Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ เผยผลโรดโชว์กระทรวงการคลังไทยในกัวลาลัมเปอร์ นักลงทุนสนใจDigital Wallet มากที่สุด ห่วงการเมืองและหนี้ครัวเรือน

596

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ ( 12 กันยายน 2567 )----บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า ประเด็นสำคัญจากการโรดโชว์ของกระทรวงการคลังไทยในกัวลาลัมเปอร์ ทั้งนี้เราได้นำ ดร.พิสิษฐ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการกองนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลังของไทยไปร่วมโรดโชว์ 2 วันที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเราได้พบปะกับกองทุน 11 แห่ง โดย สศค. คาดว่าโมเมนตัมเศรษฐกิจของไทยจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 67- 68 โดยมีอัพไซด์ จากนโยบายแจกเงินสด อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย แต่เรามองว่าความสนใจเริ่มดีขึ้นเนื่องจากเสถียรภาพทางการเมืองที่ดีขึ้น การเติบโตทางเศรษฐกิจที่เร่งตัว และผลประกอบการของบริษัทที่แข็งแกร่ง

 

โมเมนตัมเศรษฐกิจที่เร่งตัวขึ้น
สศค. คาดการณ์การเติบโตของ GDP ในปี 67 จะเติบโต 2.7% ซึ่งสะท้อนการปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 2H67 เมื่อเปรียบเทียบกับการเติบโตที่ 1.9% ใน 1H67 ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของการท่องเที่ยว การฟื้นตัวของการส่งออก และการใช้จ่ายของรัฐบาล ดร.พิสิษฐ์ยังเน้นย้ำว่าตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจในเดือนกรกฎาคมสะท้อนว่าดีขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกเติบโต 15% YoY ขณะที่การท่องเที่ยวเติบโต 24% YoY ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (MPI) ก็เติบโตในเชิงบวกเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1.5 ปี นโยบายแจกเงินอาจเพิ่มการเติบโตในปี 67 ได้ถึง 0.3% แม้จะยังไม่มีการคาดการณ์อย่างเป็นทางการ แต่คาดการณ์เบื้องต้นสำหรับปี 68 อยู่ที่ 3.1% คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 2.4% ในเดือนธันวาคม ก่อนจะลดลงในไตรมาส 2/68 นอกจากนี้ สศค. ยังคาดว่าหน่วยงานจัดอันดับเครดิต (Fitch, S&P) จะยืนยันสถานะ BBB+ ของไทยอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน


นักลงทุนสนใจประเด็นการแจกเงินสด กองทุนวายุภักษ์และคาสิโน
นักลงทุนสนใจมากที่สุดในเรื่อง Digital Wallet (การแจกเงิน 10,000 บาท/คน) และผู้ที่อาจได้รับประโยชน์จากนโยบายนี้ หลายรายยังรู้สึกแปลกใจเกี่ยวกับเงื่อนไขของกองทุนวายุภักษ์ แต่ส่วนใหญ่เห็นว่าเงื่อนไขที่รัฐบาลเสนอมีความน่าสนใจ นักลงทุนยังถามเกี่ยวกับปัจจัยที่ผลักดันนโยบายในระยะกลาง โดยการพัฒนาโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (คาสิโน) ได้รับความสนใจมากที่สุด ร่างกฎหมายได้ผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนแล้ว แต่การอนุมัติขั้นสุดท้ายจากรัฐสภาอาจใช้เวลานานกว่าหนึ่งปี ดังนั้นเราจึงแนะนำให้ลงทุนในกลุ่ม CONMAT, ผู้รับเหมา และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ซึ่งจะเป็นผู้รับอานิสงส์ในระยะเริ่มต้น


ข้อกังวลสำคัญของนักลงทุนคือประเด็นการเมืองและหนี้ครัวเรือน
นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดไทยมาเป็นเวลา 1 ปีครึ่งแล้ว นักลงทุนบางส่วนแสดงความประหลาดใจที่การเปลี่ยนผ่านจากนายกฯ เศรษฐา ไปเป็นนายกฯ แพทองธาร เป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น แต่ยังคงกังวลในประเด็นความวุ่นวายทางการเมือง ดังนั้น นักลงทุนจำนวนมากจึงเลือกที่จะรอดูจนกว่าจะมั่นใจมากขึ้นว่านโยบายจะดำเนินต่อไป ขณะเดียวกัน หนี้ครัวเรือนที่สูงของไทยก็เป็นอีกประเด็นที่น่ากังวล โดยมุมมองของ สศค. คือ เรื่องนี้เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่เน้นย้ำสองประเด็นที่อาจช่วยบรรเทาความกังวลของนักลงทุน ได้แก่ 1) ธปท. ได้ขยายนิยามของหนี้ครัวเรือนในประเทศไทยให้ครอบคลุมประเภทสินเชื่อที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ตัวเลขหนี้ครัวเรือนดูสูงกว่าประเทศอื่น ๆ 2) หนี้ครัวเรือนพุ่งสูงสุดที่ 95% ของ GDP เมื่อสิ้นปี 2563 และลดลงเหลือ 90.8% ในปัจจุบัน ดร.พิสิษฐ์กล่าวว่าผู้กำหนดนโยบายตั้งเป้าหมายให้หนี้ครัวเรือนลดลงเป็น 80% ของ GDP แต่ยอมรับว่าอาจต้องใช้เวลา 6-7 ปีจึงจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

FTI ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านระบบบำบัดน้ำ จัดสัมมนาใหญ่ "Future Water Solutions 2025"

FTI ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านระบบบำบัดน้ำ จัดสัมมนาใหญ่ "Future Water Solutions 2025"

ไฟการเมือง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ นักลงทุน ยังคงชะลอลงทุนต่อไป ด้วยเห็นไฟการเมืองในประเทศแล้ว ก็ถอย พัก รอดูสถานการณ์ .....

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้