สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 4 กันยายน 2567)--- ดร.กำพล บุริยเมธากุล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮลท์ เอ็มไพร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) HEALTH เปิดเผยว่า บริษัทฯ” ขอแจ้งมติที่สำคัญของที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 8/2567 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่3 กันยายน 2567 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) ดังนี้
1. อนุมัติแต่งตั้ง พลอากาศตรี นายแพทย์ สันติ ศรีเสริมโภค เข้าดำรงตำแหน่ง กรรมการ แทน นางศุภากร ฉั่วศิริพัฒนา กรรมการที่ลาออก โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งกรรมการเท่ากับวาระที่ยังคงเหลืออยู่ของกรรมการที่ลาออกโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2567เป็นต้นไป
2. อนุมัติแต่งตั้ง พลอากาศตรี นายแพทย์ สันติ ศรีเสริมโภค เข้าดำรงตำแหน่ง กรรมการตรวจสอบ แทน พล.ต.ท.สกฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ประธานกรรมการตรวจสอบที่ลาออกจากตำแหน่ง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2567เป็นต้นไป
3. อนุมัติแต่งตั้ง พลอากาศตรี นายแพทย์ สันติ ศรีเสริมโภค เข้าดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการตรวจสอบ แทนพล.ต.ท. สกฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ประธานกรรมการตรวจสอบที่ลาออกจากตำแหน่ง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่3 กันยายน2567เป็นต้นไป
4. อนุมัติการยกเลิกการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ บริษัท รีโว่เมด กรุ๊ป จำกัด (“RVM”) จำนวน ร้อยละ 10 ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้
หลังจากที่ บริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้เข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ บริษัท รีโว่เมด กรุ๊ป จำกัด (“RVM”) จำนวน ร้อยละ10ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว โดยคิดเป็นจำนวน 20,000 หุ้น (สองหมื่นหุ้น) ในราคาหุ้นละ 3,750 บาท (สามพันเจ็ดร้อยห้าสิบบาทต่อหุ้น) หรือคิดเป็นจำนวนเงินเท่ากับ 75,000,000 บาท (เจ็ดสิบห้าล้านบาท) ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่5/2567 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2567 นั้น โดยบริษัทฯ ได้ชำระเงินมัดจำตามสัญญาเป็นจำนวน 50 ล้านบาท ให้แก่ผู้จะขาย ต่อมาเนื่องจากผู้จะขายได้มีหนังสือแจ้งความประสงค์ขอยกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายหุ้นสามัญของ RVM กับบริษัทฯ ด้วยเหตุผลตามหนังสือบอกเลิกสัญญาของผู้จะขายที่ระบุว่าเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 ผู้จะขายได้เข้าลงทุนในหลักทรัพย์ HEALTH ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นจำนวนมากกว่าร้อยละ 10ของทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้ว ซึ่งเข้านิยามตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 21/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกันพ.ศ. 2546 ดังนั้น เพื่อมิให้เกิดประเด็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน และ/หรืออาจมีประเด็นในเรื่องความขัดแย้งทางผลประโยชน์ตามข้อกำหนดและกฎหมายข้างต้นระหว่างผู้จะขายและบริษัทฯ ผู้จะขายจึงมีความประสงค์จะขอดำเนินการยกเลิกสัญญาจะซื้อจะขาย และคืนเงินมัดจำ จำนวน 50,000,000 บาท ให้แก่บริษัทฯ
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2567 เห็นว่าเพื่อมิให้เกิดประเด็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน และ/หรืออาจมีประเด็นในเรื่องความขัดแย้งทางผลประโยชน์ระหว่างผู้จะขายและบริษัทฯ ตามข้อกำหนดและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับข้อมูลที่บริษัทฯ ได้รับจากการที่ฝ่ายบริหารได้เข้าทำการ Due Diligence ภายหลังการเข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายหุ้นเพื่อตรวจสอบสถานะกิจการของ RVM และประเมินในเบื้องต้นแล้วคาดว่าระบบบัญชีของ RVM ยังคงต้องอาศัยระยะเวลาในการปรับบัญชีเพื่อให้สอดคล้องกับมาตราฐานการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไปของบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีกพอสมควร ซึ่งไม่ตรงตามเงื่อนไขข้อตกลงของสัญญาจะซื้อจะขายหุ้นโดยเข้าเหตุที่บริษัทฯ มีสิทธิที่จะบอกเลิกสัญญาดังกล่าวได้ดังนั้นที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2567 จึงเห็นสมควรอนุมัติยกเลิกการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ RVM ซึ่งขณะนี้ฝ่ายจัดการได้ดำเนินการลงนามเอกสารยกเลิกสัญญาและรับชำระเงินมัดจำค่าหุ้นคืนจากผู้จะขายเป็นจำนวนเงิน 50 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567และที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 8/2567ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2567 มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติการยกเลิกการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ RVM จำนวน ร้อยละ 10ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว