภาคบริโภค โดยในจีนธุรกิจหลักของ CPF คือธุรกิจหมูที่ลงทุนผ่าน CTI
คาดกำไร 3Q67E จะเติบโตเล็กน้อย QoQ เนื่องจาก 2Q67 ที่ฐานสูง ขณะที่ YoY จะ Turnaround ทั้งนี้ใน 3Q67 เป็นช่วง Peak Season และได้ผลบวกจากราคาหมูไทยและจีนที่ปรับขึ้น (ส่วนราคาหมูเวียดนามอ่อนตัวลงบ้างจาก ASF แต่ยังยืนสูง YoY) ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ยังอยู่ในระดับต่ำ สำหรับกำไร 4Q67 คาดขยายตัว YoY ได้ต่อ หนุนกำไรปกติ 67E กลับมาแตะ 1 หมื่นล้านบาท พลิกจากขาดทุนปีก่อน -5.2 พันล้านบาท
ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PER67 ที่ 19.9 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี -0.24 S.D. และ PBV67 ต่ำเพียง 0.81 เท่า
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 28.10 บาท


KEY FACTOR
นักลงทุนต่างชาติขายต่อเนื่อง ในตลาดหุ้นไทย -1,326 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขายติดต่อกันเป็นวันที่สองเป็นครั้งแรกในรอบ 16 วันทำการ และขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้ -3,230 ล้านบาท สะท้อนกระแสเงินทุนต่างชาติที่เริ่มมีสัญญาณชะลอตัวลง
ในขณะที่การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ ออกมาเป็นเชิงลบ สำนักเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) รายงานดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (MPI) -1.91% YoY ขณะเดียวกันได้ปรับลดประมาณการณ์เหลือ -1.0% ถึง 0.0% ส่วน GDP ภาคอุตสาหกรรมเหลือ -0.5% ถึง +0.5% จากเดิมที่คาด +0.5% ถึง +1.5% เป็นผลมาจากยอดผลิตรถยนต์ที่ปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 และการนำเข้าสินค้าผ่านช่องกทางออนไลน์ กระทบกับผู้ประกอบการ
ปัจจัยที่น่าจะมีผลต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยและหุ้นโลกต่อเนื่องวันนี้ คือ การรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ (PCE) ของสหรัฐฯ ซึ่ง Consensus คาดการณ์ที่ระดับ +2.3% YoY ส่วน Core PCE คาด +2.7% YoY


EYES ON
27 ก.ย. ดัชนี PCE เดือน ส.ค. ของสหรัฐฯ, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ Eurozone, กำไรภาคอุตสาหกรรมของจีน

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ประคับประคอง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทย คงประคับ ประคอง แกว่งตัวไปมา ท่ามกลาง บริษัทจดทะเบียนไทย...

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้