Market Wrap-Up
- SET วันที่ 2 ก.ย.67 ปิด -5.43 จุด อยู่ที่ 1,353.64 จุด มูลค่าการซื้อขาย 33,174 ลบ.ต่างชาติขาย 1,478 ลบ.สถาบันซื้อ 77 ลบ.รายย่อยซื้อ 1,887 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิรวม 2,041 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น KBANK,IVL,INTUCH,PSP,KTB และมียอดขายสุทธิ AWC,SCB,PTTEP,EA,OSP มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,361 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ SCC,TPIPL,PTTEP โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 6,717 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 139,323 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 2,283 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปิดทำการในวันแรงงาน ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.02% ได้แรงหนุนจากกลุ่มอสังหา ฯ +1.8% ปิดสูงสุดนับตั้งแต่ ก.พ. 66 จากคาดการณ์ ECB จะลดดอกเบี้ย 0.25% ขณะที่กลุ่มอวกาศ & การบิน -2.4% หลังหุ้นโรลส์-รอยส์ของอังกฤษผู้ผลิตเครื่องยนต์แอร์บัส -6.5%
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปิดในวันแรงงาน ขณะที่สัปดาห์ก่อนตลาดหุ้นสหรัฐได้แรงหนุนรายงาน US GDP Q2/67 +3.0% คาด +2.8% QoQ และ US Core PCE ก.ค. ชะลอตัวอยู่ที่ 6% & คาด 2.7% YoY และ ก.ค. อยู่ที่ 0.2% MoM ส่งผลให้ CME Fed Watch ชี้โอกาส 69% จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 17 -18 ก.ย. และปีนี้คาดจะลดดอกเบี้ยราว 1.0% ค่ำวันนี้ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจ เช่น ISM ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐ ส.ค. คาด 47.5 & ก.ค. 46.8 และวันศุกร์ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ส.ค. คาด 164,000 & ก.ค. 114,000 ราย และอัตราว่างงาน ส.ค. คาด 4.2% & ก.ค. 4.3% YoY ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจของเฟดว่าจะลดดอกเบี้นในอัตรา 0.25 หรือ 0.50%
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากอสังหา ฯ +1.8% หลังรายงาน CPI ยูโรโซน เบื้องต้น ส.ค. ลดลงอยู่ที่ 2% & ก.ค. 2.6% YoY เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ส่งผลให้ LSEG คาด ECB มีแนวโน้มจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 12 ก.ย. ส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ PMI ภาคผลิตยูโรโซน ส.ค. ปรับดีขึ้นอยู่ที่ 45.8 & ก.ค. 45.6
- ตลาดหุ้นเอเขียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -1.1% ,ฮั่งเส็ง -1.65% หลัง NBS เผย PMI ภาคการผลิตจีน ส.ค. ลดลงอยู่ที่ 49.1 & ก.ค. 49.4 อยู่ในโซนถดถอยต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 บ่งชี้เศรษฐกิจจีนอาจฟื้นตัวช้ากว่าคาด ขณะที่ดัชนีนิเกอิ +0.14% ได้แรงหนุนจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่า ซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มส่งออกญี่ปุ่น ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจเช้านี้ CPI เกาหลีใต้ ส.ค. ลดลงอยู่ที่ 2.0% & ก.ค. 2.6% YoY ส่งผลให้ ธ.กลางเกาหลีใต้มีโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 11 ต.ค. หลังคงดอกเบี้ย 12 ครั้งที่ระดับ 3.5% ส่วนวันพรุ่งนี้ติดตาม PMI ภาคบริการของญี่ปุ่น & จีน
- ดัชนี SET วานนี้ -0.40% ปริมาณการซื้อขาย 3 หมื่น ลบ.ต่างชาติขาย 1,478 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 486 ลบ. รายย่อยซื้อ 1,887 ลบ. และสถาบันซื้อ 77 ลบ. ดัชนีปรับลดลงจากแรงชายกลุ่มพลังงาน หลังกลุ่มโอเปกพลัสส่งสัญญาณทยอยปรับเพิ่มกำลังการผลิตตั้งแต่ ต.ค. นี้ ขณะที่กลุ่มเกษตร & อาหารก็ถูกแรงชายกำไร หลังสัปดาห์ก่อนหุ้นกลุ่มยางพารา, ไก่สดเช่แข็ง แปรรูป และอาหารสัตว์เลี้ยงปรับขึ้นรับตัวเลขส่งออก ก.ค. ที่ขยายตัวดีกว่าคาด กอปรกลุ่ม Domestic Play เช่น ค้าปลีก, ธนาคาร และไฟแนนท์ ยังขาดปัจจัยบวกใหม่ และอยู่ระหว่างรอการแต่งตั้ง ครม.ชุดใหม่ เพื่อดำเนินอนุมัติ ม.กระตุ้นกำลังซื้อวงเงิน 1.4 แสน ลบ. รวมถึง ม.กระตุ้นการลงทุนผ่านการเสนอขายกองทุนวายุภักษ์ ประเด็นสำคัญวันนี้ติดตามสภา ฯ จะพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 68 วงเงิน 3.75 ล.ลบ.ในวาระ 2, 3 และวันพฤหัส ก.พาณิชย์รายงาน CPI ส.ค. คาด 0.40% & ก.ค. 0.83% YoY ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจลดดอกเบี้ยของ กนง.ในการประชุมวันที่ 16 ต.ค.
Daily Strategy
- วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,345 - 1,350 กรณียืนถือพอร์ตต่อ โดยมีแนวต้านที่ 1,360 – 1,370 โดยตลาดยังรอ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจาก ครม.ชุดใหม่ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มอปุโภคบริโภค CPALL,CPAXT,BJC,CBG,ICHI ได้ประโยชน์จาก ม.กระตุ้นกำลังซื้อ/ กลุ่มที่ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง เช่น GULF,GPSC,JMT,CPNREIT และเก็งกำไร PSL,RCL ตามดัชนีค่าระวางเรือที่ปรับขึ้น
- BTG* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 25.25 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิใน 2Q67 อยู่ที่ 628 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนใน 1Q67 และ 2Q66 หนุนจากราคาหมูและไก่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ลดลง สำหรับแนวโน้ม 3Q67 ยังเติบโตต่อเนื่อง QoQ, YoY โดยราคาหมูในประเทศยังอยู่ในระดับสูง หลังสถานการณ์ราคาหมูเถื่อนเริ่มคลี่คลายลง ส่วนราคาไก่ก็มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นเช่นกันจากตลาดส่งออก ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ยังอยู่ในระดับต่ำจากผลิตผลในการเพาะปลูกสูงขึ้น ดังนั้นจึงส่งผลบวกต่อ GPM ทั้งนี้อิงจาก Consensus ตลาดคาดปี 67 จะกลับมากำไร 3 พันล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่ขาดทุน 1.4 พันล้านบาท
- KCG* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 12.87 บาท) กำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 95 ลบ. +32%QoQ, +86%YoY หนุนด้วย U-rate ที่สูงขึ้น และต้นทุนที่ลดลง ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังของปียังมีปัจจัยบวกจาก 1.ศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า KCG Logistics Park (ช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการเช่าคลังข้างนอกปีละราว 50 ลบ.) 2.ระดับราคาต้นทุนวัตถุดิบหลัก(เช่น แป้งสาลี, น้ำมันปาล์ม, น้ำมันเนย) ที่ยังอยู่ในระดับจัดการได้ 3.บวกตามฤดูกาลในช่วง Q4 และ 4.การปรับปรุง Production line ให้เป็น automatic มากขึ้น ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรปี67 และ68 ของ KCG* ที่ 391 ลบ.(+28%YoY) และ 459 ลบ.(+17%YoY)
Daily Key Factors
Oil Update(0)ตลาดน้ำมันสหรัฐวานนี้ปิดวันแรงงาน โดยราคาน้ำมันปรับลดลง จากข่าวกลุ่มโอเปกพลัสคาดจะเพิ่มกำลังการผลิตราว 1.8 แสน บาร์เรล/วัน ตั้งแต่ ต.ค. 67 จากปัจจุบันลดกำลังการผลิตอยู่ที่ 5.86 ล.บาร์เรล/วัน
Gold Update(-) Gold Spot เช้านี้ -$6.78 อยู่ที่ $2,492.74 /ออนซ์ ถูกกดดันจาก Dollar Index แข็งค่า และ US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้น และวันศุกร์นี้ยังรอตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ส.ค.
Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +40.98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -43.19 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +76.75 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +7.42 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 34.24 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 3.917 %
(+) ดัชนี BDI วานนี้ +105 จุด อยู่ที่ 1,919
(+) BitCoinเช้านี้ +3.22% อยู่ที่ 59,299 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
สัปดาห์ที1 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ( ส.ค.)
ต่างประเทศ
02 ก.ย. US วันแรงงาน
03 ก.ย. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ส.ค.)
04 ก.ย. US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs ( ก.ค.)
05 ก.ย. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)( ส.ค.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ส.ค.)
06 ก.ย. US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) ( ส.ค.)
US การจ้างงานนอกภาคการเกษตร ( ส.ค.)
US อัตราการว่างงาน ( ส.ค.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,
(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*
(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB
(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio September 2024: KCG*, CPALL, AU*, CPF, THCOM
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th