สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(23 กันยายน 2567)------สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท
• เงินบาทแข็งค่า หลังวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงของสหรัฐฯ เริ่มขึ้นแล้วในการประชุม FOMC วันที่ 17-18 ก.ย. ที่ผ่านมา
แม้จะมีปัจจัยลบกดดันให้อ่อนค่าตามจังหวะการย่อตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก แต่เงินบาทก็ยังคงเคลื่อนไหวเป็นกรอบ โดยมีแรงหนุนให้ทยอยแข็งค่าขึ้นเป็นระยะๆ ในช่วงก่อนการประชุมเฟด ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวได้เพียงช่วงสั้นๆ กลางสัปดาห์ตามการปรับโพสิชั่นหลังการประชุม FOMC 17-18 ก.ย. ซึ่งเฟดมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% มาที่กรอบ 4.75-5.00% โดยเงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าและทำสถิติแข็งค่าสุดในรอบกว่า 19 เดือนครั้งใหม่ที่ 33.03 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ (Onshore Market) ขณะที่แรงหนุนเงินดอลลาร์ฯ ชะลอลงท่ามกลางมุมมองที่ประเมินว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุม 17-18 ก.ย. ที่ผ่านมา เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ Cycle การลดดอกเบี้ย และแนวโน้มดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในระยะข้างหน้ายังเป็นขาลง
นอกจากนี้ การแข็งค่ากลับมาของเงินบาทยังสอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก และสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน
• ในวันศุกร์ที่ 20 ก.ย. 2567 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 33.06 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 33.33 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (13 ก.ย. 67) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 16-20 ก.ย. 2567 นั้น นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่องที่ 5,865 ล้านบาท และมีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 9,976 ล้านบาท (แบ่งเป็น ซื้อสุทธิพันธบัตร 13,226 ล้านบาท หักตราสารหนี้หมดอายุ 3,250 ล้านบาท)
• เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 19 เดือนครึ่งที่ 32.91 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วง NY Session ในวันศุกร์ 20 ก.ย. และยังคงเคลื่อนไหวในฝั่งแข็งค่ากว่าแนว 33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันจันทร์ 23 ก.ย.
• สัปดาห์ระหว่างวันที่ 23-27 ก.ย. ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 32.80-33.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ตัวเลฃการส่งออกเดือนส.ค. ของไทย สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก และสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI (เบื้องต้น) และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสำหรับเดือนก.ย. ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคา PCE และ Core PCE เดือนส.ค. ตลอดจนตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2567 (final) และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
• นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และดัชนี PMI (เบื้องต้น) สำหรับเดือนก.ย. ของยูโรโซน อังกฤษ และญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน