Market Wrap-Up
- SET วันที่ 27 ส.ค.67 ปิด -0.50 จุด อยู่ที่ 1,364.31 จุด มูลค่าการซื้อขาย 43,474 ลบ.ต่างชาติซื้อ 1,081 ลบ.พอร์ตโบรกซื้อ 167 ลบ.สถาบันขาย 1,029 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิรวม 607 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น CPF,PTTEP,BBL,GULF,KTB และมียอดขายสุทธิ ADVANC,SCC,BCP,BDMS,BH มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,620 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TPIPL-R,BLA-R,SCC-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 1,497 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 153,079 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 4,009 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.02%, S&P500 +0.16%, Nasdaq +0.16% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +0.63%, การเงิน +0.48% ขณะที่กลุ่มพลังงาน -0.93%,สาธารณูปโภค -0.74% ส่วน Conference Board เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ส.ค. อยู่ที่ 103.3 & ก.ค. 101.9 สูงสุดในรอบ 6 เดือน ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.16% ได้แรงหนุนจากกลุ่มธนาคาร +0.9% และเดินทาง & สันทนาการ +0.7%
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA ปิดทำจุดสูงสุดใหม่ ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยีและการเงิน โดยนักลงทุนรอรายงานกำไร Q3/67 ของ Nvidia ซึ่งตลาดคาดไว้ที่ 1.59 หมื่น ล.ดอลลาร์ +137% YoY, +5% QoQ ได้ปัจจัยหนุนจากอุปสงค์หน่วยประมวลผลกราฟฟิก (GPU) Ai ของกลุ่มลูกค้าหลัก ๆ เช่น Microsoft, Google, Amazon เพื่อใช้ในระบบคลาวด์ สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจวันพรุ่งนี้ติดตาม US GDP Q2/67 ครั้งที่ 2 คาด +2.8% QoQ และวันศุกร์ US PCE ก.ค. คาด 5% & มิ.ย. 2.5% YoY, US Core PCE ก.ค. คาด 2.7% & มิ.ย. 2.6% YoY ซึ่งจะมีผลต่อคาดการณ์ปริมาณการลดดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
- ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากกลุ่มธนาคารและสายการบิน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจ GDP เยอรมัน Q2/67 คาด -0.1% & Q1/67 +0.2% QoQ เป็นไปตามคาดการณ์ และวันศุกร์ติดตาม CPI ยูโรโซน เบื้องต้น ส.ค. คาด 2.2% & ก.ค. 2.6% YoY ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจของ ECB จะลดดอกเบี้ยอีก 0.25% หรือไม่ในการประชุม 12 ก.ย.
- ตลาดหุ้นเอเขียวานนี้ ดัชนีนิเกอิ +0.47% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มส่งออก หลังค่าเงินเยนกลับมาอ่อนค่า ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.24% แม้รายงานกำไรภาคอุตสาหกรรมจีน ก.ค. +4.1% & มิ.ย. +3.6% YoY และ 7 เดือนปีนี้ +3.6% สูงกว่าคาดที่ +3.5% YTD แต่ถูกกดดันจากหนี้ภาคอสังหา ฯ หลัง Yuzhou Group Holding ผู้พัฒนาอสังหาฯในเซินเจิ้นผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้มูลค่า 2.9 พัน ล.ดอลลาร์ และได้ยื่นล้มละลายต่อศาล ฯ สหรัฐ
- ดัชนี SET วานนี้ -0.04% ปริมาณการซื้อขาย 4.34 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 1,081 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 167 ลบ. สถาบันขาย 1,029 ลบ.และรายย่อยขาย 219 ลบ. โดยดัชนีถูกแรงขายจากกลุ่มขนส่ง, ธนาคาร, ไฟแนนท์ และปิโตรเคมี หลังดัชนีปรับขึ้นติดต่อกัน 7 วันทำการ ตอบรับปัจจัยบวกการแต่งตั้งนายก & รอเสนอชื่อครม.ชุดใหม่ รวมถึง ม.กระตุ้นกำลังซื้อวงเงิน 1.4 แสน ลบ.ที่รอการอนุมัติจาก ครม.ชุดใหม่ใน ก.ย. นี้ ขณะที่กลุ่มที่ช่วยหนุนดัชนีวานนี้ คือ เกษตร +2.4% หลัง ก.พาณิชย์เผยตัวเลขส่งออกไทย ก.ค. +15.2% ดีกว่าคาดที่ 5 – 8% YoY ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 28 เดือน โดยกลุ่มสินค้าที่ส่งออกได้ดี คือ เกษตร & เกษตรอุตฯ เช่น ข้าว, ยางพารา, ไก่สดแปรรูป แช่แข็ง, อาหารทะเลกระป๋อง และอาหารสัตว์เลี้ยง สาเหตุที่ส่งออกไทยขยายตัวได้ดีมาจากเงินเฟ้อเฉลี่ยทั่วโลกลดลง ส่งผลให้กำลังซื้อของประเทศคู่ค้าปรับดีขึ้น ส่วนประเด็นสำคัญวันนี้ คือ งาน Thailand Focus 2024 วันที่ 28 – 30 ก.ย. โดยวันนี้มีหัวข้อการลงทุนที่ BOI ส่งเสริมซึ่งเป็นผลบวกต่อกลุ่มนิคมฯ , กลุ่ม Medical Hub, กล่า Supply Chain ด้านดิจิตอล เช่น Data Center และประเด็น ESG ของกลุ่มปิโตรเคมี & โรงกลั่ง
Daily Strategy
- วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,350 – 1,360 โดยมีแนวต้านที่ 1,370 – 1,380 คาดดัชนีมีโอกาสทรงตัว รอรายชื่อ ครม.ใหม่และ ม.กระตุ้นกำลังซื้อใน ก.ย. แนะนำทยอยซื้อกลุ่มคาดได้ประโยชน์จากงาน Thailand Focus เช่น นิคมฯ AMATA,WHA/ ดิจิทัล เช่น ADVANC,GULF,DELTA/ การแพทย์ เช่น BDMS,BH / พลังงาน เช่น PTT,IVL
- STA* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 25.50 บาท) แม้ช่วงสั้นจะถูกถ่วงจากเงินบาทที่กลับมาแข็งค่ารวดเร็ว แต่ราคาหุ้นมีปัจจัยหนุนจากราคายางในตลาด SICOM ที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับรายงานตัวเลขส่งออกยางพาราของไทยในเดือน ก.ค.67 ที่เติบโตสูง คาดว่าจะช่วยหนุน operation ของบริษัทในช่วง 3Q67 ให้ขยายตัวดี โดยคาดปริมาณขายยางธรรมชาติอยู่ที่ราว 3 แสนตัน เป็นสัดส่วนจากยาง EUDR ราว 15-20% ส่งผลบวกต่ออัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าในการขายยางตามมาตรฐาน EUDR ที่ 50% ของยอดขายได้ในช่วงสิ้นปี ส่วนสภาพอากาศฝนที่ตกชุกขึ้นยังไม่กระทบต่อการกรีดยาง ด้าน demand-supply ในตลาดโลก มี demand จากอินเดียสูงขึ้น ส่วน supply จากอินโดนีเซียยังลดลง เบื้องต้นอิงจาก consensus ตลาดคาดกำไรปี 67 ที่ 2.1 พันล้านบาท พลิกจากปี 66 ที่ขาดทุน และกำไรปี 68 ที่ 3.4 พันล้านบาท +58%YoY
- CPF (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 28.00 บาท) กำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 6,925 ลบ.(+501%QoQ, จากขาดทุนใน 2Q66 ที่ -792 ลบ.) โดยในแง่ของกำไรสามารถทำได้ดีจาก 1. GPM ที่ดีขึ้น ขึ้นมาอยูที่ 15.39% จากราคาขายสัตว์บกที่ฟื้นตัวและต้นทุนอาหารสัตว์บกยังไม่สูง โดยเฉพาะ ราคาสุกรเวียดนามใน 2Q67 +14%YoY +18%QoQส่วนของแบ่งกำไรบ.ร่วม/JV ที่ดีขึ้นจาก HyLife, CTI, CPALL ส่วนแนวโน้มงวดถัดไป 3Q67 ยังมีสัญญาณที่ดีจาก ราคาสุกรตปท.ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวทั้งในเวียดนามและจีนจาก Supply ที่จำกัด และจากโรค ASF ในเวียดนาม โดย สุกรจีน ขึ้นมาเคลื่อนไหวในโซน 20 rmb/kg. (ขึ้นมาจากช่วงต้นปีที่ราว 15-16 rmb/kg.)
Daily Key Factors
Oil Update(-) WTI ต.ค. -$1.89 อยู่ที่ $75.53 / บาร์เรล, Brent ต.ค. -$1.88 อยู่ที่ $79.55/บาร์เรล กังวลอุปสงค์จากสหรัฐ & จีนชะลอตัว หลัง Goldman Sachs คาดราคาน้ำมันดิบ Brent ปี 68 เฉลี่ยที่ $77/บาร์เรล จากเดิมคาดที่ $82/บาร์เรล และรอ EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาคาดลดลง 3 ล.บาร์เรล
Gold Update(-) Comex Gold ธ.ค.-$2.30 อยู่ที่ $2,552.90 /ออนซ์ รอรายงาน US PCE ก.ค. ในช่วงค่ำวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยเท่าไรในการประชุม 17 – 18 ก.ย.
Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +12.57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +31.72 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -35.08 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +15.93 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 33.94 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 3.825 %
(-) ดัชนี BDI วานนี้ -41 จุด อยู่ที่ 1,721
(-) BitCoin เช้านี้ -5.88%อยู่ที่ 59,030 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
28-30 ส.ค. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) จัด Thailand Focus 2024
30 ส.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
สัปดาห์ที5 สภาพัฒน์ รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 2/67
สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
ต่างประเทศ
27 ส.ค. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี ( ส.ค.)
28 ส.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
29 ส.ค. US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 2)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
30 ส.ค. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ส.ค.)
US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) ( ก.ค.)
31 ส.ค. CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน ( ส.ค.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,
(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*
(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB
(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio August 2024: KCG*, CPALL, AU*, CPF, THCOM
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th