Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

497

 

ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook

แนวโน้มสินทรัพย์ต่างประเทศ

อัปเดตแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นจีน
ดัชนีหุ้นจีน Shanghai Composite เคลื่อนไหว sideway down -2.8% ในเดือน ส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน จากการขาดปัจจัยหนุนในระยะสั้น โดยแนวโน้มด้านเศรษฐกิจจีนมีประเด็นที่น่าติดตามหลายประการ เริ่มต้นจาก Real GDP ในไตรมาส 3 ที่มีแนวโน้มจะต่ำกว่า Bloomberg Consensus ที่ 4.7% YoY เนื่องจากการบริโภคภาคเอกชนที่ยังอ่อนแอ ซึ่งสะท้อนจากการเติบโตของสินเชื่อโดยรวม (Broad Credit) ในเดือน ก.ค. ที่ขยายตัว 8.6% YoY ต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ 8.7% YoY แม้จะมีการออกพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้น 15.4% YoY ก็ตาม
นอกจากนี้ การปล่อยสินเชื่อใหม่ของธนาคารพาณิชย์จีนเดือน ก.ค. ลดลงมากกว่าที่ตลาดคาด โดยมีการปล่อยสินเชื่อใหม่เป็นสกุลเงินหยวนจำนวน 260 พันล้านหยวน ลดลงเกือบ 88% YoY และต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ 450 พันล้านหยวน ในขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรรวม (Fixed Asset Investment: FAI) ขยายตัวเพียง 1.9% YoY ในเดือน ก.ค. เทียบกับ 3.6% ในเดือน มิ.ย. สะท้อนถึงอุปสงค์ภายในประเทศที่ยังซบเซา
ด้านราคาที่อยู่อาศัย ข้อมูลล่าสุดระบุว่าราคาบ้านใหม่เดือน ก.ค. ปรับตัวลดลง 4.9% YoY นับเป็นการปรับลงเป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกัน และเป็นอัตราการลดลงที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2015 แม้รัฐบาลจะพยายามออกมาตรการต่างๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบ แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาอุปสงค์ที่อ่อนแอได้
ส่วนยอดค้าปลีกในเดือน ก.ค. แสดงสัญญาณที่ดีขึ้นเล็กน้อย โดยเติบโต 2.7% YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 2.6% อย่างไรก็ตาม ยังคงมีสัญญาณของความอ่อนแอในบางหมวดสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายในครัวเรือนและสินค้าฟุ่มเฟือย
ด้วยสถานการณ์ดังกล่าว คาดว่าธนาคารกลางจีนจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1-year MLF ลงอีก 20 bps ในช่วงที่เหลือของปีนี้ แต่นโยบายทางการเงินเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ดังนั้นในการประชุม Politburo เดือน ต.ค. รัฐบาลอาจมีการปรับเปลี่ยนทิศทางการใช้จ่ายงบประมาณไปสู่การกระตุ้นการบริโภคมากขึ้น
แม้นโยบายผ่อนคลายจะเป็นปัจจัยบวกในระยะสั้น แต่คงไม่สามารถชดเชยความอ่อนแอของอุปสงค์ภาคเอกชนได้ทั้งหมด อีกทั้งตลาดแรงงานยังคงซบเซา โดยเฉพาะสำหรับบัณฑิตจบใหม่ ที่เห็นการเติบโตของค่าจ้างโดยรวมชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 4.4% ในไตรมาส 2 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2020-2022 และระดับก่อนโควิดอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้การเติบโตของ Real GDP ในไตรมาส 3 มีโอกาสชะลอตัวลงจาก 4.7% YoY ในไตรมาส 2 และอัตราการเติบโต GDP ของทั้งปีอาจขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมาย 5% ของรัฐบาล
โดยสรุป เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ แม้จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลและธนาคารกลาง แต่ความอ่อนแอของอุปสงค์ภาคเอกชนและแรงกดดันด้านการเงินฝืดยังคงเป็นปัญหาที่ต้องใช้เวลาในการแก้ไข ทำให้ตลาดหุ้นจีนอาจได้รับแรงกดดันเป็นระยะในช่วงที่เหลือของปี

 

 

สรุปภาพตลาดวานนี้
SET ยืนได้ กลุ่มหุ้นใหญ่ที่ดันตลาดไว้ GULF BDMS PTTEP OR CPAXT และกลุ่มที่อิงจากส่งออกดีกว่าคาด CPF ITC ขณะที่ด้านกดดันตลาดอยู่ใน AOT PTT CPALL ADVANC และแรงทยอยขายกลุ่มธนาคาร BBL KBANK BAY KTB รวมทั้งหุ้นที่โด่งขึ้นมากช่วงที่แล้วอย่าง HMPRO
และยังพบว่าหุ้นกลาง-เล็กหลายตัวบวกทำ Alpha ได้โดดเด่นหลาย บจ. ไม่ว่าจะเป็น JMART JMT SGC SINGER TAKUNI ZIGA MVP PRIME TEAMG

แนวโน้มตลาดวันนี้
Catch-up plays
เราแนะนำเริ่มปรับกลยุทธ์ ชะลอการไล่ซื้อหุ้นใหญ่ที่ราคาบวกแรงดันดัชนีฯขึ้นมาตลอดทั้งสัปดาห์ และเปลี่ยนมาเก็บหุ้นแถวสองที่ราคายังไม่ลอย Valuation ไม่แพง และ/หรือ มีแนวโน้มกำไรดีขึ้นในไตรมาสถัดๆไป
โดยการพักฐานของดัชนีฯ หลังทดสอบแนวต้านจิตวิทยาสำคัญบริเวณ 1,370 จุด เราคาดใช้เวลาไม่นานสำหรับการพักฐาน แต่ระหว่างการพักฐาน คาดหุ้น Alpha ตัวกลาง เล็ก มีโอกาส Outperform ตลาด “ดูหลักฐาน”จากรายชื่อหุ้น Alpha หลายตัวที่ บวกดีกว่าดัชนีฯ ในสรุปภาวะการลงทุน ข้างต้น...
ส่วนวันนี้ โฟกัสของ นลท. คาดว่าจะเล็งไปที่งาน ไทยแลนด์โฟกัส ที่ทาง ตลท.เป็นเจ้าภาพจัดงาน(มาต่อเนื่องหลายปี) โดยปีนี้น่าจะเป็นปีแรกที่ ประธานตลาดฯท่านใหม่ มาให้แนวทางดำเนินนโยบายส่งเสริมตลาดทุน ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนถ่าย ผจก.ตลาดฯ ในจังหวะที่หุ้นไทยลงมาลึกสุดใจ...
เราคาดว่า นลท.จะรับฟังผ่านช่องทางสื่อสารต่างๆ และสามารถสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้ หลังจากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยเผชิญมรสุมของหุ้นหลายตัว...

กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์ แนะนำ เลือกหุ้นเล่นเป็นรายตัว โฟกัสไปข้างหน้า เน้นไปที่แนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะมีโอกาสถูกปรับเพิ่มประมาณการณ์ หรือ มองเห็นปัจจัยหนุนชัดเจนที่จะเข้ามาเกื้อหนุนต่อผลการดำเนินงานหลังจากนี้

วิเคราะห์ทางเทคนิค
SET เสียสถิติภายหลังเดินหน้าปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 7 วันทำการ ล่าสุดย่อ! ติดเส้น EMA 200 บริเวณ 1,370 จุด นอกจากนี้โมเมนตัม RSI เข้าสู่เขต overbought บ่งชี้ภาวะความผันผวน (แต่ไม่ใช่จุดขาย) ส่งผลให้แนวโน้มระยะสั้น อาจได้เวลาพักตัว ได้เวลาแตะเบรค! อย่างไรก็ตามโครงสร้างระยะกลางยังมีโอกาสไปต่อ คาดอยู่ในรูปแบบ Impulse wave คลื่นขาขึ้น อาจนับเป็นการ correction ปรับฐาน wave 4 เพื่อขึ้น wave 5 สู่เป้าหมาย 1,380-1,400 จุด
Note: Theme play “switching idea” มาดูผลลัพธ์หุ้นแนะนำวางแผนอย่างไร.....Buy หรือ Hold หรือ Sell

 

What to watch
การจัดตั้ง รัฐบาลใหม่และแถลงนโยบาย คาดไม่เกิน 15 ก.ย.นี้
ก.คลัง เผยวางแผนแฮร์คัทหนี้ประชาชน หลังหารือสถาบันการเงินรัฐเรียบร้อย ส่วนธนาคารพาณิชย์ เตรียมเข้าหารือ เน้นลูกหนี้ที่มีเจ้าหนี้หลายราย
กังวลวิกฤตตะวันออกกลางบานปลาย สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (25 ส.ค.) อิสราเอลได้ส่งเครื่องบินรบกว่า 100 ลำเพื่อทำลายฐานยิงขีปนาวุธนับพันเครื่องของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และหลังจากนั้นกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้ตอบโต้ด้วยการยิงจรวดกว่า 200 ลูกเข้าใส่อิสราเอล ขณะที่เจ้าหน้าที่อิสราเอลยืนยันว่าอิสราเอลได้รับความเสียหายเล็กน้อยจากการตอบโต้ของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในครั้งนี้
การปรับรูปแบบ ของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น เช่น แจกเงินหมื่นกลุ่มเปราะบาง, เงินเยียวยาเกษตรกรจากอุทกภัย
ตัวเลขส่งออกเดือน ก.ค. +15.2% YoY ดีกว่าตลาดคาดที่ 7% YoY และเพิ่มขึ้นจาก มิ.ย. ที่ -0.3% YoY โดยแรงหนุนมาจากกลุ่มสินค้าเกษตร ได้แก่ ยาง ไก่ อาหารสัตว์เลี้ยง อาหารทะเล ขณะที่ด้านดุลการค้า -1.37 พันล้านเหรียญฯ
การปรับหุ้นไทยออกจาก MSCI มีผลสิ้นเดือนนี้ Standard index: AWC GPSC EA IVL, MSCI Small Cap หุ้นเข้า BJC EA KAMART TLI หุ้นออก BAFS BYD EPG NEX ORI PTG RBF THANI SC SJWD SKY SNNP THCOM
ส่วน FTSE Rebalance: FTSE All World หุ้นออก BLA (กระทบมากสุด), และกลุ่มขยับจาก Large-Cap ไปเป็น Mid-Cap (ทั้งคู่ยังอยู่ใน All-World) ได้แก่ OR MINT PTTGC EA CRC สำหรับกลุ่ม Small-Cap หุ้นเข้า BLA (ลงจาก All-World) CPNREIT และหุ้นออก ITD NER ORI TPIPL

หุ้นแนะนำวันนี้
PLANB Catch-up plays ในกลุ่มสื่อฯ และมีแนวโน้มกำไรเติบโตดี คาดทำ New high ต่อเนื่องใน 3Q-4Q24 เป็นตัวค้ำยันพื้นฐานที่แกร่ง(S 7.5 R 8.4 SL 7.3)
BBIK หุ้นแถวสองของกลุ่ม Tech. วันนี้มีบรรยายในงาน Thailand Focus อีกทั้งผลตอบแทนแนวโน้มจะฟื้นจากจุดต่ำสุด(S 36 R 42 SL 33.5)

 

รายงานพื้นฐานวันนี้

PTT Group
สำรวจภารกิจใหม่ของกลุ่ม ปตท.
จากการจัดงานประชุมให้กลุ่มผู้บริหาร ปตท. เรามองเห็นภาพของภารกิจและกลยุทธ์ใหม่ของกลุ่ม สรุปเป็นประเด็นที่สำคัญ ดังนี้
1) ธุรกิจก๊าซเป็นศูนย์กลางของพลังงานประเทศ และมองอุปสงค์เติบโตอิงตาม GDP
2) หากไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนลงตัว จะเป็นบวกในระยะยาว และ ปตท. มีความพร้อม อย่างไรก็ตามอาจจะใช้เวลา 7-10 ปี ถึงจะนำมาใช้เชิงพาณิชย์ได้
3) การปรับโครงสร้างธุรกิจปลายน้ำของกลุ่ม มองเป็นบวกจากการกาพาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญมาช่วยเติมเต็ม และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันระยะยาว รวมทั้งไปถึงเป้าหมาย Net-zero carbon ได้
4) ลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับการดักจับคาร์บอน (CCS) เพื่อการเติบโตได้ในระยะยาว
5) กระแสเงินสดแกร่ง เปิดโอกาสลงทุน และจ่ายเงินปันผลที่ดีได้ โดย Div. yield เฉลี่ย 5 ปี ของ PTT อยู่ที่ 4.7% เทียบกับ SET ที่เฉลี่ย 3.2% และมี Net Garing ratio เพียง 0.4 เท่า
Fundamental View: ในบรรดาหุ้นกลุ่ม ปตท. วันนี้ เราปรับเพิ่มคำแนะนำ PTT จากถือ เป็น ซื้อ (หุ้น บจ. อื่นๆ ในกลุ่ม ยังคงตามเดิม)

PLANB
แพลน บี มีเดีย
Catch-up play
ราคาหุ้น PLANB ยังค่อนข้างปรับตัวขึ้นได้ช้ากว่าเพื่อน หลังจากตลาดมีการฟื้นตัวขึ้นมาโดย YTD ยังปรับตัวลดลง 15% สวนทางกับกำไรใน 1H24 ที่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง เราประเมินกำไรใน 3Q24 ที่ระดับ 300 ล้านบาท เติบโต 15% YoY และ QoQ โดนคาดรายได้จากธุรกิจสื่อจะยืนระดับได้ดีต่อเนื่อง และมีกำไรจากโอลิมปิกเข้ามาหนุน สำหรับภาพ 4Q24 จะเป็น High season และหากภาคการบริโภคฟื้นตัวจะยิ่งเป็นปัจจัยหนุนกระตุ้น Pent-up demand โดยมองกำไรจากธุรกิจสื่อจะเข้ามาเป็นปัจจัยสร้างการเติบโตของกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง แม้รายได้จากโอลิมปิกจะชะลอตัวลงไปมากใน 4Q24
นอกจากนั้นภาพระยะกลางจะมีธีมของ Soft Power ด้านมวยไทย ที่ปลายปีจะมีการปรับโฉมครั้งใหญ่ เข้ามาเป็นปัจจัยหนุน

Tactical Idea
Catch-up plays: หาหุ้นแถวสอง ขึ้นสองแถว
หลังจาก SET ปรับตัวขึ้นมากว่า 6% ในระยะเวลา 8 วัน นับจากวันที่ 15 ส.ค. ราคาหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวมีการปรับตัวขึ้นมาสลับกลุ่มเล่นในแต่ละวัน เรามองว่าตลาดน่าจะเริ่มมามองหาหุ้นแถวสอง (จากหุ้นใน BLS Universe) ที่จะเป็นตัวตามของแต่ละกลุ่มในช่วง 1 เดือนที่ผ่าน โดยในมิติของการปรับตัวราคาหุ้นไม่ได้ดูจากเพียงแค่มิติของการปรับตัวราคาจากวันที่ 15 ส.ค. อย่างเดียว แต่ดูย้อนไปตั้งแต่ช่วง ส.ค. เป็นต้นมา (คลุมช่วงประกาศงบฯ ด้วย) เพื่อให้ครอบคลุมบางกลุ่มที่ปรับตัวนำตลาดขึ้นมาก่อนหน้า อีกทั้งมองแนวโน้มกำไรเทียบกับกลุ่มฯ ประกอบด้วย เพื่อตัดกลุ่มที่กำไรอาจจะไม่แข็งแกร่งพอออกไปก่อน (ไม่ใช่เพียงแค่เลือกหุ้นที่ราคาขึ้นช้ากว่าเพียงอย่างเดียว) รวมทั้งพิจารณาถึงโอกาสการปรับกำไรขึ้นด้วย จึงได้ตะกร้าหุ้นมาชุดหนึ่งตัวแทนของแต่ละกลุ่ม (ดูในรายงาน) และสุดท้าย เรามาคัดเลือกหุ้น 5 บริษัท จากตะกร้าดังกล่าวอีกครั้ง ได้แก่ PTT BDMS CBG PLANB THCOM

 

Tactical Theme Port.
Vision Tailwinds Theme: VGI ถูกล็อคกำไรวานนี้ ที่เหลือไปต่อ
ความเคลื่อนไหวพอร์ตจำลองการลงทุนในธีม “Vision tailwinds” วานนี้หุ้น VGI เคลื่อนไหวไปแตะที่ราคา 2.40 บาท (ซึ่งเป็นราคา Take Profit) จึงถูกล็อคกำไรบนราคาดังกล่าว ผลตอบแทน 13.2%
ทำให้ผลตอบแทนเฉลี่ยของพอร์ตฯ อยู่ที่ 2.6% สูงกว่า SET ในช่วงเวลาเดียวกันที่ 1.7% อยู่ราว 0.9% (Alpha Return)
ปัจจุบันมีหุ้นที่ยังถืออยู่ 9 บริษัท และรับรู้ผลตอบแทน (Realized Return) ไปแล้ว 1 บริษัท

AUCT
(Visit Note)
สหการประมูล
ตลาดรถมือสองกำลังบอกอะไรเรา?
หลังจากที่เราจัด virtual conference ของ AUCT วานนี้ เราพบว่าแม้ตลาดรถมือสองจะฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดแล้ว แต่ยังน่าจะซบเซาไปอีก 2-3 ปี เพราะทิศทางราคารถยนต์มือสองยังฟื้นตัวช้า ส่งผลกระทบต่อธนาคารที่เน้นปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ (TISCO, KKP และ TTB)
ทั้งในด้านการเติบโตของสินเชื่อและขาดทุนจากการขายรถยึด ส่วนผู้ให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียน (MTC, SAWAD และ TIDLOR) เราประเมินกระทบไม่มาก เพราะปล่อยสินเชื่อที่มี LTV ต่ำ


วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้