บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (PCE)
ลักษณะธุรกิจ :
ถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ในธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มแบบครบวงจร โดยแบ่งได้เป็น 1) กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์ม น้ำมันไบโอดีเซล และน้ำมันปาล์มโอเลอีนเพื่อการบริโภค ซึ่งรวมถึงการซื้อน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาจำหน่ายต่อให้กับลูกค้าทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ 2) กลุ่มธุรกิจให้บริการคลังสินค้าและท่าเทียบเรือ 3) กลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางรถ และ 4) กลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือ ซึ่งแต่ละกลุ่มธุรกิจดำเนินการผ่านบริษัทย่อย
ความเห็นของเรา :
ประกอบธุรกิจแบบครบวงจร
การดำเนินธุรกิจของบริษัทครอบคลุมตั้งแต่การรับซื้อผลปาล์มเพื่อมาสกัดไปจนถึงการขนส่งให้แก่ลูกค้าในรูปแบบ B2B ซึ่งการจัดการระบบ Supply chain และตำแหน่งที่ตั้งโรงงานอยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบที่สำคัญถือเป็นจุดเด่นของบริษัท โดยธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์ม น้ำมันไบโอดีเซล น้ำมันปาล์มโอเลอีนเพื่อการบริโภค รวมถึงการซื้อและจำหน่ายน้ำมันปาล์มเป็นสัดส่วนรายได้หลักของบริษัท ขณะที่ธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องช่วยเสริมการดำเนินงานของธุรกิจหลัก นอกจากนี้บริษัทยังเน้นการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ผ่านการต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ bio-based เพื่อนำไปใช้เป็นในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อาหาร เครื่องสำอาง เป็นต้น
รายได้ปี 2024 เพิ่มขึ้น
มองว่ารายได้จากธุรกิจน้ำมันปาล์มจะเพิ่มขึ้น เป็นผลจากอุปสงค์น้ำมันชนิดต่างๆ ที่สูงขึ้น ราคาเฉลี่ยจึงเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเล็กน้อย รวมทั้งผลผลิตปาล์มที่เพิ่มขึ้นช่วยหนุนรายได้ธุรกิจซื้อและจำหน่ายน้ำมันปาล์ม จากการจำหน่ายให้แก่ลูกค้าต่างประเทศ เมื่อปริมาณผลผลิตมีมากกว่าความต้องการในประเทศ
ต้นทุนลดลงจากปริมาณผลผลิตปาล์มที่เพิ่มขึ้น
คาดกำไรเติบโตขึ้น จากปรากฏการณ์ลานีญาที่ส่งผลให้ฝนตกเพิ่มขึ้น ทำให้ผลผลิตปาล์มในปีนี้มากกว่าปีก่อนหน้าที่ปริมาณน้ำฝนน้อย ราคาผลปาล์มจึงมีแนวโน้มที่จะลดลง YoY ส่งผลให้ต้นทุนของบริษัทลดลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดว่าทรงตัวจาก 1H24
การระดมทุนตามวัตถุประสงค์เพื่อขยายธุรกิจในครั้งนี้มีความเหมาะสม โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตามต่อ ได้แก่ 1) แนวโน้มปริมาณผลผลิตปาล์ม 2) การต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง
ความเสี่ยง: 1) ปริมาณผลปาล์มสด 2) ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ 3) การเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์การใช้น้ำมัน จากการประเมินมูลค่าเบื้องต้น อิงจาก PER เฉลี่ยของบริษัทที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกันที่ 17.3x เท่า มองว่ามูลค่าเหมาะสมของบริษัท ณ ราคา IPO ยังมี Upside