มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
SETลงก่อนแล้วค่อยช้อนขึ้นมา คาดช่วงเช้าตลาดจะย่อลงก่อนจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นระหว่างวัน โดยมองแรงกดดันมาจากSentiment ลบจากภายนอก หลังตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงนำโดยดัชนี Nasdaq โดยปรับตัวลงกว่า 1.12% รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีหลัง SMCI ขอเลื่อนการส่งรายงานประจำปี 2024 โดยไม่ได้มีเหตุผลด้านสภาพคล่องหรือค่าใช้จ่าย คาดจะกดดันต่อหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กฯ ด้านผลประกอบการ 2Q24 ของหุ้น Nvidia ออกมามีรายได้ $30.04พันล้าน มากกว่าที่ตลาดคาดที่ $28.68 พันล้าน ขณะที่ กำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ $0.68 มากกว่าที่ตลาดคาดที่ $0.64 แต่เนื่องจากผลประกอบการออกมาหลังตลาดปิดทำการจึงไม่ได้ช่วยหนุนราคาหุ้นหรือดัชนีตลาดมากนัก ขณะที่ปัจจัยหนุนมาจาก 1) การเข้าซื้อหุ้นของนักลงทุนต่างชาติต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 โดยวานนี้ซื้อสุทธิไปมูลค่ากว่า 1,761.07 ล้านบาท ทำให้มูลค่าการซื้อสุทธิรวม 4 วันอยู่ที่ 6,237.98 ล้านบาท ด้านตลาดตราสารหนี้มีแรงซื้อสุทธิเข้ามาเช่นกัน โดยซื้อในในพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวกว่า 10,910 ล้านบาท และมีแรงขายในพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น 971 ล้านบาท ทำให้ค่าเงินบาทเดินหน้าแข็งค่าทดสอบระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ เป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่มที่มีสัดส่วนนำเข้าสูง เช่น หุ้นที่ขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ + มือถือ 2) แรงหนุนงาน Thailand Focus 2024 หลังจบวันแรกของการจัดงานไป โดยมีตัวแทนจากฝั่งบริษัทจดทะเบียน เช่น BCP WHA BH GULF ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นแสดงวิสัยทัศน์รวมถึงผู้ว่าการธปท. และคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์มองสร้างความเชื่อมั่นและแรงหนุนให้Domestic Stock ส่วนคืนนี้ติดตาม ตัวเลข GDPสหรัฐประจำไตรมาส 2 และ PCE/Core PCE เดือน ก.ค.เพื่อคาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ และ นโยบายการเงินเฟด
กลยุทธ์การลงทุน : 1) Thailand Focus:BBIK,BCP,BH,DELTA, GULF, WHA,ADVANC 2) กองทุนวายุภักษ์: AP, ICHI, TU3)Domestic Stock : CPALL, BJC, MTC, KTC, TFG 4) ดอกเบี้ยสหรัฐฯขาลง: BGRIM, GPSC และ 5) Selective: PRM,BDMS
แนวรับ-ต้าน
1,355 –1,370
ปัจจัยบวก
+ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงานThailand Focus 2024 ว่ายังไม่เห็นสัญญาณเงินฝืด โดยมีเพียงสินค้าบางรายการที่ราคาลดลง ยังไม่เห็นการลดลงในวงกว้างอีกทั้งผู้บริโภคไม่ได้หยุดใช้จ่ายเพื่อรอให้ราคาสินค้าลดลงไปอีก
+ รมว.คมนาคม เผยเตรียมเสนอเมกะโปรเจกกว่า 14 โครงการ เข้าที่ประชุม ครม.ชุดใหม่ รวมมูลค่ากว่า 7.98 แสนล้านบาท
+ประธานตลท.เผย กำลังศึกษาการจัดตั้ง Venture Capital ซึ่งอาจจะเป็นรูปแบบกองทุน หรือบริษัทโฮลดิ้ง เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยเข้ามาร่วมลงทุน มองจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาด คาดจะสรุปผลศึกษาภายในปี 67
+ เซเลนสกีเผยสงครามกับรัสเซียจะสามารถจบได้ด้วยการเจรจา ซึ่งเตรียมเสนอแผนการเจรจากับไบเดน และ ผู้เข้าชิงตำแหน่งปธน.สหรัฐใน New York ณ ที่ประชุม U.N. ภายในเดือน ก.ย. นี้
ปัจจัยลบ
-Penn Wharton Budget Model เผยนโยบายเศรษฐกิจที่นำเสนอโดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น 5.8 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ซึ่งสูงกว่านโยบายที่น าเสนอโดยรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส เกือบ5 เท่า ที่ขาดดุลงบประมาณเพิ่มเพียง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์
- สถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือและภาคกลาง ในพื้นที่เพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร กำลังส่งความเสียหายเป็นวงกว้าง กระทบต่อราคาผักสดในประเทศ ทำ ให้ราคาเริ่มขยับขึ้นบางชนิด มองอาจผลักดันเงินเฟ้อจากราคาอาหารในระยะถัดไป
- ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์เผยตลาดที่อยู่อาศัยยังคงได้รับแรงกดดันจากปัจจัยลบหลายด้าน เช่น ดอกเบี่ยที่คงตัวในระดับสูง การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้า และ ภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงเกิน 90% ของGDP แม้ดัชนีความเชื่อมั่นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯปริมณฑล ในไตรมาส 2 ยังเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์