สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(30 สิงหาคม 2567)-------กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เสริมแกร่งบุคลากรในองค์กรให้เข้าใจแนวคิด ‘ธุรกิจยั่งยืน’ อย่างลึกซึ้ง เข้าศึกษาดูงานแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหาร บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) เรียนรู้แนวทางการบริหารจัดการธุรกิจ ก่อนนำมาประยุกต์ใช้ต่อยอดพัฒนาธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระดับสากล ตามแนวทาง ‘ศึกษา ต่อยอด พัฒนา’ พร้อมตั้งเป้า ปี 2568 ส่งเสริมธุรกิจไทยก้าวสู่ธุรกิจ ESG เต็มตัว รับเทรนด์การประกอบธุรกิจโลก

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีภารกิจสำคัญ คือ การส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจไทยให้มีความเข้มแข็ง เสริมสร้างความองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการประกอบธุรกิจ พร้อมเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน โดยปัจจัยหลักที่จะขับเคลื่อนภาคธุรกิจให้พร้อมรับมือกับทุกความท้าทาย คือ การประกอบธุรกิจให้สอดรับกับแนวทางการประกอบธุรกิจของโลก เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ และเสริมความเข้มแข็งผู้ประกอบการในระยะยาว

การดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืน (Sustainability) โดยให้ความสำคัญด้าน ESG (Environment, Social และ Governance) ซึ่งเป็นแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนที่นักลงทุนใช้ประกอบการพิจารณาการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ และเป็นเทรนด์ธุรกิจโลกที่กำลังได้รับความนิยม ความสำคัญของ 3 แนวคิด คือ "E" Environment (สิ่งแวดล้อม) เป็นหลักเกณฑ์ที่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม "S" Social (สังคม) เป็นหลักเกณฑ์ที่ชี้วัดถึงการบริหารจัดการความสัมพันธ์และการสื่อสารกับสังคมที่มีประสิทธิภาพ "G" Governance (ธรรมาภิบาล) มีการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล ซึ่งการบริหารจัดการนี้ต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสีย โดยองค์ประกอบทั้ง 3 เป็นสิ่งสำคัญที่ภาคธุรกิจต้องเร่งดำเนินการ โดยมีภาครัฐและภาคประชาสังคมเป็นหน่วยสนับสนุน เพื่อสร้างสรรค์อนาคตที่ดี สร้างความมั่นคงให้กับประเทศในระยะยาว

อธิบดีอรมน กล่าวต่อว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ตั้งเป้าปี 2568 เป็นปีแห่งการส่งเสริมเอสเอ็มอีไทยสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจ โดยใช้โมเดล ESG มาสร้างความเข้มแข็ง ดังนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพให้บุคลากรกรมฯ เข้าใจแนวคิด ‘ธุรกิจยั่งยืน’ อย่างลึกซึ้ง จึงได้จัดโครงการอบรมนักการตลาดภาครัฐขับเคลื่อน SME ภายใต้หลักสูตร ‘ESG โมเดล สู่การปฏิบัติเพื่อการนำธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในระดับสากล’ เพื่อให้บุคลากรของกรมฯ มีความรู้ความเข้าใจด้านการดำเนินธุรกิจ คำนึงถึงการดูแลสิ่งแวดล้อม การรับผิดชอบต่อสังคม เป็นแนวคิดในการสร้างโอกาสและความท้าทายธุรกิจสู่ความยั่งยืน โดยได้เข้าศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหาร บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAFS) ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำในอุตสาหกรรมการบินที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล นอกจากนี้ ยังขยายการดำเนินงานไปอีก 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มธุรกิจการบิน (2) กลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน และ (3) กลุ่มบริการธุรกิจ โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล อาทิ Blockchain และ AI มาประยุกต์ใช้ดำเนินธุรกิจอย่างครบวงจร เกิดเป็นห่วงโซ่คุณค่าของ BAFS Group มีการดำเนินงานที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม โดยบูรณาการแนวคิดด้านความยั่งยืนเข้ากับกลยุทธ์และการดำเนินธุรกิจในทุกมิติ

การเข้าศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่เกิดขึ้น เป็นโอกาสการเรียนรู้แนวปฏิบัติที่ดี (Best Practices) ในการนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเกิดความยั่งยืน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูงและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยสำคัญ เช่น อุตสาหกรรมการบินและพลังงาน การได้เห็นการปฏิบัติงานจริงและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญของ BAFS จะช่วยให้สามารถนำความรู้และแนวคิดมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนากรมฯ ให้ก้าวสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้บุคลากรกรมฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินงานอย่างยั่งยืน อันจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทัศนคติและพฤติกรรมในการทำงานที่คำนึงถึงผลกระทบในระยะยาวมากขึ้น ทั้งยังช่วยให้กรมฯ สามารถพัฒนานโยบายและมาตรการส่งเสริมธุรกิจที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ สามารถต่อยอดนำมาใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาเกณฑ์ประเมินและให้รางวัลแก่ธุรกิจที่มีการดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่โดดเด่น นำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของธุรกิจไทยในระดับสากล และพัฒนาเศรษฐกิจประเทศอย่างยั่งยืนในระยะยาว

นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างเครือข่ายกับผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนในการพัฒนาทักษะแนวปฏิบัติที่ดีสนับสนุนการขับเคลื่อนงานตามภารกิจของกรมฯ นำไปสู่การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเพิ่มขีดความสามารถในการเป็นผู้นำเชิงรุก (Proactive Leadership) ที่นำพาองค์กรรับมือกับทุกความท้าทายในปัจจุบัน ตามแนวทาง ‘ศึกษา ต่อยอด พัฒนา’ ของกรมฯ ที่ใช้ในการขับเคลื่อนภาคธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญคือช่วยสร้าง Ecosystem ที่เอื้อต่อการบริหารจัดการของภาคธุรกิจในประเทศไทยบนพื้นฐานของความยั่งยืนอีกด้วย” อธิบดีอรมน กล่าว