AT THE OPEN (#ATO)
SET Index แกว่งออกข้าง
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ

Market Strategy
ปัจจัยต่างประเทศเป็นบวกจากความเสี่ยงเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เข้าสู่ Recession ลดลงหลังการรายงานตัวเลข GDP 2Q67 ดีกว่าคาด ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นด้านปัจจัยในประเทศอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการฟอร์ม ครม. สำหรับช่วงท้ายของตลาดอาจเห็นความผันผวนของหุ้นรายตัวจาก MSCI Rebalance ที่จะมีผลราคาปิดวันนี้ สภาพข้างต้นคาด SET Index แกว่งตามกรอบ 1350-1365 จุด วันนี้เลือก CPN INTUCH
รายงาน GDP 2Q67 ครั้งที่ 2 ขยายตัว 3%QoQ มากกว่าตลาดคาด 2.8%QoQ ขณะที่ Initial Jobless Claim เพิ่มขึ้น 2.31 แสนตำแหน่งดีกว่าตลาดคาด 2.32 แสนตำแหน่ง ลดความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯเข้าสู่ Recession ตลาดหุ้นสหรัฐฯแกว่งผสมผสานโดย Dow Jones ปรับขึ้น 0.6% สวนทาง S&P ทรงตัวและ NASDAQ ที่ติดลบ -0.2% แต่เป็นผลมาจากแรงกดดันของ NVIDIA ที่ปรับลง -6.4% ซึ่งไม่น่าจะกดดันต่อกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์บ้านเราเพราะตอบรับวานนี้ไปแล้ว ด้านราคาน้ำมันดิบฟื้น 1.6% หนุนจากรายงานเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯและผลของการหยุดผลิตน้ำมันในลิเบียที่ OPEC รายงานในช่วง 3 ที่ผ่านมาลดไปเฉลี่ย 5 แสนบาร์เรลต่อวัน บวกกลุ่มพลังงาน (PTTEP BCP)
ประเด็นทางการเมืองที่อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการฟอร์มรัฐบาลซึ่งคาดหมายว่า ส.ส. ที่จะเข้าร่วมรัฐบาลจะอยู่ที่ประมาณ +/-320 เสียง เสียงมากกว่ารัฐบาลก่อนที่ 314 เสียง ด้านมาตรการกระตุ้น Digital Wallet ล่าสุด รมช. คลังเผยมีโอกาสสูงที่จะจ่ายเงิน 10,000 บาท แบ่งเป็น 2 กลุ่ม 1.กลุ่มผู้ถือสวัสดิการแห่งรัฐฯจำนวน 13-14 ล้านรายซึ่งคาดว่าจะเริ่มเดือน ก.ย. 2.กลุ่มผู้ลงทะเบียนผ่านแอพฯทางรัฐฯ ซึ่งรายละเอียดติดตามรัฐบาลแถลงต่อไป มองโครงการที่มีแนวโน้มเกิดเร็วขึ้นเป็นบวกต่อกลุ่มบริโภคในประเทศ (OSP CPALL CPN)
MSCI Rebalance มีผลราคาปิดวันนี้อาจทำให้ตลาดเพิ่มความผันผวน สำหรับหุ้นที่เข้า MSCI Global Standard ไม่มี ส่วนหุ้นที่ออก คือ AWC GPSC EA IVL

Market Summary
SET Index ปรับลง 8.31 จุด หรือ 0.6% กดดันจากกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ HANA -3% DELTA และ KCE -2% ปรับลงตามหุ้น Tech สหรัฐฯ กลุ่ม ICT โดนแรงขาย TRUE -1.9% ADVANC -1.6% INTUCH -1.2% และกลุ่มพลังงานและกลุ่มปิโตรกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลง PTTEP -0.7% IVL -2.2% PTTGC -1% จากสเปรดที่ฟื้นช้า ด้านกลุ่มที่ปรับขึ้นเด่นกว่าตลาด คือ กลุ่มธนาคาร +0.2%

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ CPN INTUCH

INTUCH ลงทุนใน Newco ผ่าน INTUCH ได้ราคาถูกกว่า GULF อย่างมาก
ตั้งแต่ประกาศการควบรวบกิจการระหว่าง GULF-INTUCH (วันที่ 16 ก.ค. 67) เพื่อตั้งเป็นบริษัทใหม่ (NewCo) พบว่าราคาหุ้นของ GULF และ INTUCH เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันด้วย Correlation ที่สูงถึง 0.85
แต่การขึ้น XD 2 บาท ของ INTUCH เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ส่งผลให้ความสัมพันธ์ราคาหุ้นได้เปลี่ยนไป โดยราคา GULF ปรับขึ้น 5.15% ระหว่าง 20-29 ส.ค.สวนทาง INTUCH ที่ติดลบ -0.3% ทำให้ต้นทุนการแปลงต่อหุ้นของ Newco ที่ผ่านทาง INTUCH อยู่ที่ 45.36 บาท (บนสมมติฐานจ่ายปันผล 2H67 1.94 บาท และมีการจ่ายปันผลพิเศษ 4.5บาท) ถูกกว่า -6.6% เมื่อเทียบกับการแปลงผ่าน GULF ที่มีต้นทุน การแปลง 48.59 บาท (บนสมมติฐาน จ่ายปันผลปี 67 0.96 บาท) ทำให้ราคาหุ้น INTUCH มีโอกาสได้แรงหนุนเนื่องจากต้นทุนแปลงเป็น Newco ที่ถูกกว่าอย่างมาก
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 93.10 บาท

CPN กำไรยังมีแนวโน้มเติบโต
สวนทางราคาหุ้นที่ไม่ตอบสนอง
แนวโน้มธุรกิจ 2H67 ยังเติบโตหนุนจากธุรกิจศูนย์การค้าและโรงแรม ที่เชื่อว่าจะได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและการเข้าสู่ช่วงท่องเที่ยวปลายปี ช่วยหนุนปริมาณผู้ใช้บริการ หนุนกำไรปกติปี 67 อยู่ที่ 1.66 หมื่นล้านบาท ขยายตัว 9.4%YoY
แต่อย่างไรก็ตามราคาหุ้น YTD กลับให้ผลตอบแทนติดลบ 15% สวนทางกำไรที่ยังเติบโต ขณะที่ในด้าน Valuation ซื้อขาย PER67E อยู่ที่ 16 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี -1.6 SD จึงมองว่าเป็นระดับที่ถูกเกินไป
แรงขับเคลื่อนราคาหุ้นในระยะสั้นมาตรการกระตุ้นภาคบริโภคของรัฐฯช่วยฟื้นกำลังซื้อ ขณะที่ทิศทาง Fund Flow ต่างชาติเราเห็นสัญญาณบวกจากการซื้อสุทธิผ่าน NVDR ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา 234 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่ามี Momentum ต่อได้
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 77.50 บาท

KEY FACTOR
คืนนี้ติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ คาด PCE ของ 1) PCE ของสหรัฐฯ เดือน ก.ค. Consensus คาดขยายตัว +2.6% YoY และ +0.2% MoM ส่วน Core PCE ขยายตัว +2.7% YoY และ +0.2% MoM ซึ่งน่าจะมาจากภาคบริการ (การเงิน ประกัน และที่อยู่อาศัย) 2) CPI ของ Eurozone เดือน ส.ค. Consensus คาดขยายตัว +2.2% YoY และ +0.2% MoM ชะลอตัวลงตามราคาพลังงานที่ลดลง ในขณะที่ Core CPI ขยายตัว +2.8% YoY สะท้อนแรงกดดันจากเงินเฟ้อภาคบริการที่ยังคงมีอยู่คล้ายกับฝั่งสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามมีโอกาสนำไปสู่การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของ ECB (ในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา ยังคงดอกเบี้ย) ลดดอกเบี้ยลงอีกครั้งในการประชุม วันที่ 12 ก.ย. และต่อเนื่องด้วย Fed ที่น่าจะลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25% เช่นกันในการประชุม วันที่ 19 ก.ย.

EYES ON
30 ส.ค. PCE ของสหรัฐฯ, CPI และอัตราการว่างงานของ Eurozone

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ