Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

627



ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook

แนวโน้มสินทรัพย์ต่างประเทศ
อัปเดตมุมมองราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมัน WTI เคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนในเดือน ส.ค. เนื่องจากตลาดมีความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
สำหรับแนวโน้มในระยะสั้นในเดือน ก.ย. เราประเมินว่าราคาน้ำมัน WTI มีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับ 85-87 เหรียญก่อนที่จะพีคในโซนดังกล่าว และปรับตัวลงในไตรมาส 4 จากเหตุผลดังต่อไปนี้
1 NOAA คาดการณ์ฤดูพายุเฮอริเคนของสหรัฐในปีนี้ (ตามปกติจะเกิดขึ้นระหว่างมิถุนายน - พฤศจิกายน) จะหนาแน่นกว่าปกติ โดยในปีนี้คาดจะมีเฮอริเคนขนาดใหญ่ที่มีกำลังลมมากกว่า 111 ไมล์ต่อชั่วโมง (major hurricane) ราว 4-7 ลูก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตในสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือน ก.ย. ซึ่งมักเป็นช่วงที่จำนวนการเกิดพายุมักจะมากกว่าปกติ
2 แม้ว่าดีมานด์น้ำมันดิบโลกในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาจะเติบโตเพียง 710,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2022 อันเป็นผลมาจากการหดตัวของอุปสงค์จากจีนในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคม แต่การบริโภคที่สูงขึ้นในไตรมาส 3 ตามปัจจัยฤดูกาลจะยังเป็นปัจจัยช่วยหนุนราคาน้ำมันในระยะอันใกล้ พิจารณาได้จากสต็อกน้ำมันดิบ (ไม่รวมสำรองเชิงยุทธศาสตร์) ของสหรัฐได้ปรับตัวลดลง 6 สัปดาห์จาก 7 สัปดาห์ นับตั้งแต่เข้าสู่ไตรมาส 3 หรือคิดเป็นการลดลง 22.5 ล้านบาร์เรลจากปลายไตรมาส 2
3 การขยายระยะเวลาการลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจของ OPEC+ ออกไปในปลายไตรมาส 3 จะช่วยลดผลกระทบจากซัพพลายที่เพิ่มของกลุ่ม non-OPEC+ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นที่จะส่งผลต่อสถานการณ์น้ำมันโลกเช่นกัน โดยเฉพาะปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในลิเบีย ซึ่งได้นำไปสู่การหยุดการผลิตน้ำมันในประเทศ ทั้งนี้ ลิเบียมีกำลังการผลิตราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน การหยุดชะงักบางส่วนนี้จึงส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันโลก ผลลัพธ์จากปัจจัยทั้งสองนี้คาดว่าจะส่งผลให้สต็อกน้ำมันดิบโลกมีแนวโน้มเกิดภาวะ stock draw หรือการลดลงของปริมาณน้ำมันในคลังสำรองในเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ต่อเนื่องมาจากเดือน ส.ค. และจะส่งผลเชิงบวกต่อราคาน้ำมันในระยะสั้น
4 จากการอัปเดตข้อมูลล่าสุดในตลาดฟิวเจอร์สน้ำมัน ได้สะท้อนความเสี่ยงที่ลดลงของการ overspeculation ลงมาแล้วในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากการที่ Long-to-Short Ratio ได้ปรับลดจาก 13.3 เท่าในช่วงกลางเดือน ก.ค. เป็น 6.9 เท่าในปัจจุบัน ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 6.8 เท่า หรือคิดเป็น net long position ที่ลดลง 32% ในช่วงดังกล่าว
สรุป ราคาน้ำมัน WTI มีโอกาสขึ้นไปทดสอบระดับ 85-87 เหรียญในไตรมาส 3 จากปัจจัยหนุนข้างต้น อย่างไรก็ตามระดับราคาดังกล่าวน่าจะเป็นจุดสูงสุดของปีนี้ เนื่องจากในไตรมาส 4 ราคาน้ำมันอาจกลับมาเผชิญกับแรงกดดันมากขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของ OPEC+ ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะอุปทานส่วนเกินในตลาดโลก

สรุปภาพตลาดวานนี้
วานนี้ SET ยืนแกร่งต่อ โดยมี DELTA ADVANC GULF CPALL BDMS ช่วยพยุงจากแรงขายกลุ่ม ปตท. PTT (ขึ้น XD) PTTEP GPSC และอื่นๆ IVL AWC HMPRO SCGP ขณะที่หุ้นบวกแรง WHA DITTO MGI IIG DOD ITTHI MAGURO NSL เป็นต้น

แนวโน้มตลาดวันนี้
Catch-up plays (ต่อ)
เราแนะนำเริ่มปรับกลยุทธ์ ชะลอการไล่ซื้อหุ้นใหญ่ที่ราคาบวกแรงดันดัชนีฯขึ้นมาตลอดทั้งสัปดาห์ และเปลี่ยนมาเก็บหุ้นแถวสองที่ราคายังไม่ลอย Valuation ไม่แพง และ/หรือ มีแนวโน้มกำไรดีขึ้นในไตรมาสถัดๆไป
โดยการพักฐานของดัชนีฯ หลังทดสอบแนวต้านจิตวิทยาสำคัญบริเวณ 1,370 จุด เราคาดใช้เวลาไม่นานสำหรับการพักฐาน แต่ระหว่างการพักฐาน คาดหุ้น Alpha ตัวกลาง เล็ก มีโอกาส Outperform ตลาด “ดูหลักฐาน”จากรายชื่อหุ้น Alpha หลายตัวที่ บวกดีกว่าดัชนีฯ ในสรุปภาวะการลงทุน ข้างต้น...
แนะนำติดตาม รายงานวันนี้ที่ทาง BLS Research ได้สรุปมุมมองตลาดหุ้นไทย และเศรษฐกิจไทย จากงานไทยแลนด์โฟกัส ซึ่งเราคาดว่าจะส่งผลบวกต่อความเชื่อมั่นลงทุนต่างชาติกับหุ้นไทย จากมาตรการที่ ตลท.ทยอยใช้งานเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับการเติบโตของตลาดหุ้นไทยอย่างยั่งยืน...

กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์ แนะนำ เลือกหุ้นเล่นเป็นรายตัว โฟกัสไปข้างหน้า เน้นไปที่แนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะมีโอกาสถูกปรับเพิ่มประมาณการณ์ หรือ มองเห็นปัจจัยหนุนชัดเจนที่จะเข้ามาเกื้อหนุนต่อผลการดำเนินงานหลังจากนี้

วิเคราะห์ทางเทคนิค
SET แตะเบรคเมื่อขึ้นทดสอบเส้น EMA 200 บริเวณ 1,370 จุด นอกจากนี้โมเมนตัม RSI เข้าสู่เขต overbought บ่งชี้ภาวะความผันผวน (แต่ไม่ใช่จุดขาย) ส่งผลให้แนวโน้มระยะสั้น อาจได้เวลาพักตัว โซนรับ 1,350-1,360 จุด เป็นการย่อเพื่อขึ้นต่อ ลุ้นเป้าหมาย wave 5 บริเวณ 1,380-1,400 จุด
Note: หัวข้ออื่น หุ้นนิคมฯ ทำไมถึงมาแรงและวิเคราะห์โครงสร้างรายเดือนของตลาด (SET monthly) ใกล้จบเดือนส.ค. ทรงกราฟยืนเหนือเส้น EMA 200 month ได้หรือไม่...


What to watch
แกนนำพรรคตั้งรัฐบาล ส่งเทียบเชิญ พรรค. ปชป เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลแล้ว วานนี้
ตลท. เปิดเผยถึงการจัดงาน Thailand Focus 2024 ครั้งที่ 18 ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนสถาบันร่วมงาน 178 ราย จาก 80 สถาบันทั่วโลก และในจำนวนนี้มี ผู้ลงทุนจากกลุ่มประเทศหลัก ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และสวีเดน ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมงาน โดยมีผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน 112 บริษัท จากทุกกลุ่มอุตสาหกรรมร่วมให้ข้อมูลความแข็งแกร่งธุรกิจและ ทิศทางการเติบโตผ่านการประชุมทั้งรูปแบบ one-on-one และ group meeting
กลต.เตรียมประกาศให้ ผบห.บจ.ที่ถือหุ้น และ นำไปวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน”นอกตลาด” ต้องแจ้ง
การปรับหุ้นไทยออกจาก MSCI มีผลสิ้นเดือนนี้ Standard index: AWC GPSC EA IVL, MSCI Small Cap หุ้นเข้า BJC EA KAMART TLI หุ้นออก BAFS BYD EPG NEX ORI PTG RBF THANI SC SJWD SKY SNNP THCOM
ส่วน FTSE Rebalance: FTSE All World หุ้นออก BLA (กระทบมากสุด), และกลุ่มขยับจาก Large-Cap ไปเป็น Mid-Cap (ทั้งคู่ยังอยู่ใน All-World) ได้แก่ OR MINT PTTGC EA CRC สำหรับกลุ่ม Small-Cap หุ้นเข้า BLA (ลงจาก All-World) CPNREIT และหุ้นออก ITD NER ORI TPIPL

หุ้นแนะนำวันนี้
PLANB Catch-up plays ในกลุ่มสื่อฯ และมีแนวโน้มกำไรเติบโตดี คาดทำ New high ต่อเนื่องใน 3Q-4Q24 เป็นตัวค้ำยันพื้นฐานที่แกร่ง
(S 7.5 R 8.4 SL 7.3)

 

 

รายงานพื้นฐานวันนี้

Healthcare
Thailand Focus: เดินหน้าสู่การเป็นผู้นำการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
เรามีสรุปภาพรวมกลุ่มการแพทย์ในอนาคตจากงาน Thailand Focus ในรอบนี้ได้แก่ 3 เรื่อง
1) การเจาะตลาดตะวะนออกกลางมากขึ้น โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย มุ่งเน้นการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากประเทศในตะวันออกกลางมาใช้บริการจำพวก wellness มากขึ้น
2) กลุ่มลูกค้าต้องชัดเจน แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลักๆด้วยกัน
- Gen X: เน้นการผสมผสานการท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนกับการทำงาน และใช้เวลากับครอบครัว
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ (มิลเลนเนียล): ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบผจญภัยและกิจกรรมกลางแจ้ง
- กลุ่มผู้รักสุขภาพ: สนใจการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ เช่น การทำสปา การฟื้นฟูร่างกาย
- คู่บ่าวสาว: ต้องการความเป็นส่วนตัวและประสบการณ์ที่หรูหรา
3) กลยุทธ์ที่ภาครัฐจะสนับสนุนการเติบโตแบบตรงจุด คือ
3.1) รัฐบาลส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่นเขตเศรษฐกิจพิเศษด้านสุขภาพอันดามัน
3.2) ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในพื้นที่ภาคใต้
3.3) ชายฝั่งสุขภาพหัวหิน-ชะอำ: พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก และ
3.4) การอำนวยความสะดวกด้านวีซ่า: ออกวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ
Fundamental View: เรามองว่าการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน บวกกับกลยุทธ์ที่จะเดินไปให้ถึงเป้าหมาย จะทำให้การเติบโตของกลุ่มการแพทย์ในระยะกลางถึงยาวเป็นที่น่าสนใจ

CKP
(Visit Note)
ซีเค พาวเวอร์
3Q24 อาจไม่ตื่นเต้น แต่ 4Q24 ยังมีหวัง
แม้จะมีน้ำในเขื่อนปริมาณมากจากผลของ La Niña แต่ XPCL มีการหยุดจ่ายกระแสไฟฟ้า 10 วันใน เดือน ส.ค. 2024 เพราะปริมาณน้ำที่ไหลผ่านโครงการ XPCL มากเกินไป (เทียบกับ XPCL เคยมีการหยุดจ่ายไฟเป็นเวลา 2 วันในเดือน ส.ค. 2023) ซึ่งอาจส่งผลให้ผลประกอบการของ CKP ทรงตัว YoY ใน 3Q24 อย่างไรก็ตามเราคาดว่าจะเห็นกำไร 3Q24 เป็นจุดสูงสุดของปี โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยทางฤดูกาล นอกจากนี้ ผลของ La Niña น่าจะทำให้ปริมาณน้ำใน NN2 และปริมาณน้ำที่ไหลผ่าน XPCL นอกฤดูในช่วง 4Q24 ดีกว่าปกติ ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการใน 4Q24 ดีกว่าปกติ (แนวโน้มกำไรหลักปรับตัวขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ ตามฤดูกาล)
Our View: เรามองเห็นโอกาสในการจับจังหวะเก็งกำไรหุ้น CKP จากทั้งประเด็นลบใน 3Q24 (การหยุดจ่ายไฟฟ้าขอ XPCL 10 วัน) และประเด็นบวกใน 4Q24 (ปริมาณน้ำที่มากกว่าปกติ)
อย่างไรก็ตาม GULF ยังคงเป็น top pick ในกลุ่มโรงไฟฟ้าของเรา จากแนวโน้มกำไรที่เติบโตแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้น-ยาว ประเด็นบวกจากการควบรวม GULF-INTUCH และโอกาสในการเข้าประมูลพลังงานทดแทนใน 4Q24

 


EGCO
(Visit Note)
ผลิตไฟฟ้า Yunlin ไม่อาจทดแทน QPL ได้
EGCO น่าจะรับรู้กำไรจากโครงการ Yunlin ได้ใน 4Q24 อย่างไรก็ตาม EGCO อาจมีการบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของ QPL (โรงไฟฟ้าถ่านหินในฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นโครงการที่มีกำไรคิดเป็นสัดส่วน 20-30% ของกำไรปกติรวมของ EGCO ในแต่ละปี จะครบกำหนดสัญญา PPA เดิมกับ Meralco ในเดือน พ.ค. ปี 2025 (Meralco มีแนวโน้มไม่ต่อสัญญา)) ส่งผลให้แนวโน้ม 4Q24 ยังดูไม่น่าสนใจนัก และเรามองว่าการรับรู้ผลประกอบการจากโครงการ Yunlin อาจไม่มากพอจะชดเชยกำไรของ QPL ที่หายไปในปี 2025
Our View: ตลาดคาด dividend yield ปี 2024-25 ที่ 6.0% และ 6.3% แต่ในมุมมองของเรา หากมองหาหุ้นโรงไฟฟ้าปันผลสูง (ที่ yield ใกล้เคียงระดับ 6% ต่อปี) เรามอง WHAUP (“ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5.60 บาท) เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

RATCH
(Visit Note)
ราช กรุ๊ป
แนวโน้มฟื้นตัวในระยะสั้น
ผลประกอบการของ RATCH มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น HoH ในช่วง 2H24 และ 1H25 เนื่องจากการรับรู้กำไรเต็มไตรมาสจากทั้งโครงการ Paiton และโครงการหินกองใน 3Q24 และ 4Q24 หากมองต่อไปยังปี 2025 โครงการหินกอง (หน่วยที่ 2) จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือน ม.ค. ซึ่งน่าจะช่วยหนุนผลประกอบการในช่วง 1H25 ได้
ผู้บริหารกำลังเร่งศึกษาและลงทุนในโครงการใหม่ๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการหมดอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า IPP ลงในช่วง 4-5 ปีข้างหน้า และเห็นโอกาสในการประมูลโรงไฟฟ้าใหม่ๆ ทั้งพลังงานทดแทน และ IPP นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการ data center สนใจที่จะซื้อที่ดินที่ตั้งของโครงการ RATCH-Gen หลังจากหมดอายุสัญญา PPA
Our view: ในมุมมองของเรา เราชอบ WHAUP (“ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5.60 บาท) มากกว่า เนื่องจากมีแนวโน้ม dividend yield ที่สูงกว่า (6-7%) และมีโอกาสเติบโตจากยอดขายที่ดินของ WHA ที่เพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

TASCO
(Visit Note)
ทิปโก้แอสฟัลท์
ภาพ 3Q24 ดีขึ้น
แม้ว่าจะเห็นการปรับประมาณการกำไรของตลาดลงอย่างต่อเนื่องจากกำไรใน 1H24 ที่อ่อนแอ มุมมองจากการประชุมล่าสุดออกมาเป็นบวก ยืนยันการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและจะเห็นการกลับมาเติบโต YoY และ QoQ ใน 3Q24 ต่อเนื่อง 4Q24 เรามองเป็นโอกาสการเก็งกำไร คาด Flow ของการปรับประมาณการกำไรของตลาดน่าจะใกล้จบแล้ว
ในรายละเอียดพบว่าปัจจัยที่กดดันการขายในประเทศเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นหลังจากผู้รับเหมาเข้าประมูลงานและเซ็นสัญญาช่วงเดือน พ.ค. ทั้งปริมาณการขายและราคาขายขยับขึ้นในเดือน มิ.ย. โดยในเดือน ก.ค. ราคาขายปรับตัวขึ้นสูงกว่าราคา Brent แล้ว โดยรวมยอดขายในประเทศจะขึ้นใน 3Q-4Q24 โดยเฉพาะหลังจากงบประมาณมีการเบิกจ่ายเข้ามาในช่วง พ.ย.-ธ.ค. ในขณะที่ยอดขายต่างประเทศจะฟื้นตัวเช่นเดียวกันเนื่องจากช่วง 1H24 เป็นช่วง Low season
ส่วนในมุมมอง Valuation ราคาปัจจุบันหุ้นเทรดที่ระดับ Forward PER ที่ 13 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 12 เท่า แต่หากอิง Trailing PER อยู่ในระดับสูงที่ 51 เท่า (แต่มอง Downside ปรับกำไรใกล้จบแล้วดังที่กล่าวไปข้างต้น)

 


M
(Visit Note)
เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป
กำไร 3Q24 จะยังถูกกดดันจากรายได้ที่ลดลง
ตัวเลขยอดขายต่อร้านอาหารเดิม (SSSG) ลดลงอย่างมีนัยยะในเดือนก.ค.-ส.ค 2024 ถึง -13% YoY เป็นปัจจัยกดดันกำไรของบริษัทใน 3Q24 จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและการแข่งขัน ประกอบกับไตรมาสที่ 3 เป็น low season ของปี โดยเราคาดรายได้รวม 3Q24 ลดลง 13% YoY และ QoQ สำหรับอัตรากำไรขั้นต้น ผู้บริหารคาดว่า 3Q24 จะยังอยู่ในระดับเดียวกับ 2Q24 ที่ 67.2% เนื่องจากราคาวัตถุดิบไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงราคามากนัก เพราะการล็อคราคาวัตถุดิบบางส่วน อย่างไรก็ดี ในช่วงที่เกิดภาวะน้ำท่วมจะส่งผลให้ราคาพืชผักสูงขึ้นชั่วคราว คาดกำไรสุทธิ 3Q24 จะลดลง YoY และ QoQ
อย่างไรก็ดี ผู้บริหารคาดหวัง SSSG พลิกเป็นบวกใน 4Q24 จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ นอกจากนี้ M มีสาขา MK Suki จำนวน 2 สาขาที่เซ็นทรัลพลาซ่า เวสเกต และได้มีการปรับเปลี่ยน 1 สาขาเป็น MK Buffet เมื่อวันที่ 1 ส.ค ที่ผ่านมา โดยผู้บริหารให้ข้อมูลว่าได้รับผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีและเกินเป้าที่บริษัทตั้งไว้ และสาขาที่เป็น Buffet ดีขึ้นกว่าก่อนปรับ และสาขาใกล้เคียงก็ไม่ได้รายได้ลดลง
Our view: อย่างไรก็ตาม จากการคาดการณ์กำไรสุทธิ 3Q24 ของตลาด ประกอบกับมุมมองแรงกดดันระยะสั้นที่กล่าวไป ทำให้เราคาดว่าประมาณการของตลาดจะมี downside risk

 

สรุปประเด็นจาก Quick take

IRPC
ไออาร์พีซี
ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
เราเข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้บริหารมีมุมมองเชิงระมัดระวังต่อแนวโน้มอุตสาหกรรมในปีนี้ แต่มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวของบริษัท
View From Fundamental: จากแนวโน้มผลประกอบการของ IRPC ที่ยังไม่น่าตื่นเต้นในระยะสั้น เราจึงยังไม่เห็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น อย่างไรก็ตามปัจจุบันมูลค่าหุ้น IRPC ซื้อขายที่ PBV ณ สิ้นปี 2024 ที่ 0.4 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 1.3 เท่าอยู่ 1.9SD) ซึ่งน่าจะช่วยจำกัดความเสี่ยงขาลงของราคาหุ้น เราจึงยังคงคำแนะนำ "ถือ"

BCH
บางกอก เชน ฮอสปิทอล
มุมมองเป็นลบจากการประชุมนักวิเคราะห์
เช้านี้เราเข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์ผลประกอบการ 2Q24 เรามีมุมมองเป็นลบ จากประเด็นดังนั้น
View From Fundamental: เรามองว่า การประชุมรอบนี้ มุมมองออกมาเป็นลบ ซึ่งจะกดดันราคาหุ้นในระยะสั้น เรามองว่า รอหาจังหวะเข้าซื้อใหม่ในอนาคต


วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ดันต่อ By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง วันนี้ หุ้นใหญ่ หน้าเดิม ดันSET ฝ่า 1,200 จุด ต่อ การสลับหน้าที่กันไป ห้วงระหว่างอยู่ ผลการ....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้