Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

578

 

 

ถึงจะย่อลงไปบ้าง แต่ก็ยังดูดี
เริ่มต้นงาน THAILAND FOCUS 2024 ภาพการนำเสนอข้อมูลออกมาดูดี กล่าวคือเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่องปี 2567 โต 2.6% และปีหน้าอยู่ที่ 3%แนวการเดินนโยบายการเงินยังเป็นไปอย่างระมัดระวังโดยเก็บ BUFFERไว้รองรับแรงสั่นสะเทือนของเศรษฐกิจโลก ขณะที่นโยบายในการกำกับดูแลก็มีมาตรการที่ออกมาลดความผันผวน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ส่วนปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานอี่นๆ เห็นสัญญาณบวกของFUND FLOW มากขึ้น โดยแรงหนุนหลักมาจากเงิน USD ที่อ่อนค่าผลักดันให้เงินบาทแข็งค่าในเชิงเปรียบเทียบ อีกทั้ง VALUATION ของตลาดหุ้นบ้านเราก็น่าสนใจ ดังนั้นนักลงทุนต่างชาติที่ UNDER WEIGHTตลาดหุ้นไทยมาอย่างยาวนาน ก็มีโอกาสกลับเข้ามา ส่วนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ เชื่อว่าจะเห็นผลชัดเจนตั้งแต่ เดือน ก.ย.67ภาพใหญ่ของ SET INDEX ประเมินว่าอยู่ในขาขึ้น เพียงแต่ในระยะสั้นเกิดภาวะ OVERBOUGHT อาจเกิดการพักฐานบ้าง วันนี้คาดกรอบ 1356 –1373 จุด หุ้น TOP PICK วันนี้เลือก BH, CPALL และ ITC


BOJ ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อ หนุนเงินบาทแข็งในเชิงกลไก
วานนี้รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า BOJ มีความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก หากเงินเฟ้อของญี่ปุ่นยังคงอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ (ซึ่งล่าสุดเงินเฟ้ออยู่ระดับ 2.8%YOY) อย่างไรก็ตามท่านย้ำว่าตลาดการเงินของญี่ปุ่นยังคงไร้เสถียรภาพ หลังจากการซื้อขายในตลาดหุ้นและตลาดตราสารเงินของญี่ปุ่นมีความผันผวนอย่างมากในช่วงต้นเดือนนี้ โดย BOJ จะยังคงติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดด้วย “ความระมัดระวังอย่างที่สุด” ซึ่งประเด็นดังกล่าวมีโอกาสหนุนให้ค่าเงินเยนกลับมาแข็งค่าอีกครั้ง โดยล่าสุดอยู่ระดับ 144 เยน/เหรียญฯ

ซึ่งการที่เงินเยนแข็งค่า มักหนุนให้ DOLLAR INDEX อ่อนค่าตามกลไล จากที่องค์ประกอบของ DOLLAR INDEX มีสัดส่วนค่าเงินเยนสูงเป็นอันดับ 2 ที่ 14%


อีก 1 ประเด็นที่หนุนให้ DOLLAR INDEX อ่อนค่า คือ การเริ่มเห็นทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐฯเป็นขาลงชัดเจนขึ้น โดยตลาดประเมินว่า FED จะปรับลดดอกเบี้ยปีนี้ 3 ครั้ง โดยผลการสำรวจของ FED WATCH TOOL ให้น้ำหนักราว 62% ที่คาดว่าจะปรับลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 5.25% และทยอยปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน พ.ย.67 และธ.ค.67 รวมอีก 0.75% จนคาด ณ สิ้นปีดอกเบี้ยจะอยู่ระดับ 4.50%

สรุป ด้วย 2 ประเด็นข้างต้น หนุนให้ DOLLAR INDEX ควรอ่อนค่าตามกลไก ซึ่งจะทำให้ค่าเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น และหนุนให้ FLOW ต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยได้ในระยะถัดไป โดยวันนี้มองกรอบการเคลื่อนไหวของ SET INDEX ไว้ที่ระดับ 1356-1373จุด


รอรัฐบาลใหม่สานต่อนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
เศรษฐกิจไทยในช่วงผ่านมาเผชิญกับหลายปัญหาที่เข้ามารุมเรา ทำให้เติบโตต่ำและฟื้นตัวได้ค่อนข้างช้า อย่างไรก็ตาม 2H67 คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยในงาน THAILAND FOCUS 2024 วานนี้รักษาการ รมช.คลัง เผยว่ามีหลากหลายนโยบายที่จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยเดินต่อไปข้างหน้า และรอให้รัฐบาลใหม่เข้ามาผลักดันอาทิ
• การจัดตั้งกองทุน THAI ESG
• การจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์
• โครงการ DIGITAL WALLET คาดว่าจะแจกรอบแรกภายในเดือน ก.ย. 67

ส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อดึงลงทุนใหม่สร้างการเติบโตในอนาคต
• ระบบค้ำประกันรูปแบบใหม่ ที่กำลังเตรียมเสนอ ครม. ใหม่
• การเป็นศูนย์กลางทางเงินภูมิภาค ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการจัดตั้งคณะทำงานแก้ไขร่างกฎหมาย
• โครงการ ENTERTAINMENT COMPLEX ซึ่งอยู่ระหว่างการรับผังความเห็นจัดทำร่าง พ.ร.บ.

สำหรับกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการขับเคลื่อนนโยบายเหล่านี้ อาทิCPALL CPAXT BJC BDMS PTT KBANK KTB เป็นต้น

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมยังเผยว่าได้เตรียมเสนอ ครม.ใหม่ พิจารณา 14 เมกะโปรเจ็กต์ วงเงินรวม 7.98 แสนล้านบาท อาทิ
• โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ด้านตะวันตก)
• โครงการมอเตอร์เวย์ส่วนต่อขยายดอนเมืองโทลล์เวย์สายรังสิต-บางปะอิน
• โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วง รังสิต – มธ. ศูนย์รังสิต
• โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงศิริราช-ตลิ่งชัน-ศาลายา
• โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2
• โครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย –จีน ระยะที่ 2 ฯลฯ

ขณะที่งบประมาณรายจ่ายลงทุนของกระทรวงคมนาคม ล่าสุดมีสัดส่วนเบิกจ่ายเพียงแค่ 50.4% ซึ่งยังต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนมาก (81.2%) ทำให้ช่วงเวลาอีก 1เดือนเศษก่อนที่งบฯ ปี 2567 จะสิ้นสุด (30 ก.ย. 2567) น่าจะเห็นการเร่งอัดฉัดเม็ดเงินและหนุนให้การลงทุนภาครัฐฟื้นตัว มองเป็น SENTIMENT ต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง CK STEC SCC SCCC เป็นต้น


สรุป เศรษฐกิจไทยในช่วง 2H67 คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ขยายตัวต่อเนื่อง มีหลากหลายนโยบายที่จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยเดินต่อไปข้างหน้า และรอให้รัฐบาลใหม่เข้ามาผลักดันอีกทั้งการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐ น่าจะเร่งตัวขึ้นในช่วงเวลาที่เหลืออีกแค่เดือนเศษก่อนที่งบฯ ปี 2567 จะสิ้นสุดค้นหาหุ้นที่ต่างชาติซื้อสะสมในช่วงนี้

ครึ่งหลังเดือน ส.ค. หลังจากได้นายกคนที่ 31 มาแล้ว FUND FLOW มีการไหลเข้าตลาดหุ้นไทยอย่างหนาแน่น โดยเป็นการซื้อสุทธิเกือบทุกวันทำการสูงถึง 1.82 หมื่นล้านบาท (หัก BIGLOT SCCC ออก) แบ่งเป็นการซื้อทางตรง 9.96 พันล้านบาท และซื้อผ่าน NVDR อีก 8.19 พันล้านบาท นอกจากนี้ยังซื้อสุทธิ SET50 FUTURES สูงถึง 1.37 แสนสัญญา

 

หนุนให้ FUND FLOW ในช่วง 2H67 กลับมาไหลเข้าตลาดการเงินไทยเด่น เมื่อเทียบกับช่วง 1H67 ที่ไหลออกมาก โดยช่วง 2H67 ต่างชาติซื้อสุทธิหุ้น ทั้งทางตรงและผ่านNVDR รวมสูงถึง 2.5 หมื่นล้านบาท (ช่วง1H67 ขายสุทธิ 1.0 แสนล้านบาท) ซื้อตราสารหนี้ไทย 4.7 หมื่นล้านบาท (ช่วง1H67 ขายสุทธิ 2.9 แสนล้านบาท) และยังซื้อสัญญา SET50 FUTURES สูงถึง 2.66 แสนสัญญา และมีโอกาสที่จะไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อ

 

ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯ ทำการคัดกรองหาหุ้นที่ต่างชาติซื้อสะสมทางตรง และผ่าน NVDRในช่วง 16 –28 ส.ค. 67 (หลังจากได้นายกคนที่ 31) ได้ผลลัพธ์ คือ KBANK ถูกซื้อสุทธิมากสุด 5.7 พันล้านบาท รองลงมาคือ CPALL 2.4 พันล้านบาท, CPF 2.0พันล้านบาท, GULF 1.5 พันล้านบาท, BBL 960 ล้านบาท, KTB 936 พันล้านบาทและหุ้นอื่นๆ

 

Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส

เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม, CISA
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

รอ เฟด By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ กระทรวงพาณิชย์ ออกมาเปิดเผย CPI เดือน เม.ย. -0.22%YoY จากตลาดคาด -0.1%....

ดันต่อ By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง วันนี้ หุ้นใหญ่ หน้าเดิม ดันSET ฝ่า 1,200 จุด ต่อ การสลับหน้าที่กันไป ห้วงระหว่างอยู่ ผลการ....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้