Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

416

 

AT THE OPEN (#ATO)
SET Index พักตัวในกรอบ 1415-1435
เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

Market Strategy
คาด SET Index พักตัวตามกรอบ 1420-1435 จุด จากปัจจัยแวดล้อมที่ขาดแรงขับเคลื่อนใหม่และอาจถูกแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่วานนี้ปรับลงแรง 3.7% ส่วนปัจจัยในประเทศความสนใจจากอยู่ที่การขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ซึ่งวันนี้เป็นเรื่องการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศเริ่มเดือน ต.ค. 67 ซึ่งเราประเมินว่ากระทบต่อกำไรบริษัทจดทะเบียนจำกัด กลยุทธ์วันนี้เลือกหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวอย่าง BE8 TASCO

ราคาน้ำมันดิบวานนี้ปรับลงแรง -3.7% แรงกดดันจากกลุ่ม OPEC ปรับลด Demand Growth น้ำมันดิบปี 67 ลง 8 หมื่นบาร์เรลต่อวันมาที่ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และปี 68 ลง 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากความต้องการใช้ของจีนที่ชะลอลง ซึ่งสอดรับไปกับการรายงานยอดนำเข้าจีนเดือน ส.ค. ขยายตัว 0.5%YoY ต่ำกว่าตลาดคาด 2.5%YoY ด้านการส่งออกจีนแม้ขยายตัว 8.7%YoY ดีกว่าคาด 6.6%YoY แต่ยังมีความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯเป็นปัจจัยกดดันต่อไป สภาพแวดล้อมข้างต้นแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงานและโรงกลั่นในวันนี้

การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ 400 บาท ล่าสุดกระทรวงแรงงานเผยว่าเตรียมเริ่มใช้ ต.ค.67 พร้อมออกมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการ เช่น ผู้ประกอบการที่มีแรงงานมากกว่า 200 คนขึ้นไป สามารถลดการนำส่งเงินประกันสังคมส่วนนายจ้าง 1%ตั้งแต่ ต.ค. 67- ก.ย.68 การนำค่าใช้จ่ายจากการปรับขึ้นค่าแรงมาลดหย่อนภาษ๊ 1-1.5 เท่า เป็นต้น ประเมินผลกระทบการปรับขึ้นค่าแรงอาจกระทบกำไรต่อกลุ่มที่มีสัดส่วนการใช้แรงงานสูง โดยอาจกระทบกำไรปี 68 กลุ่มรับเหมาฯ 9% กลุ่มอาหาร กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ กลุ่มยานยนต์และกลุ่มวัสดุก่อสร้างกระทบในช่วง 1-2% แต่อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงผลกระทบจะน้อยกว่าเนื่องจากจะได้ค่าชดเชยจากมาตรการรัฐฯและการปรับตัวของผู้ประกอบการ ส่วนกลุ่มที่ได้ประโยชน์กลุ่มค้าปลีก และ ICT ที่อาจสร้าง Upside ต่อกำไร 3-4% โดยรวมเราคาดว่าจะไม่ได้สร้าง Downside เพิ่มเติมต่อกำไรปี 68 โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นค่าแรงชอบ CPALL BJC ADVANC และ TRUE

 


Market Summary
SET Index ติดลบเล็กน้อย -0.22% กลุ่มที่บวกดีกว่าตลาดคือกลุ่มอิเล็คฯ ตามการฟื้นตัวตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ DELTA +2.5% กลุ่ม PF&REIT ที่คาดหวังต่อเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์หนุน 3BBIF +8.8% DIF +5.1% CPNREIT +5.7% กลุ่มอาหาร CPF +2.6% ส่วนกลุ่มที่กดดันตลาดกลุ่มพลังงาน PTTEP +2.8% กลุ่มวัสดุก่อสร้าง SCC -2% นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 560 ล้านบาท

 

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ BE8 TASCO

TASCO ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบปรับลง
คาดกำไร 2H67 จะฟื้นตัวเด่น แรงหนุนจากตลาดยางมะตอยในประเทศตามการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 เราคาดปริมาณขาย ยางมะตอยในประเทศของใน 3Q67 จะเพิ่มเป็น 165,000 ตัน (+65% YoY , +67% QoQ) ขณะที่ 4Q67 จะดีต่อตามเม็ดเงินงบประมาณปี 68 ที่จะเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่ ต.ค. 67 เป็นต้นไป
เราคาดปริมาณส่งออกจะเพิ่มเป็น 170,000 ตัน (+6% YoY,+34%QoQ) ด้านราคาขายทั้งตลาดต่างประเทศ และ ในประเทศปรับเพิ่มขึ้นจาก 2Q67 ประมาณ 5-10% QoQ จึงคาดกำไรปกติ 3Q67 ฟื้นตัวเด่นขึ้น 500-800 ล้านบาท (+120% YoY, +103%QoQ) ส่วน 4Q67 คาดผลประกอบการดีขึ้นอีก
ระยะสั้นได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงดีต่อต้นทุน และการซ่อมแซมถนนหลังปัญหาน้ำท่วมคลี่คลาย
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 19.50 บาท


BE8 Initial Coverage
BE8 เป็นหนึ่งในตัวแทนจำหน่าย Salesforce ชั้นนำและเป็นผู้เล่น 3 อันดับแรกในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในประเทศไทย ในแง่โครงรายได้ในปี 66 แบ่งเป็น 30% จากบริษัทแม่ Beryl 8 (CRM, Big Data และ AI), 40% จาก BAYCOMS (ความปลอดภัยทาง ไซเบอร์) และ 30% จาก X10 (การเชื่อมต่อการทำงานของซอฟต์แวร์, การให้บริการ outsource พนักงานด้านไอที, การออกแบบและจัดการเว็บไซต์)
คาดว่ากำไรหลักจะพลิกจากที่ลดลง 41% ในปี 67 เป็นเติบโต 71% ในปี 68 โดยได้รับแรงหนุนจากการลงทุนด้าน IT ที่เพิ่มขึ้นจากทั้งภาครัฐและเอกชน ด้านปัจจัยบวกที่จะหนุนราคาหุ้นระยะถัดไปคือการเติบโตของกำไร 4Q67 ทั้ง YoY และ QoQ
BE8 ซื้อขายที่ PER68 ที่ 18 เท่าต่ำกว่ากลุ่มบริษัทที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีที่ 21 เท่าถึง 14% โดยราคาเป้าหมายปี 68 ของเราที่ 20.50 บาท มี Upside สูงถึง 19%
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 20.50 บาท


KEY FACTOR
ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของจีน 1) ส่งออก ยังขยายตัวได้โดดเด่น +8.7% YoY สูงกว่าที่ Consensus คาด +6.6% YoY และเร่งตัวขึ้นจาก +7.0% ในเดือนก่อน แต่อย่างไรก็ตาม 2) นำเข้าขยายตัวได้เพียง +0.5% YoY แย่กว่าที่ Consensus คาดไว้ +2.5%YoY และปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญจาก +7.2% YoY ในเดือนก่อน สะท้อนอุปสงค์ภาคในประเทศ และภาคการผลิตที่ยังฟื้นตัวได้ช้า สวนทางกับความต้องการในตลาดต่างประเทศที่ยังดีต่อเนื่อง
วันนี้ตลาดการเงินโลกน่าจะให้น้ำหนักไปที่การรายงานเงินเฟ้อเดือน ส.ค. ของสหรัฐฯ ซึ่ง Consensus คาดว่า 1) CPI ขยายตัว +2.5% YoY และ +0.2% MoM เทียบกับเดือน ก.ค. ที่ +2.9% YoY และ +0.2% MoM เป็นผลมาจากราคาพลังงานที่ปรับตัวหากเทียบกับในปีที่ผ่านมา 2) Core CPI ขยายตัว +3.2% YoY และ +0.2% MoM ทรงตัวเท่าเดือนกับเดือน ก.ค.


EYES ON
11 ก.ย. CPI สหรัฐฯ เดือน ส.ค.
12 ก.ย. PPI สหรัฐฯ เดือน ส.ค., ประชุม ECB

 


นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้