Market Wrap-Up
- SET วันที่ 24 ก.ย.67 ปิด +14.20 จุด อยู่ที่ 1,462.10 จุด มูลค่าการซื้อขาย 56,773 ลบ.ต่างชาติซื้อ 2,556 ลบ.พอร์ตโบรกซื้อ 383 ลบ.สถาบันซื้อ 249 ลบ. รายย่อยขาย 3,189 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 1,063 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น DELTA,MTC,PTT,ADVANC,MFC และยอดขายในหุ้น CPALL,BBL,PTTGC,LH,PTTEP มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,728 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ CN01,BANPU,AOT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 29,351 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 85,357 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 626 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.20%, S&P500 +0.25%, Nasdaq +0.56% ได้แรงหนุนจากกลุ่มอุตสาหกรรม, โลหะและเหมืองแร่ หลัง ธ.กลางจีนออก ม.ผ่อนคลายการเงิน และม.ช่วยเหลือภาคอสังหา ฯ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจ Conference Board เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ ก.ย. ลดลงอยู่ที่ 98.7 & ส.ค. 105.6 ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.65% ได้แรงหนุนจากกลุ่มพึ่งพาตลาดจีน เช่น สินค้าหรูหรา, รถยนต์ และทรัพยากรพื้นฐาน
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA & S&P500 ปิดทำจุดสูงสุดใหม่ หลัง ธ.กลางจีนออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาเงินฝืด และปัญหาหนี้ภาคอสังหาฯ ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม, เหมื่องแร่, บริษัทจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐ เช่น Alibaba +7.8% สัปดาห์นี้ติดตามความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด, วันพฤหัส GDP สหรัฐ Q2/67 คาด +2.9% QoQ/ ถ้อยแถลงเจอโรม พาวเวล ในหัวข้อตลาดพันธบัตร และวันศุกร์ US PCE ส.ค.คาด 3% & ก.ค. 2.5% YoY
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มที่พึงพาตลาดจีน เช่น สินค้าหรูหรา LVMH +3.2%, ทรัพยากรพื้นฐาน +4.4% ปรับขึ้นตามราคาโลหะ และอุตสาหกรรม +0.6% หลัง ธ.กลางจีนออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจ IFO เผยดัชนีภาวะเศรษฐกิจเยอรมัน ก.ย. ลดลงอยู่ที่ 85.4 & ส.ค. 86.6 บ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจอยู่ในภาวะเสี่ยงชะลอตัว ประเด็นสำคัญวันพรุ่งนี้ติดตามถ้อยแถลงของ ปธ.ECB และผลการประชุม ธ.กลางสวิต ฯ คาดลดดอกเบี้ย 0.25% อยู่ที่ 1.0%
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +4.15%, ฮั่งเส็ง +4.13% หลัง ธ.กลางจีน ออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดลดอัตรา Repo 7 วันลง 0.20% อยู่ที่ 1.5% , ลด MLF ลง 3%, ลด LPR ลง 0.20 – 0.25% และลดอัตราสำรองของธนาคารพาณิชย์ลง 0.50% ซึ่งคาดจะช่วยเสริมสภาพคล่องได้ 1.42 แสน ล.ดอลลาร์สหรัฐ ส่วน ม.ช่วยเหลือภาคอสังหา ฯ จีนก็ปรับลดเงินดาวน์ลง 15% สำหรับผู้ซื้อบ้านมือสอง และคุ้มครองเงินกู้ 100% ให้กับรัฐบาลท้องถิ่นในการซื้ออสังหา ฯ ที่ขายไม่ได้ด้วยต้นทุนการเงินระดับต่ำ ทางด้าน ม.กระตุ้นตลาดทุนเตรียมปล่อยสินเชื่อมูลค่า 7.0 หมื่น ล.ดอลลาร์ให้กับโบรกเกอร์เพื่อลงทุนหุ้นในดัชนี CSI300 โดยเป้าหมายต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนให้ขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ 5%
- ดัชนี SET วานนี้ +0.98% ปริมาณการซื้อขาย 5.6 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 2,556 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 383 ลบ. สถาบันซื้อ 249 ลบ. และรายย่อยขาย 3,189 ลบ. ได้แรงหนุนจากกลุ่มปิโตรเคมี, บรรจุภัณฑ์, อิเล็ก ฯ, วัสดุก่อสร้าง และพลังงาน ซึ่งเป็นกลุ่มหลักที่ได้ประโยชน์จาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจีนรอบใหม่ ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าอยู่ที่ 32.58 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ เป็นปัจจัยหนุนให้ Fund Flow ต่างชาติยังไหลเข้าลงทุนในตลาดหุ้น & พันธบัตรไทย หลัง ธปท.เผยยังไม่มีแนวคิดจะลดดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ ส่วนปัจจัยในประเทศ วันนี้รัฐบาลได้เริ่มแจกเงินสดให้กับกลุ่มเปราะบางรายละ 1 หมื่น บาท วงเงินรวม 1.45 แสน ลบ. ซึ่ง ก.คลังคาดจะเพิ่ม GDP ปีนี้ได้ราว 0.35% และทั้งปีคาด GDP ไทยจะเติบโตได้ที่ระดับ 3% สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูลตัวเลขส่งออกไทย ส.ค. คาด +6.0% & ก.ค. +15.2% YoY
Daily Strategy
- วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,450 กรณียืนได้ถือพอร์ตต่อ โดยมีแนวต้าน 1,470 – 1,475 คาดได้แรงหนุนจาก ม.จ่ายแจกสดกลุ่มเปราะบาง รวมถึงเม็ดเงินลงทุนจากกองทุนวายุภักษ์ใน ต.ค. แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว กลุ่มอุปโภค CPALL,CRC,BJC,HMPRO,CBG ได้ประโยชน์จาก ม.แจกเงินสด และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจีน เช่น TOP,BCP,SCGP,STA,NER,HANA,PSL
- STA* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 25.50 บาท) ราคาหุ้นมีปัจจัยหนุนจากราคายางในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับรายงานตัวเลขส่งออกยางพาราของไทยที่เติบโตสูง คาดว่าจะช่วยหนุนผลประกอบการของบริษัทในช่วง 3Q67 ให้ขยายตัวดี โดยคาดปริมาณขายยางธรรมชาติอยู่ที่ราว 3 แสนตัน เป็นสัดส่วนจากยาง EUDR ราว 15-20% ส่งผลบวกต่ออัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าในการขายยางตามมาตรฐาน EUDR ที่ 50% ของยอดขายได้ในช่วงสิ้นปี ส่วนสภาพอากาศฝนที่ตกชุกขึ้นยังไม่กระทบต่อการกรีดยาง ด้าน demand ในตลาดโลก มีความต้องการใช้จากอินเดียสูงขึ้น และคาดหวังผลเชิงบวกจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน เบื้องต้นอิงจาก consensus ตลาดคาดกำไรปี 67 ที่ 2.1 พันล้านบาท พลิกจากปี 66 ที่ขาดทุน และกำไรปี 68 ที่ 3.4 พันล้านบาท +58%YoY
- SFLEX* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 96 บาท) กำไรสุทธิงวด 1H67 อยู่ที่ 128.76 ลบ. (+41%YoY) มีแรงหนุนจากมาร์จิ้นที่ปรับตัวดีขึ้น, Equity Income(Starprint Vietnam JSC, สตาร์ยูเนี่ยน แพคเกจจิ้ง), และ การได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก BOI สำหรับการดำเนินงานช่วงถัดไป ช่วงครึ่งปีหลังนี้ คาดว่าจะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลดลง, ความต้องการสินค้า Flexible packaging ในช่วงเทศกาล, และการเน้นการขายสินค้าที่มีมูลค่าสูง(เช่น บรรจุภัณฑ์การแพทย์) โดยทาง SFLEX* วางเป้ารายได้ปีนี้ ราว 2 พันลบ.(+11%YoY) ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 67 และ 68 SFLEX*ที่ 247 ลบ.(+34%YoY) และ 277 ลบ.(+12%YoY)
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI ต.ค. +$1.19 อยู่ที่ $71.56 / บาร์เรล, Brent พ.ย. +$1.27 อยู่ที่ $75.17/บาร์เรล ได้ประโยชน์จาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจีนรอบใหม่ จะช่วยเพิ่มอุปสงค์น้ำมัน กอปรกับปัจจัยเสี่ยงในตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น หลังอิสราเอลโจมตีพื้นที่ทางตอนใต้ & ตะวันออกของเลบานอน ค่ำวันนี้ติดตาม EIA จะรายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาคาดลดลง 1.2 ล.บาร์เรล
Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+$24.50 อยู่ที่ $2,677 /ออนซ์ ได้แรงจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.38% อยู่ที่ 100.466 และปัจจัยเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางสูงขึ้น
Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +131.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +77.87 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +0.78 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +53.22 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 32.62 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 3.74 %
(+) ดัชนี BDI วานนี้ +15 จุด อยู่ที่ 2,014
(+) BitCoinเช้านี้ +2.34% อยู่ที่ 64,434 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
24 ก.ย. ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์
30 ก.ย. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
สัปดาห์ที4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย
สัปดาห์ที5 สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนี
ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
ต่างประเทศ
23 ก.ย. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (ก.ย.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (ก.ย.)
24 ก.ย. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (ก.ย.)
25 ก.ย. US ยอดขายบ้านใหม่ ( ส.ค.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
26 ก.ย. US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 2)
US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
27 ก.ย. US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) ( ส.ค.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,
(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*
(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB
(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio September 2024: KCG*, CPALL, WHA, CPF, THCOM, BDMS
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th