Market Wrap-Up
- SET วันที่ 29 ส.ค.67 ปิด -8.31 จุด อยู่ที่ 1,357.41 จุด มูลค่าการซื้อขาย 35,372 ลบ.ต่างชาติซื้อ 967 ลบ.พอร์ตโบรกขาย 235 ลบ.สถาบันขาย 120 ลบ. รายย่อยขาย 611 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิรวม 240 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น KBANK,ADVANC,KTB,BCH,CPALL และมียอดขายสุทธิ PTTEP,ICHI,COM7,BCP,BBL มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,390 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TPIPL-R,TOP-R,SCGP-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 13,828 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 152,894 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 1,318 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.59%, S&P500 -0.00%, Nasdaq -0.23% กลุ่มเทคโนโลยีปรับลดลงนำโดย Nvidia -6.38% หลังประมาณการณ์รายได้ Q3/67 ต่ำกว่าคาด กอปรความล่าช้าในส่งมอบชิปรุ่นใหม่ Blackwell แต่ตลาดหุ้นสหรัฐได้ปัจจัยหนุนจาก US GDP Q2/67 ครั้งที่ 2 ขยายตัว +3% QoQ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.76% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +2.2% หลัง CPI เยอรมัน & สเปน ส.ค. ปรับลดลงมากกว่าคาด
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้กลุ่มเทคโนโลยีปรับลดลง หลัง Nvidia -6.38% จากคาดการณ์รายได้ Q3/67 อาจต่ำกว่าคาด กอปรความล่าช้าในการผลิต & ส่งมองชิปรุ่นใหม่ Blackwell แต่ DJIA ได้แรงหนุนหลัง ก.พาณิชย์สหรัฐเผย GDP Q2/67 ครั้งที่ 2 ขยายตัว +3% & ครั้งที่ 1 +2.8% & Q1/67 +1.4% QoQ ได้แรงหนุนจากการบริโภคเอกชนที่คิดเป็นสัดส่วน 70% ของ GDP ขยายตัวที่ระดับ +2.9% และการลงทุนภาคเอกชน +7.5% ขณะที่ US PCE Q2/67 ปรับลดลงอยู่ที่ 2.5% & คาด 2.6% YoY บ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจเติบโตและเงินเฟ้อต่ำ ดังนั้นจึงยังไม่มีสัญญาณของภาวะเศรษฐกิจถดถอย ค่ำวันนี้ติดตามรายงาน US PCE ก.ค. คาด 6% & มิ.ย. 2.5% YoY, US Core PCE ก.ค. คาด 2.7% & มิ.ย. 2.6% YoY ซึ่งจะมีผลต่อคาดการณ์ปริมาณการลดดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
- ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี หลังตัวเลข CPI เยอรมัน ส.ค. ลดลงอยู่ที่ 2.2% & ก.ค. 2.6% YoY และ CPI สเปน ส.ค. ลดลงอยู่ที่ 2.4% & คาด 2.5% YoY และค่ำวันนี้ติดตาม CPI ยูโรโซน เบื้องต้น ส.ค. คาด 2.2% & ก.ค. 2.6% YoY ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจของ ECB จะลดดอกเบี้ยในการประชุม 12 ก.ย.
- ตลาดหุ้นเอเขียวานนี้ปรับลดลง หลังผิดหวังต่อผลประกอบการของ Nvidia ส่งผลลบไปยังบริษัทซัพพลาย์เออร์ของ Nvidia ในเอเชีย เช่น TSMC, SK Hynix และ Advantest Corp. เช่นเดียวกับดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.50% ถูกกดดันหลัง UBS ปรับลดคาดการณ์ GDP จีนปีนี้จากเดิมที่ 4.9% ลงอยู่ที่ 4.6% และปีหน้าคาดเติบโตที่ 4.0%
- ดัชนี SET วานนี้ -0.61% ปริมาณการซื้อขาย 3.5 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 967 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 235 ลบ. สถาบันขาย 120 ลบ.และรายย่อยขาย 611 ลบ. ดัชนีถูกแรงขายจากกลุ่มอิเล็ก ฯ -1.92% ปรับลดลงตามกลุ่มเทค ฯ ในตลาดเอเชียเหนือ หลังผู้บริหาร Nvidia เผยรายได้ใน Q3/67 อาจต่ำกว่าคาด กอปรกับมีแรงขายหุ้น Big Cap. ในกลุ่มสื่อสาร, พลังงาน, ขนส่ง, ค้าปลีก หลังดัชนี SET ได้ปรับขึ้นราว 90 จุดในรอบ 8 วันทำการ ส่งผลให้ Upside ของดัชนีเริ่มจำกัด โดยดัชนียังไม่สามารถผ่านแนวต้านทางเทคนิค 200 วันที่ระดับ 1,370 จุด ดังนั้นนักลงทุนจึงเลือกขายทำกำไรบางส่วนก่อน ขณะที่เย็นวันนี้ MSCI จะทำการรีบาลานท์ส่งผลให้หุ้น AWC,GPSC,EA,IVL จะถูกถอดออกจาก Global Standard Index อาจส่งผลให้ดัชนีผันผวนสูงในช่วงปิดตลาด ประเด็นสำคัญวันนี้ติดตาม US PCE ก.ค. รวมถึงรายชื่อ ครม.ชุดใหม่
Daily Strategy
- แนวรับดัชนี SET ที่ 1,345 – 1,350 โดยมีแนวต้านที่ 1,360 – 1,370 คาดดัชนีทรงตัวในช่วงก่อน MSCI จะทำการรีบาลานท์ ซึ่งมีหุ้น Big Cap.หลายตัวถูกปรับออก กอปรรอ ครม.ชุดใหม่ในการออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจ แนะนำทยอยบริเวณแนวรับ กลุ่มอุปโภคบริโภค เช่น CPALL,CPAXT,CRC,BJC,CBG/ รพ. BH,BDMS,BCH/ กลุ่มโรงไฟฟ้า GULF,GSPC,BGRIM,GUNKUL หลัง กกพ.จะเปิดประมูลพลังงานหมุนเวียนรอบสอง 3,668 เมกะวัตต์ในช่วง ต.ค. – พ.ย. นี้
- TFM* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 13.20 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 2Q67 ที่ 129 ล้านบาท เติบโตเด่น +24%QoQ, +171%YoY ได้แรงหนุนจากการขายอาหารสัตว์สำหรับการเลี้ยงกุ้งในประเทศอินโดนีเซีย (TUKL) ที่ผ่านจุดคุ้มทุน ประกอบกับการปรับปรุงการผลิตที่เน้นการเพิ่ม production yield บริหารต้นทุน-สินค้าคงคลัง ปรับ product sales mix ให้เหมาะสมกับตลาด และเพิ่มการขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ส่งผลให้กำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นทั้ง QoQ, YoY ส่วนภาพรวม 3Q67 คาดรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เพราะว่าเป็นช่วงเพาะเลี้ยงกุ้ง และยังได้ประโยชน์จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ทั้งนี้อิงจาก consensus ตลาดคาดกำไรในปี 67 ที่ 428 ล้านบาท +392%YoY
- TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 19.00 บาท) กำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 1,219 ลบ. (+18%YoY, +6%QoQ) หนุนด้วยรายได้กลุ่มธุรกิจ Value added Product(+16%YoY), และ ธุรกิจ Petcare (+41%YoY) โดยฝั่ง Pecare โตดี จาก Inventory คู่ค้ากลับสู่ปกติเมื่อเทียบ YoY ส่วน 3Q67 นี้ ยังคาดกำไรในเกณฑ์ดีจาก 1.โมเมนตัมการเติบโตของธุรกิจ Petcareที่ยังต่อเนื่อง 2.การขายบางส่วนใน 2Q67 จะถูกไปรับรู้ใน 3Q67 แทนหลังมีปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน และ 3..คาดมาร์จิ้นยังอยู่ในกรอบบนโดยเฉพาะ Ambient Seafood จาก ต้นทุนราคาปลาทูน่าที่แกว่งขึ้นจากโซนต่ำ 1,300-1,500usd/tonขึ้นบน(แต่คาดว่าจะไม่สูงเกินไป ไม่ควรสูงกว่า 1,800 usd/ton) ส่งผลดีต่อต้นทุนถูก แต่ขายได้แพง(การปรับราคาขายตามราคาปลา)
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI ต.ค. +$1.39 อยู่ที่ $75.91 / บาร์เรล, Brent ต.ค. +$1.29 อยู่ที่ $79.94/บาร์เรล หลังลิเบียระงับการส่งออกน้ำมันจากความขัดแย้งด้านการเมือง ส่งผลต่อการผลิตน้ำมันราว 700,000 บาร์เรล/วัน ส่วนอิรักก็วางแผนที่จะลดการผลิตใน ก.ย. เพื่อชดเชยการผลิตส่วนเกินโควตาตามข้อตกลงโอเปกพลัส
Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+$22.50 อยู่ที่ $2,560.30 /ออนซ์ รอรายงาน US PCE ก.ค. ในช่วงค่ำวันนี้ ซึ่งตลาดคาดเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 17 – 18 ก.ย.
Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +135.50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +28.50 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +91.18 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +15.82 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 33.94 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 3.863 %
(+) ดัชนี BDI วานนี้ +72 จุด อยู่ที่ 1,827
(+) BitCoin เช้านี้ +0.16%อยู่ที่ 59,304 ดอลลาร์สหรัฐ
(-) Tokyo Core CPI ส.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ 2.40% & คาด 2.20% YoY
Economic Calendar
ในประเทศ
28-30 ส.ค. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) จัด Thailand Focus 2024
30 ส.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
สัปดาห์ที5 สภาพัฒน์ รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 2/67
สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
ต่างประเทศ
27 ส.ค. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี ( ส.ค.)
28 ส.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
29 ส.ค. US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 2)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
30 ส.ค. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ส.ค.)
US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) ( ก.ค.)
31 ส.ค. CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน ( ส.ค.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,
(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*
(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB
(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio August 2024: KCG*, CPALL, AU*, CPF, THCOM
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th