Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

173

 

AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ขยับกรอบไปที่ 1445-1465
กลยุทธ์เลือกหุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง

Market Strategy
SET อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นตามกรอบ 1445-1465 จุด สภาพแวดล้อมเป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ได้แรงหนุนจากวงจรดอกเบี้ยขาลงและความเชื่อต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวแบบ Soft Lading ด้านปัจจัยประเทศเห็นกระแสกดดันการผ่อนคลายนโยบายการเงินของบ้านเรา หากเกิดขึ้นจะเป็นบวกต่อ SET ในมุม Valuation ส่วนช่วงท้ายอาจเห็นความผันผวนจาก FTSE Rebalance ซึ่งเป็นปัจจัยชั่วคราว วันนี้ชอบ AEONTS BBIK

ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ปรับขึ้นในช่วง 1.26% - 2.5% แรงหนุนจากการย่อยข้อมูลผลการประชุม FED ที่ตลาดตีความมุมบวกต่อการปรับลดดอกเบี้ยฯ 50 bps ช่วยลดความเสี่ยง FED behind the curve การรายงานตัวเลข Initial Jobless Claim ที่เพิ่มขึ้น 2.19 แสนตำแหน่ง ดีกว่าตลาดคาดเพิ่มขึ้น 2.3 แสนตำแหน่ง ที่ทำให้เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวแบบ Soft Landing สภาพแวดล้อมข้างต้นมองบวก Sentiment บวกต่อตลาดหุ้นภูมิภาคและไทย โดยกลุ่มที่ได้ Sentiment บวกวันนี้มองไปที่หุ้นกลุ่ม Tech Related อย่าง BBIK BE8

ปัจจัยภายในประเทศให้ความสนใจไปที่เสียงจากภาคเอกชนที่มีความกังวลต่อการแข็งค่าของเงินบาทจากผลกระทบของ FED ลดดอกเบี้ยฯ ที่อาจสร้างแรงกดดันต่อ กนง. ในการปรับลดดอกเบี้ยฯช่วงที่เหลือของปี ซึ่งหากเกิดขึ้นจะเป็นบวกต่อ SET Index ในมุม Valuation ที่สามารถเกิดภาวะ PE Expansion ส่วนผลต่อหุ้นในระยะสั้นเรามองเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ (วันนี้ชอบ AEONTS) แต่จะลบต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร ทั้งนี้เรามองว่าการย่อตัวของกลุ่มธนาคารเป็นจังหวะสะสม เนื่องจาก Valuation ที่ถูก ปันผลสูง ซึ่งจะเป็นเป้าหมายของเม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ที่จะเริ่มเข้ามาในเดือน ต.ค. โดยหุ้นที่จะได้ประโยชน์ชอบ KTB TTB

ประเด็นอื่นๆ วันนี้เราอาจเห็นความผันผวนช่วงท้ายจากผลของ FTSE Rebalance ซึ่งตลาดคาดจะมีเม็ดเงินไหลออก 60 ล้านเหรียญฯ โดย FTSE All World มีหุ้นถูกคัดออกคือ BLA ส่วนหุ้นเข้าไม่มี


Market Summary
SET Index ปรับขึ้นแรง 1.33% โดยแรงหนุนจากกลุ่มบวกเด่น คือ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง นำโดยกลุ่มไฟแนนซ์ SAWAD +3.5% TIDLOR +2% SAK +6.5% กลุ่มโรงไฟฟ้า GULF +2.7% GPSC +1.6% และกลุ่ม ICT TRUE +4.6% ADVANC +0.8% ส่วนกลุ่มที่ Underperform กลุ่มธนาคารที่ปรับลง -0.54% จากจิตวิทยาเชิงลบต่อการเสียประโยชน์จากดอกเบี้ยฯ แนวโน้มเป็นขาลง

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ AEONTS BBIK

AEONTS คาดกำไรจะดีขึ้นในไตรมาสนี้
คาดว่ากำไรสุทธิ 2Q68 (มิ.ย.- ส.ค.67) จะเติบโต 44% QoQ เป็น 753 ล้านบาท จาก credit cost ที่ลดลงและกำไรจากการขาย NPLs 2Q68 แม้พอร์ตสินเชื่อมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย QoQ เนื่องจากการเติบโตของสินเชื่อส่วนบุคคลชะลอตัวลงและเน้นที่การเคลียร์งบดุล ขณะที่ Non-NII คาดเติบโต 8% YoY เนื่องจากรายได้จากหนี้เสียได้รับคืนและกำไรจากการขาย NPLs เติบโตดี เราคาดว่าต้นทุนต่อรายได้จะลดลง QoQ เนื่องจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของ Non-NII และการควบคุมต้นทุนที่ดี
คาดว่า credit cost 2Q68 อยู่ที่ 8.5% เทียบกับ 9.1% ในไตรมาสก่อน ขณะที่สัดส่วน NPL เพิ่มขึ้น QoQ จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ช้า แต่เชื่อว่าคุณภาพสินทรัพย์จะดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีงบ 68 ตามการใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้นและการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 68-69 ขึ้น 1-4% คาดว่ากำไรจะฟื้นตัวในครึ่งปีแรกของปี 68
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 160.00 บาท

BBIK เกาะไปตามกระแสกลุ่ม Tech
คาดกำไรหลักปี 67-69 จะเติบโตเฉลี่ย 28% CAGR โดยมีรายได้เติบโต 14% CAGR หนุนจากโอกาสในการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจากความได้เปรียบด้านต้นทุนและตลาดซอฟต์แวร์องค์กรในประเทศยังมีขนาดเล็ก
การเซ็นสัญญาโครงการใน มิ.ย. 67 ทำให้ backlog ณ สิ้น 2Q67 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 905 ล้านบาท โดย 506 ล้านบาทจะรับรู้เป็นรายได้ 2H67 ซึ่ง backlog ดังกล่าวสะท้อนว่า 79% ของรายได้ที่คาดการณ์ สำหรับปี 67 ที่ 1.5 พันล้านบาท (+16% YoY) ขณะที่การชนะประมูลโครงการยังแข็งแกร่งในเดือน ก.ค.-ส.ค. คาดกำไรหลัก 3Q67 ที่ 83 ล้านบาท +10% YoY และ +83% QoQ
เชื่อว่า BBIK จะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากเศรษฐกิจใน 2H67 ฟื้นตัวที่จะทำให้เอกชนกลับมากล้าลงทุนมากขึ้น ขณะที่มุม Valuation ซื้อขายบน PEG ต่ำ 0.8 เทียบ HUMAN ที่ 1.8 และ NETBAY ที่ 5.2
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 44.00 บาท

KEY FACTOR
ตลาดหุ้นเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้า โดยซื้อหุ้นไทยต่อเนื่องอีก 1,037.71 ล้านบาท เพิ่มให้ยอดสะสม MTD เป็น 29,435.78 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากความคาดหวังจุดเริ่มต้นดอกเบี้ยขาลงในไทยที่อาจเกิดขึ้นเร็วกว่าเดิม ซึ่งมีโอกาสที่มุมมอง Consensus จะขยับมุมมองที่ผ่อนคลายมากขึ้นในระยะถัดไป จากปัจจุบันที่ยังให้น้ำหนัก 64% ว่า BOT จะคงดอกเบี้ยในช่วง 4Q67

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ 1) PBoC ประกาศอัตราดอกเบี้ย ซึ่ง Consensus คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย LPR อายุ 1 ปี และ 5 ปี ที่ระดับ 3.35% และ 3.85% ตามลำดับ 2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ Eurozone คาด -13.2 ถือว่ายังสะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอใกล้เคียงกับเดือนที่ผ่านมาที่ -13.5

Eyes on
20 ก.ย. ความเชื่อมั่นผู้บริโภค Eurozone, จีนกำหนดดอกเบี้ย LPR อายุ 1 และ 5 ปี

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์

รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้