Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

625

 

AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ขยับกรอบขึ้น
กลยุทธ์เลือกหุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการรัฐฯ

Market Strategy
SET Index มี Momentum ไปต่อตามกรอบ 1430-1450 จุด แรงหนุนวันนี้คาดมาจากการประชุม ครม. ที่คาดว่าจะเห็นการเร่งออกมาตรการกระตุ้นภาคบริโภค การลงทุนภาครัฐฯ และเยียวยาต่อผู้ประสบภัยน้ำท่วม ขณะที่แรงหนุน Fund Flow ต่างชาติที่ยังมีทิศทางบวกจากกระแสเงินที่เคลื่อนย้ายมาหุ้นกลุ่มในกลุ่ม Value มากกว่าหุ้น Growth หุ้นเด่นวันนี้เลือก HMPRO และ CK
การประชุม ครม. นัดแรกของรัฐบาลใหม่วันนี้ คาดพิจารณามาตรการขับเคลื่อน/ฟื้นฟูเศรษฐกิจในหลายภาคส่วน เช่น 1.มาตรการกระตุ้น Digital Wallet เฟส 1 ที่แจกเป็นเงินสดต่อกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการ 14.5 ล้านคน 2.เม็ดเงินเยียวยาต่อผู้ประสบภัยน้ำท่วมวงเงิน 3 พันล้านบาท 3. กระทรวงคมนาคมเสนอ 3 โครงการลงทุนวงเงิน 1 แสนล้านบาท (โครงการมอเตอร์เวย์ส่วนต่อขยายดอนเมืองโทล์ลเวย์,โครงการมอเตอร์เวย์บางขุนเทียน-บางบัวทอง และโครงการรถไฟสายสีแดงส่วนต่อขยายช่วงรังสิต-มธ) เราคาดว่าจะเป็นบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง เช่น กลุ่มค้าปลีก (CPALL BJC) กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC SAK) กลุ่มซ่อมแซมบ้าน (HMPRO GLOBAL) และกลุ่มรับเหมาฯ (CK STEC)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้แกว่งบวกลบผสมผสานก่อนการประชุม FED ที่จะรู้ผลในเช้าวันพฤหัสฯ แต่ข้อดีคือเห็นการ Rotation เม็ดเงินไปหุ้นกลุ่ม Value Stock สะท้อนจาก Dow Jones ที่ปรับขึ้น 0.6% สวนทาง Nasdaq ที่ปรับลง -0.5% การเคลื่อนไหวข้างต้นเรามองเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทยที่สัดส่วนน้ำหนักหุ้นกลุ่ม Value เช่น กลุ่มธนาคาร กลุ่มพลังงาน กลุ่มค้าปลีกที่มีสัดส้วนรวมกันคิดเป็น 40%ของ Market Cap ของตลาด
ด้าน Fund Flow นักลงทุนต่างชาติวานนี้ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 8 ติดต่อกันอีก 350 ล้านบาทและเปิด Long สุทธิใน SET50 Index Futures 5.1 พันสัญญา ส่วนเงินบาทเช้านี้ทรงตัว 33.22 บาท/usd โดยรวมยังมีทิศทางเป็นบวกที่จะไหลเข้าต่อตลาดหุ้นบ้านเราต่อไป


Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 0.8% เป็นการขึ้นกระจายหลายอุตสาหกรรม โดยกลุ่มที่บวกเด่น STGT +21% STA +7.6% จากสหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้าถุงมือยางเพื่อการแพทย์จากจีน 50% และ 100% ในปี 68/69 จากเดิมจะปรับขึ้น 25% ปี 69 กลุ่มได้ประโยชน์จากมาตรการแจกเงิน 1 หมื่นบาท ค้าปลีก CPAXT +3% BJC +2.6% กลุ่มไฟแนนซ์ SAWAD +5.5% MTC +4% SAK +2.8% นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 350 ล้านบาท

 


ATO Daily Stock Picks
แนะนำ CK HMPRO

HMPRO ปันผลสูง Valuation ไม่แพง
และแนวโน้มกำไรใกล้ฟื้น
กำไรในครึ่งหลังของปี 67 คาดว่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปีและเทียบ YoY เนื่องจากมีการขยายสาขาหลายแห่ง ได้แก่ Home Pro 3-4 แห่งและ Mega Home 1 แห่ง โดยเน้นรูปแบบไฮบริด (การมี Home Pro และ Mega Home ในสถานที่เดียวกัน)
คาดการฟื้นตัวจะเกิดขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ย. เนื่องจากฐานที่ต่ำและผลกระทบจากการก่อสร้างถนนหน้าร้าน Home Pro สาขาราชพฤกษ์ที่น้อยลง และการย้ายสถานที่ตั้งของ Home Pro รัตนาธิเบศร์ หนุน SSSG จะกลับมาเป็นบวกใน 4Q67 นอกจากนี้ยังได้ประโยชนจากการซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วมหลายจังหวัดในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ
คาดกำไรทำสถิติใหม่ในปี 67 แต่ราคาหุ้นลดลง 8%YTD โดยหุ้นซื้อขายที่ PER67 21 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีอยู่เกินกว่า -1.6 SD และอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 4% จึงเป็นหนึ่งในเป้าหมายกองทุนวายุภักษ์ได้เช่นกัน
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 13.20 บาท


CK ราคาฟื้นช้าเกินไป
เมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน
คาดกำไรปี 2567/68/69E จะเติบโตโดดเด่น 30% / 15% / 24% YoY ตามลำดับ โดยเฉพาะปี 2569 กำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่ 2,711 ล้านบาท แนวโน้มคาดจะได้งานเพิ่มจากโครงการของบริษัทลูกเพิ่ม ทำให้ Backlog เข้าสู่ New S-Curve ช่วยเพิ่ม อัพไซด์ต่อประมาณการ
กำไร 3Q67 คาดขึ้นทำจุดสูงสุดของปี หนุนจากส่วนแบ่งกำไรของบริษัทลูกอย่าง CKP และ BEM นอกจากนี้ยังมี Sentiment บวกจากการเร่งผลักดันการเร่งประมูลโครงการภาครัฐฯ โดยวันนี้ รมว.คมนาคม เผยว่าเตรียมเสนอครม.พิจารณา 3 โครงการ Mega Project วงเงิน 9.37 หมื่นล้านบาท
ราคาหุ้นช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา -13% จากความกังวลต่อประเด็นการเมืองซึ่งปัจจุบันคลี่คลายแล้ว จนซื้อขายบน PER 17.7 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี -1.4S.D. มองระดับราคาตรงนี้เป็นจุดสะสมที่ดี
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 27.50 บาท


KEY FACTOR
ทิศทางตลาดการเงินโลกยังสะท้อนความคาดหวังเชิงบวกก่อนการประชุม FOMC 1) แม้ว่าดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะแกว่งแคบๆช่วง -0.52% ถึง +0.55% แต่ภาพรวมยังเป็นโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่ง 2) ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ทำจุดต่ำสุดใหม่ตั้งแต่ มิ.ย. 2566 แตะระดับ 3.62% 3) Dollar index แกว่งตัวใกล้เคียงจุดต่ำสุดของปีที่ระดับ 100.7 ซึ่งเป็นปัจจัยที่ยังหนุนเงินบาทอยู่ในรอบการแข็งค่าบริเวณ 33.2 – 33.3 บาทต่อดอลลาร์
ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์ก (Empire Manufacturing) อยู่ที่ระดับ 11.5 ในเดือน ส.ค. ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ -4.0 อย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนภาพเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ นอกจากนี้ในวันนี้จะมีการรายงาน 1) ยอดค้าปลีก เดือน ส.ค. (Consensus คาดว่าจะหดตัว -0.2% MoM) 2) ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ส.ค. (Consensus คาดว่าจะ +0.2% MoM) ซึ่งหากตัวเลขออกมาดี น่าจะทำให้ตลาดตอบรับเชิงบวก ผ่อนคลายความกังวลลงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว


EYES ON
17 ก.ย. ยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ
18 ก.ย. เงินเฟ้อ Eurozone (รอบสุดท้าย)
19 ก.ย. ผลการประชุม FOMC
20 ก.ย. ความเชื่อมั่นผู้บริโภค Eurozone, จีนกำหนดดอกเบี้ย LPR อายุ 1 และ 5 ปี

 


นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ลุ้น หวยออก By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ลุ้น หวยออก ระหว่างรอ ครม. ระหว่างรอผลประชุม เฟด เงินบาทแข็งค่า.....

ATLAS ผนึก PTG เปิดสถานี 'PT Max Rest นครชัยศรี 11' ใหญ่ที่สุดในไทย รองรับไลฟ์สไตล์นักเดินทางยุคใหม่

ATLAS ผนึก PTG เปิดสถานี 'PT Max Rest นครชัยศรี 11' ใหญ่ที่สุดในไทย รองรับไลฟ์สไตล์นักเดินทางยุคใหม่

มัลติมีเดีย

PTG × ATLAS ร่วมกันเปิดปั๊มแลนด์มาร์กใหม่ “PT Max Rest นครชัยศรี 11”

PTG × ATLAS ร่วมกันเปิดปั๊มแลนด์มาร์กใหม่ “PT Max Rest นครชัยศรี 11”

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้