PMC ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์สติ๊กเกอร์ (Sticker) หรือ ฉลากกาว (Self-Adhesive Label) ต้นน้ำรายใหญ่ของประเทศ

บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ จ ากัด (มหาชน) หรือ PMC ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์สติ๊กเกอร์ (Sticker) หรือ ฉลากกาว (Self-Adhesive Label) รายใหญ่ของประเทศ ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ สติ๊กเกอร์กระดาษ สติ๊กเกอร์ฟิล์ม และ สติ๊กเกอร์ชนิดพิเศษอื่นๆ ให้แก่ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจโรงพิมพ์ฉลากสินค้า (Printers) และ ผู้ผลิตฉลากสินค้า (Converters) เป็นหลัก โดยลูกค้าเหล่านี้จะนำสติ๊กเกอร์เปล่าไปดำเนินการออกแบบ จัดพิมพ์ลวดลายและตัดให้ได้รูปทรง เพื่อผลิตเป็นฉลากสินค้าให้แก่ลูกค้าซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์หรือ End Users อีกทอดหนึ่ง

ผลการดำเนินงานช่วงปี 63–66 และ 1Q67
กำไรสุทธิของบริษัทในปี 63–66 เท่ากับ 40 ล้านบาท 41 ล้านบาท 18 ล้านบาท และ 17 ล้านบาท ตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ เท่ากับ 5.72%, 4.93%, 2.06% และ 2.11% ตามลำดับ หลังถูกหลายปัจจัยลบ(ต้นทุนวัตถุดิบ,อัตราค่าระวางเรือ,อัตราแลกเปลี่ยน)กดดัน แต่อย่างไรก็ตามเรามองผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วหลังบริษัทรายงาน กำไรสุทธิ 1Q67 เพิ ่มขึ ้น 1,784% YoY อยู่ที่ 11.9 ล้านบาท

จุดเด่นของ PMC
1.แผนการขยายกำลังการผลิตของบริษัทเพิ่มเป็น 185 ล้านตารางเมตรต่อปี จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับคำสั่งซื้อใหม่ ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ,2.การขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าโดยการลงทุนเพิ่มศูนย์กระจายสินค้าในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน เช่น อินโดนีเซียและเวียดนาม จะเป็นส่วนช่วยสร้างฐานลูกค้าใหม่ในกลุ่มผู้ผลิตฉลากสินค้าข้ามชาติชั้นนำ(Global Converters) และ 3.บริษัทมีการควบคุมต้นทุนภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งจะส่งผลบวกต่ออัตรากำไรขั้นต้น(GPM)ของบริษัท คาดกำไรสุทธิ ปี 67,68 ที่ 52 ล้านบาท และ 66 ล้านบาท ตามลำดับ หนุนด้วยคำสั่งซื้อของกลุ้มลูกค้าที่ฟื้นตัว, การขยายกำลังการผลิตใหม่ และ การบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เราคาดบริษัทจะมีกำไรสุทธิ ปี 67 ที่ 52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 199.7% YoY บนสมมุติฐานรายได้จากการขาย เพิ้มขึ้น 7.0% YoY ผลจากคำสั่งซื้อของกลุ่มลูกค้าที่ฟื้นตัวและกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากการซื้อเครื่องจักรใหม่ และ คาดกำไรสุทธิ ปี 68 ที่ 66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.6% YoY ตามคำสั่งซื้อของลูกค้าที่ต่างประเทศที่คาดจะเติบโต รวมถึงการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมประเมินราคาเป้าหมายปี 67 อยู่ที่ 3.92 บาท (บนสมมุติฐาน P/E เหมาะสมที่ 29 เท่า)

อภิสิทธิ์ ภัทรสกลเกียรติ
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน เลขทะเบียน 061710
อภิชาติ เลิศสาครศิริ
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน เลขทะเบียน 053891