AT THE OPEN (#ATO)
SET Index คาดยังยืนได้ในระดับสูง
เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

Market Strategy
คาด SET Index แกว่งตามกรอบ 1420-1440 จุด สภาพแวดล้อมยังเป็นบวก แรงหนุนยังมาจากความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้นในส่วน Digital Wallet กองทุนวายุภักษ์ ส่วนปัจจัยต่างประเทศสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มมีการรีบาวน์ทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯและราคาน้ำมันดิบ ด้านทิศทาง Fund Flow ต่างชาติยังคงไหลเข้า กลยุทธ์วันนี้เลือก SAK MINT
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ปรับขึ้นได้เฉลี่ย 1.2% หลังปรับลงแรงจากความกังวลต่อการชะลอตัวเศรษฐกิจมากเกินไปและราคาน้ำมันดิบที่ฟิ้นตัว 1.1% จากรายงาน เฮอริเคนเตรียมเข้าสหรัฐฯ สภาพแวดล้อมที่เป็นบวกข้างต้นคาด Sentiment บวกหนุนตลาดหุ้นภูมิภาคและบ้านเราเช้านี้
ความคืบหน้า Digital Wallet 10,000 บาท อิงความเห็นของรองนายกฯ ภูมิธรรม ที่เผยกว่าเตรียมเข้า ครม. เพื่ออนุมัติ 17 ก.ย. โดยรูปแบบโครงการแบ่งการจ่ายเงิน 2 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯและผู้พิการ กว่า 14 ล้านคน จะจ่ายเป็นเงินสดผ่านการโอนเข้าบัญชีโดยตรง และกลุ่มที่ 2 สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนจะแบ่งจ่าย 2 รอบ รอบแรก 5,000 พันบาท ภายในสิ้นปี 67 โดยถ้าระบบ Digital Wallet เสร็จทันจะจ่ายในรูปแบบ Digital Wallet แต่หากเสร็จไม่ทันจะจ่ายในรูปแบบเงินสด และรอบที่ 2 จะจ่ายในปี 68 ในรูปแบบ Digital Wallet ประเมินการจ่ายที่มีในรูปแบบเงินสดข้างต้น เป็นบวกต่อกลุ่มอุปโภคที่มูลค่าต่อบิลสูงมากขึ้น เช่น COM7 HMPRO และ CPN รวมถึงกลุ่มไฟแนนซ์ที่ได้ประโยชน์ในทางอ้อมเราชอบ MTC SAK
ความคืบหน้ากองทุนวายุภักษ์วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ที่จะเริ่มเปิดขายกับนักลงทุนทั่วไประหว่าง 16-20 ก.ย. วงเงิน 3- 5 หมื่นล้านบาท เราเชื่อว่าจะได้ตอบรับเป็นอย่างดีและคาดว่าจะทำให้มีเม็ดเงินเข้าหนุนตลาดหุ้นตั้งแต่ช่วง ต.ค. 67 ส่วนประเด็นอื่นๆ วันนี้ติดตามการรายงานยอดส่งออก/นำเข้าจีนเดือน ส.ค. ตลาดคาดขยายตัว 6.6%YoY และ 2.5%YoY ตามลำดับ

Market Summary
SET Index ปรับขึ้นต่อ 3.49 จุด หรือ 0.24% แรงหนุนหลักมาจากกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากกองทุนวายุภักษ์ ธ.พ. TTB +3% BBL +1% กลุ่มพลังงาน BCP +2.6% SPRC +2.9% กลุ่มรับเหมาฯ จากความคาดหวังต่อการลงทุนภาครัฐฯหนุน CK +2% STEC +3.3% ส่วนอื่นๆเป็นหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะ KBANK-BAM ตั้งบริษัทร่วมทุนบริหารสินทรัพย์หนุนราคาหุ้น +2% และ 6.7% ตามลำดับ นักลงทุนต่างชาติซื่อสุทธิ 3.6 พันล้านบาท

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ SAK MINT

MINT ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง
การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 12 ก.ย. Bloomberg Consensus คาดจะลดดอกเบี้ยฯ 25 bps มาที่ 3.5% และดอกเบี้ยฯ ณ สิ้นปี 67/ ก.ค. 68 คาดอยู่ที่ 3%/2% จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.75% ซึ่งเรามองเป็นบวกต่อ MINT ที่ภาระดอกเบี้ยจ่ายหนี้สกุลยูโรฯลดลง ซึ่งจากการทำ Sensitivity พบว่าทุกๆ 10 bps ที่ดอกเบี้ยฯลดลงเป็น Upside ต่อประมาณการ 0.25% ในช่วง 2H67 และ 1% ในปี 2568
แนวโน้มกำไร 3Q67 หดตัว QoQ ตามปัจจัยทางฤดูกาล แต่ขยายตัว YoY หนุนจากธุรกิจโรงแรมทั้งในยุโรปและไทย ขณะที่กำไร 67E เราคาดขยายตัว 25.5%YoY และกำไรปี 68E 10%YoY
ด้านในมุม Valuation ซื้อขายบน PER67/68E 20.4/18.6 เท่า ซึ่งต่ำกว่ากลุ่มอยู่มาก และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี -1.1 S.D.
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 36.00 บาท

SAK ได้ Sentiment บวก
จากมาตร Digital Wallet
คาดกำไรหลัก 67 จะเติบโต 14% YoY เนื่องจากรายได้เติบโตแข็งแกร่งและการควบคุมต้นทุนที่ดี สินเชื่อมีแนวโน้มเติบโตโดยได้แรงหนุนจากสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์และโฉนดที่ดิน ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ยังบริหารจัดการได้ ดีสะท้อนจาก NPL 2Q67 อยู่ที่ 2.5% ลดลง 6 bps เมื่อเทียบกับ 1Q67
เราคาดว่า SAK จะได้ผลบวกจากมาตรการ Digital Wallet ที่เตรียมให้กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ 10,000 บาท จำนวน 14 ล้านคน ในเดือน ก.ย. 67 เป็นเงินสด คาดช่วยลดความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์
นอกจากนี้ SAK จะได้ประโยชน์เป็นอย่างมากจากทิศทางดอกเบี้ยฯผ่านจุดสูงสุดและกำลังกลับเป็นขาลง เนื่องจาก 95% ของเงินกู้มาจากการกู้ยืมธนาคารซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ทำให้ต้นทุนทางการเงินจะลดได้ทันที โดยทุกๆ 0.25% ที่ปรับลดดอกเบี้ยฯจะเป็น Upside ต่อประมาณการ 2% ในปี 67/68
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 6.50 บาท

KEY FACTOR
เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นเอเชียปรับฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเทคโนโลยี จากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจซึ่งข้อมูล CPI และ PPI เดือน ส.ค. ที่ +0.6% YoY และ -1.8% YoY แย่กว่าที่ Consensus คาดไว้ +0.7% YoY และ -1.5% YoY ตามลำดับ ของจีน ออกมาตอกย้ำสะท้อนความอ่อนแอต่อเนื่อง ส่งผลให้ล่าสุดมุมมอง Bloomberg Consensus คาดการณ์ GDP ปี 2567 ของจีน ลดลงเหลือ +4.8% ซึ่งต่ำกว่าระดับที่ทางการจีนตั้งเป้าไว้ +5% และเป็นระดับที่ต่ำที่สุดตั้งแต่ เม.ย.
วันนี้จะมีการรายงานข้อมูลการค้าระหว่างประเทศของจีน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งดัชนีชี้วัดสำคัญ ซึ่ง Consensus คาดว่า ส่งออกจะขยายตัว +6.6% YoY และ นำเข้าจะ +2.5% YoY ชะลอลงจาก +7.0%YoY และ +7.2%YoY ในเดือนก่อนหน้า ตามลำดับ

EYES ON
10 ก.ย. ส่งออกและนำเข้า ของจีนเดือน ส.ค.
11 ก.ย. CPI สหรัฐฯ เดือน ส.ค.
12 ก.ย. PPI สหรัฐฯ เดือน ส.ค., ประชุม ECB

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ