AT THE OPEN (#ATO)
SET Index แกว่งตามกรอบ 1425-1450
กลยุทธ์เลือกหุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง

Market Strategy
SET Index คาดแกว่งตามกรอบ 1425-1450 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ติดลบเฉลี่ย -0.3% จาก Sell on Fact ผลการประชุม FED ที่ปรับลดดอกเบี้ยฯ ตามตลาดคาด แต่เชื่อว่าผลต่อตลาดหุ้นบ้านเราจะเป็นบวกจากทิศทาง Fund Flow ไหลเข้า โดยมีปัจจัยดึงดูดจากเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในช่วงฟื้นตัว โดยที่ราคาหุ้นยัง Laggard ตลาดหุ้นฝั่ง ASEAN อยู่มาก กลยุทธ์วันนี้เลือกหุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง GPSC SAK

ผลการประชุม FED วานนี้มีมติปรับลดดอกเบี้ยฯ 50 bps ตามตลาดคาดมาที่ 5% โดยมีมุมมองดอกเบี้ยฯในระยะถัดไปผ่าน FOMC Dot Plot ซึ่งคาด ค่ากลางดอกเบี้ย ณ สิ้นปี 67/68 อยู่ที่ 4.4% และ 3.4% ถือว่าปรับลงมาใกล้กับ FEDWATCH Tool ที่ตลาดคาด 4.25%/3% มากขึ้น ด้านมุมเศรษฐกิจโดยสรุปประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังไม่เข้าสู่ Recession แม้ภาคแรงงานอ่อนแอลง และมีมุมมองบวกต่อเงินเฟ้อที่กำลังเข้าสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% การตอบสนองของตลาดวานนี้มี Sell on Fact อ่อนๆ ในตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับลงเฉลี่ย -0.3% U.S. Bond Yield ดีดขึ้น 1-6 bps หลังจากโทนโดยรวมไม่ได้มี Positive Surprise กับนักลงทุน

สำหรับผลต่อตลาดหุ้นบ้านเรา ระยะสั้นอาจผันผวน แต่การย่อถือเป็นจังหวะซื้อ จากภาพใหญ่ดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่เปลี่ยนเป็นขาลง จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด Emerging Market โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยที่ Laggard ตลาด ASEAN อื่นๆอยู่มาก (กดดันจากความไม่แน่นอนการเมืองช่วงก่อนหน้า) สะท้อนจากตลาดหุ้นไทย YTD +1.4% เทียบกับ มาเลเซีย +14% ฟิลิปปินส์ +11% อินโดนิเซีย 7.7% เวียดนาม +16%) ขณะที่ด้านปัจจัยพื้นฐานเราอยู่ในช่วงการเติบโตของ GDP ที่ 2H67 เราคาดขยายตัว 2.9%yoy เร่งจาก 1H67 ที่ขยายตัว 1.9%yoy สำหรับหุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยฯ ขาลง กลุ่ม High Yield (INTUCH KTB TTB) กลุ่ม ICT (TRUE ADVANC) กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC SAK) และกลุ่มโรงไฟฟ้า (GPSC GULF) เป็นต้น

Market Summary
SET ติดลบ -0.83 จุด กลุ่มที่บวกนำตลาดส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Defensive อย่างกลุ่มโรงพยาบาล PR9 +2.4% BH +1.1% กลุ่ม ICT ADVANC +0.4% กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยฯขาลง เช่น กลุ่ม REIT 3BBIF +0.8% CPNREIT +1.6% และกลุ่มไฟแนนซ์ SAWAD +1.2% ส่วนกลุ่มที่ปรับลงกลุ่มรับเหมาฯ ที่โดนขายทำกำไร STEC -1.5% CK -0.5% กลุ่มถุงมือยาง STGT -3.1% เป็นต้น

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ GPSC SAK

SAK ได้ประโยชน์จาก
แนวโน้มดอกเบี้ยขาลง
SAK จะได้ประโยชน์เป็นอย่างมาก จากทิศทางดอกเบี้ยฯ ผ่านจุดสูงสุด เนื่องจาก 95% ของเงินกู้มาจากการกู้ยืมธนาคารซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ทำให้ต้นทุนทางการเงินจะลดได้ทันที โดยทุกๆ 0.25% ที่ปรับลดดอกเบี้ยฯ จะเป็น Upside ต่อประมาณการ 2% ในปี 67/68
คาดกำไรหลัก 67 จะเติบโต 14% YoY เนื่องจากรายได้เติบโตตามสินเชื่อ มีแนวโน้มเติบโตโดยได้แรงหนุนจากสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์และโฉนดที่ดิน ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ยังบริหารจัดการได้ดีสะท้อนจาก NPL 2Q67 อยู่ที่ 2.5% ลดลง 6 bps เมื่อเทียบกับ 1Q67
เชื่อว่า SAK จะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากมาตรการแจกเงินสด 1 หมื่นบาท ให้กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการจำนวน 14.5 ล้านคน ที่จะเริ่มจ่ายตั้งแต่ 25 ก.ย.67 คาดช่วยลดความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ได้ไม่มากก็น้อย
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 6.50 บาท

GPSC คาดกำไร 3Q67 ยังเติบโตได้ดี
คาดว่ากำไรปี 67/68 เติบโตแรงที่ 49% และ 51% ตามลำดับ โดยการเติบโตปี 67 จะได้รับแรงหนุนจากราคาก๊าซลดลงและส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้น ซึ่งมาจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี ส่วนการเติบโตของกำไรในปี 68 จะได้รับแรงหนุนจากราคาก๊าซลดลงต่อและส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจากโครงการ CFXD ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง ที่ไต้หวัน
ผลประกอบการ 3Q67E เราคาดจะเติบโตได้ทั้ง QoQ จากฐานที่ต่ำในงวด 2Q66 และขยายตัว YoY จากประโยชน์ของราคาก๊าซที่แนวโน้มลดลง
นอกจากนี้เราคาดว่า GPSC จะได้ Sentiment บวกจากแนวโน้มดอกเบี้ยฯขาลง หลัง FED ส่งสัญญาณชัดเจนต่อการปรับลดดอกเบี้ยฯในปีนี้มาที่ 4.4% และปีหน้า 3.4% (ปัจจุบันอยู่ที่ 5%) ขณะที่ในมุม Valuation อยู่บน PER67E 24.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี -0.73 S.D.
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 53.00 บาท

KEY FACTOR
Fed เปิดเผยประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจ 1) ปรับลดประมาณการ GDP ปีนี้ (2567) ลงเล็กน้อยเป็น +2.0% จากเดิมที่คาด +2.1% ในประมาณการเดือน มิ.ย. และ (Consensus คาดไว้ +2.5%) แต่คงคาด GDP ปี 2568 ที่ +2.0% (Consensus คาดว่าจะขยายตัว +1.7%) 2) ปรับคาดเงินเฟ้อ (Core PCE) เป็น 2.6% ในปีนี้ และ 2.2% ในปีหน้า ลดลงเล็กน้อยจากประมาณการณ์เดิมที่ +2.8% และ +2.3% ใกล้เคียงกับมุมมอง Consensus ที่คาด +2.7% และ +2.2% ตามลำดับ 3) ตลาดแรงงานมีสัญญาณที่อ่อนแอ กว่าเดิม โดยประมาณการณ์ครั้งนี้ให้น้ำหนักอัตราการว่างงานที่ 4.4% ทั้งในปีนี้ และปีหน้า จากเดิม 4.0% และ 4.2% ตามลำดับ
การส่งสัญญาณผ่าน Dot Plot ปรับลดค่ากลาง Fed Fund Rate ลงเหลือ 4.4% เปิดโอกาสการลดดอกเบี้ย 0.5% ในปีนี้ ซึ่งสะท้อนว่าจะปรับลดดอกเบี้ยในทั้งสองครั้งของการประชุมที่เหลือในปีนี้ เดือน พ.ย. และ ธ.ค.

EYES ON
20 ก.ย. ความเชื่อมั่นผู้บริโภค Eurozone, จีนกำหนดดอกเบี้ย LPR อายุ 1 และ 5 ปี

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ