Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

252

 


ยังไม่สิ้นสุดทางเลื่อน (ขึ้น)
การปรับตัวขึ้นของ SET INDEX วานนี้มายืนอยู่เหนือ 1400 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ และสถาบันในประเทศ กลับมาซื้อสุทธิอย่างมีนัยสำคัญ ภาพรวมถือเป็นสัญญาณดีคำถามที่ตามมาก็คือว่า แล้ว SET INDEX จากนี้ไปจะเป็นอย่างไร ในมุมของเราเห็นว่า ยังน่าจะมีแรงผลักขึ้นไปได้ต่อ เหตุเพราะ 1) VALUATIONในทางพื้นฐานที่กำหนดบน MARKET EARNIG YIELD GAP 3.8% อยู่ที่1450 จุด ถือว่ายังเปิด UPSIDE ทั้งนี้เป้าหมายดังกล่าวอยู่บนสมมุติฐานว่า กนง. ไม่ลดดอกเบี้ย แต่หากลด 0.25% เป้าหมายจะปรับขึ้นได้ราว 60จุด 2) ยังเห็นเม็ดเงินลงทุนใหม่ๆ เข้ามาในตลาด ทั้ง วายุภักษ์ THAILANDESG FUND รวมถึง FUND FLOW จากต่างประเทศ 3) สัญญาณทางTECHNICALเริ่ม OVERBOUGHTแต่ยังไม่เต็มที่ปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานที่อยู่ในทางบวก และมีโอกาสที่จะเห็นเม็ดเงินลงทุนใหม่ๆ ไหลเข้ามาสู่ตลาดฯ คาด SET INDEX ขยับขึ้นต่อ กรอบวันนี้1390 –1425 จุด TOP PICK เลือก AOT, IVLและ PTT


เม็ดเงินรัฐเต็มกระเป๋า หวังเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วน
ความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยมีมากขึ้น จากหลายปัจจัยบวกประโคมเข้ามา เริ่มจากการใช้จ่ายภาครัฐที่ติดหล่มมานานมีความผ่อนคลายมากขึ้นตามลำดับ และน่าจะเห็นความต่อเนื่องของการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 –68 หลังที่ประชุมสภาฯ มีมติเห็นชอบ 309 : 155 เสียง โหวตผ่านร่าง
พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2568 ซึ่งในขั้นตอนต่อไปจะส่งให้กับ สว. เพื่อพิจาณา ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯช่วงกลางเดือน ก.ย. 67 ขณะที่ภาคเศรษฐกิจเชื่อว่าจะมีแรงกระตุ้นมากขึ้น จากการใช้จ่ายงบฯ เพิ่มขึ้น


นอกจากนี้ ยังคาดหวังว่าจะเห็นการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนของงบปี 2567 จะเร่งตัวขึ้นในช่วงเวลาไม่ถึงเดือน ก่อนจะสิ้นสุด 3Q67 (ล่าสุดมีการใช้จ่ายไปเพียงแค่ 50% ของงบประมาณลงทุนทั้งหมด)


อีประเด็นหนึ่ง คือ ความคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ยบ้านเราในปีนี้ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งแรงส่งกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้นโยบายการเงินเบบผ่อนคลาย หากเงินฟ้อไทยยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง และชะลอตัวลงมากกว่าที่ กนง. คาดการณ


ขณะที่วานนี้มีรายงานตัวเลขเงินเฟ้อไทยเดือน ส.ค. +0.35%YOY ต่ำกว่าคาดและขยายตัวน้อยลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน +0.4%YOY และ 0.83%YOY ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาด 4Q67 กลับเข้ากรอบเป้าหมาย 1-3% จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของรัฐบาลที่เร่งงอัดฉีดในช่วงปลายปี อาทิ โครงการแจกเงิน 10,000 บาท ฯลฯ


สรุป งบประมาณภาครัฐเตรียมพร้อมใช้จ่าย บวกกับแรงคาดหวังที่จะเห็น กนง. ใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้นในระยะถัดไป ล้วนเป็นปัจจัยผลักให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้เติบโตแบบขั้นบันได

SET ระดับ 1400 จุดยังน่าซื้อหรือไม่ ?
หลังจากที่ SET INDEX วานนี้ปรับตัวขึ้นมาแรงทะลุ 1400 จุด ปิดที่ระดับ 1404.28จุด(สูงสุดในรอบ 4 เดือน) ซึ่งมีแรงซื้อสุทธิมาจากสถาบัน 3.6 พันล้านบาท และต่างชาติ 7.5 พันล้านบาท หนุนให้มูลค่าซื้อขายกลับมาคึกคักอีกครั้งที่ระดับ 8.2 หมื่นล้านบาท


ซึ่งคงมีคำถามจากนักลงทุนไม่น้อยว่าดัชนีระดับดังกล่าวยังน่าลงทุนอยู่ไหม ซึ่งฝ่ายวิจัยฯมองว่ายังน่าลงทุนอยู่ด้วยด้วยปัจจัยทาง VALUATION + FUND FLOWขณะที่สัญญาณ TECHNICAL ยังมีโมเมนตัมไปต่อ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

• FUND FLOW มีโอกาสไหลเข้าจากนักลงทุนต่างชาติ อ้างอิงตามทิศทางดอกเบี้ยหลายประเทศทั้ง สหรัฐฯ ยุโรป มีโอกาสเป็นขาลงเร็วและแรงกว่า
ประเทศไทย(BOND YIELD สหรัฐ-ไทยแคบลง) ซึ่งส่วนต่าง BOND YIELD10 ปี ไทยกับสหรัฐแคบลง FUND FLOW ต่างชาติมักจะไหลเข้าตลาดหุ้นไทย
ในทางกลับกันหาก BOND YIELD 10 ปี ไทยถูกสหรัฐทิ้งห่าง(GAP มากขึ้น)FUND FLOW ก็มักจะไหลออกเช่นกัน โดยทุกๆ ส่วนต่าง BOND YIELD10Y(US-TH) แคบลง 5 ถึง 10 BPS. หนุนให้ FUND FLOW ไหลเข้าได้ราว 1หมื่นล้านบาท แต่ถ้า ส่วนต่าง BOND YIELD 10Y (US-TH) กว้างขึ้น 5 ถึง10 BPS. กดดัน FUND FLOW ไหลออก 1 หมื่นล้านบาท

• VALUATION SET ยังอยู่ในจุดที่น่าลงทุน ตลาดคาด กนง. มีโอกาสลดดอกเบี้ย 1 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี สะท้อนจาก BOND YIELD CURVE ไทยค่อยๆ ลดลง โดย 2H67 BOND YIELD CURVE ลดลง -7 ถึง -13 BPS.และช่วงอายุ 1 ปีอยู่ระดับ 2.28% โดยตามกลไก ทุกๆ BOND YIELD ที่ลดลงจะหนุนให้ SET ซื้อขายบน P/E ที่สูงขึ้นได้ โดยทุกๆ BOND YIELD ที่ลดลง 5% หนุนให้TARGET SET ขยับขึ้น 12 จุด ซึ่งปัจจุบัน BOND YIELD1Y 2.28% เทียบเท่า TARGET SET เกือบ 1500 จุด ซึ่งหากมีการลดดอกเบี้ย 1 ครั้ง จะช่วยเสริม TARGET SET ได้อีกราว 60 จุด ซึ่งถือว่ายังมีUPSIDE มากพอสมควรจากระดับดัชนีปัจจุบัน

• สัญญาณ TECHNICAL ของ SET วันนี้คาด SET INDEX ขยับขึ้นต่อทดสอบแนวต้านย่อย 1410 จุด และแนวต้านหลักเส้นค่าเฉลี่ย 75 สัปดาห์1420-1425 จุดรอทดสอบ แต่จากเมื่อวานที่ดีดแรงถึง 2.84% (เทียบราคาปิด) เข้าสู่ OVERBOUGHT และการขึ้นต่อวันนี้คาดแตะ 1410 จุดและเกินกว่าจะเป็นการเข้าสู่ระยะ SUPER OVERBOUGHT ขณะที่ภาพรายสัปดาห์การตั้งต้นฟื้นจากฐาน 1270-1280จุดเป็นการจบคลื่น 5และเริ่มขา C ผ่านDOWNTREND 1400 จุด เป้าหมายรายสัปดาห์ 1450-1490 จุด สรุป คือเก็งกำไรปล่อย LET PROFIT RUN หรือกรณีจะปิดความเสี่ยงจากรอบขึ้นแรง ให้ดูตามแนวต้านขายเป็นระยะ เว้นหลุด 1380 จุดเสีย

 

สรุป ระดับ SET INDEX ในปัจจุบัน ยังถือว่ามีความน่าสนใจจากทั้ง 3 มุม คือ 1.FUND FLOW 2.VALUATION 3.TECHNICAL ซึ่งฝ่ายวิจัยฯคาดว่าวันนี้ SET มีโอกาสทดสอบแนวต้านย่อยที่ระดับ 1410 จุด

กองทุนวายุภักษ์ฟื้น กลับมาหนุน SET ได้ถูกจังหวะพอดี
ตลาดหุ้นโลกยังคงกังวลกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยขึ้นเด่น หลังประเด็นกองทุนวายุภักษ์เข้ามาหนุนได้ทันเวลาพอดี

ปกติกระแสแรงกดดันจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีผลต่อตลาดหุ้นไทย แต่ไม่เยอะมากสะท้อนได้จากข้อมูลค่า BETA 2 ปี ระหว่าง SET กับ S&P500 ต่ำเพียง 0.28 เท่านั้นแสดงว่าเวลาตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นหรือลงแรง SET มีโอกาสขึ้นหรือลงในระดับที่น้อยกว่า ขณะที่ TIMELINE กองทุนวายุภักษ์ชัดเจน เข้ามาช่วยหนุนตลาดหุ้นไทยได้ทันเวลาพอดี


กลับมาที่ประเด็นกองทุนวายุภักษ์ ช่วยหนุนตลาดหุ้นได้แค่ไหน? ฝ่ายวิจัยฯ แบ่งองประกอบต่างๆ ในการประเมินได้ดังนี้
1. TIMELINE กองทุนวายุภักษ์ชัดเจน เปรียบเสมือน TREASURY STOCK +INVERTED MSCI PLAY ดังนี้
▪ TREASURY STOCK (การซื้อหุ้นคืน) โดยหุ้นก็มักขึ้นเสมอในวันที่บริษัทประกาศซื้อหุ้นคืน แล้วค่อยๆ ปรับขึ้นอีกทีวันที่ซื้อจริง
▪ INVERTED MSCI PLAY คือ มีเม็ดจาก ACTIVE FUND เก็งกำไรหุ้นเข้าดัชนี และมักปรับตัวขึ้นได้ดีตั้งแต่วันประกาศจนถึงวันมีผลบังคับใช้ แค่สลับเม็ดเงินรอซื้อหุ้นเข้าดัชนี จากกองทุน PASSIVE FUND ต่างประเทศเป็นกองทุนวายุภักษ์ซื้อแทน
***ข้อระวัง ถ้ากองทุนต่างประเทศเข้ามาเก็งกำไรเยอะ วันที่กองทุนวายุภักษ์มีผลบังคับใช้ มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้น้อยลงก็อาจเกิดขึ้นได้***


2. คาดหวังเม็ดเงินเริ่มต้นกองทุนวายุภักษ์ปีนี้ จะสูงเทียบเท่าหรือสูงกว่ากองทุนวายุภักษ์ในปี 2546 ที่เริ่มต้นมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนผ่านกองทุนวายุภักษ์สูงถึง7 หมื่นล้านบาท หลักๆ มาจากสถาบันการเงินต่างๆ 5.1 หมื่นล้านบาท และบุคคลทั่วไป 1.5 หมื่นล้านบาท และอื่นๆ อีก 4 หมื่นล้านบาท ส่วนปีนี้คาดมี
เม็ดเงินเริ่มต้นไม่น้อยกว่า และทยอยเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 1 –1.5 แสนล้านบาท


3. หลังจากกองทุนวายุภักษ์ ปี 2546 เข้ามา 1 เดือน ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้เด่น 19.5% สูงสุดเป็นอันดับ 4 ของโลก หวังว่าครั้งนี้จะช่วยพยุงตลาดหุ้นไทยให้ OUTPERFORM ได้ดีเช่นกัน ส่วนราย SECTOR ที่ขึ้นเด่น คือ ENERG53%, PETRO 36%, BANK 32% เป็นต้น

กลยุทธ์แนะนำสะสมหุ้นเด่น VAYU PLAY ดังนี้
1. หุ้นที่กองทุนวายุภักษ์เดิมถือเยอะ และมี ESG RATING “AAA”
2. หุ้นที่กองทุนวายุภักษ์เดิมถือ และมี ESG RATING พร้อมกับมี SENTIMENTสนับสนุนในช่วงนี้
2.1.หุ้น LAGGARD แนะนำ PTT, SCC, SCGP, IVL, LH
2.2. หุ้นรับวัฎจักรดอกเบี้ยลง MTC, TISCO, SAWAD
2.3. หุ้น ANTI OIL GULF BGRIM, OR
2.4. หุ้นกำไร 3Q67 เด่น BCH, PLANB

 

Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส

เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม, CISA
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

HotNews: RJH ทุ่ม 420 ลบ. ลุยโครงการซื้อหุ้นคืน

บอร์ด RJH เคาะ โครงการซื้อหุ้นคืน จำนวน 18 ล้านหุ้น วงเงิน 420 ลบ. เริ่ม 15 พ.ย.67 - 30 เม.ย.68

หนาแน่น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย เช้าวันนี้ ยังคงมีความคึกคัก .....

มัลติมีเดีย

รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์

รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้