Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

607

 

ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook

สรุปภาพตลาดวานนี้
SET ยังบวกต่อ แต่ความร้อนแรงเบาลง และมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้างในหุ้น DELTA BDMS BH ADVANC STGT CPALL PTTEP AWC เป็นต้น ขณะที่หุ้นบวกดี ได้แก่ คอมเมิร์ช CPAXT OR CRC BJC ส่วนกลุ่มกลาง-เล็กที่บวกแรง TAKUNI TEAMG MGI SIMAT เป็นต้น

แนวโน้มตลาดวันนี้
ขึ้นแกร่งกว่าภูมิภาค
วันนี้คาดหุ้นไทยทรงแกร่งเหนือภูมิภาค (ต่อ) แรงหนุนหลักๆ ทั้งจากค่าเงินในภูมิภาคที่ทรงตัวแข็งค่า คาดสร้างแรงจูงใจให้เม็ดเงินที่ไหลมาพักในภูมิภาคยังอยู่ต่อ กอปรกับการเมือง เศรษฐกิจในประเทศ เริ่มมีทิศทางชัดเจนว่าจะดีขึ้น 1) โผ ครม.นิ่งแล้วคาดสัปดาห์หน้าได้ รัฐบาลใหม่ 2) คาดเริ่มแจกเงินหมื่นกระตุ้นเศรษฐกิจเดือนหน้า รวมถึงเงินเยียวยาน้ำท่วม 3) นโยบายเศรษฐกิจใหม่ๆ ที่คาดทำได้ในระยะสั้น เช่น ลดภาษี บจ.กระตุ้นตลาดหุ้น, เวรคืนสัมปทาน รถไฟฟ้า.,เร่งประมูล PPA รฟฟ.พลังงานหมุนเวียน, ลดดอกนำส่ง FIDF

และนโยบายระยะกลาง เน้นไปที่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ดาวเทียมวงโคจรต่ำ (แนวทางร่วมทุนกับต่างชาติ) เพื่อทำ 6G, Datacenter รองรับ AI, ขยายสนามบิน, ระบบป้องกันน้ำท่วมซ้ำซาก, สร้างคาสิโนเมืองท่องเที่ยว, BIOTEC เพื่อพัฒนาการเกษตร, เป็นต้น ซึ่งล้วนมีผลบวกต่อธุรกิจ บจ.เกือบทั้งตลาด

เราคงคาด ตลาดหุ้นไทยมีพักเหนื่อยระยะสั้น แต่ นลท.อย่าเพิ่งพากันลงจากเขา เพราะรอบนี้เราคาดว่า ครึ่งหลังของเดือน สค.จะเล่นบวกได้ดีกว่าครึ่งแรกของเดือน...ดังนั้นควร HODL. หุ้นไทยไว้ก่อน

กลยุทธ์คงแนะ เลือกชุดหุ้นที่ Intersect กันระหว่าง โผหุ้นวายุภักษ์-TESG, มีปันผลสูง ฐานกำไรดีรองรับ, ราคาไม่ลอย Valuation ไม่แพง เช่น กลุ่มธนาคาร, ค้าปลีก-อุปโภคบริโภค SCB KTB PTT AOT CPALL เป็นต้น ส่วนหุ้นกลาง เล็ก ประเภท Alpha เน้นไปที่ Earnings outlook รายตัว เช่น TU ITC AAV

กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์ แนะนำ เลือกหุ้นเล่นเป็นรายตัว โฟกัสไปข้างหน้า เน้นไปที่แนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะมีโอกาสถูกปรับเพิ่มประมาณการณ์ หรือ มองเห็นปัจจัยหนุนชัดเจนที่จะเข้ามาเกื้อหนุนต่อผลการดำเนินงานหลังจากนี้

วิเคราะห์ทางเทคนิค
Concept โครงสร้างขาขึ้นจะมีลักษณะ Higher high & higher low ขาขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่และฐานแนวรับปรับตัวขึ้นตาม นอกจากนี้ยังมีจุดสังเกตการปรับขึ้นเยอะ ลงน้อย…..โดยล่าสุดดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 5 วันทำการ เป็นสถิติจำนวนวันที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี….สรุป:แนวโน้ม SET หลังจาก breakout ด่านแรกที่ 1,330 จุด สำเร็จ! มีโอกาสวิ่งถึงเส้นชัยที่ 1,380 จุด ได้ตามแผน ส่วนแนวรับขยับขึ้นตามค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1,330 จุด
Note: เส้น EMA 200 วันล่าสุดอยู่ที่ 1,373 จุด ใกล้เคียงเป้าที่ให้ไว้

 


What to watch
อดีตนายกทักษิณ โชว์วิสัยทัศน์เศรษฐกิจออกสื่อ เป็นครั้งแรก 22 ส.ค. ขณะที่การปรับรูปแบบแจกเงินหมื่น อาจะเปลี่ยนเป็นแจกเงินสด ให้กลุ่มเปราะบางก่อน
ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า มีโอกาสมากถึง 90% ที่ ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.25% สู่ระดับ 3.5% ในการประชุมเดือนก.ย. และคาดว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวลงอีกอย่างน้อย 1 ครั้งก่อนสิ้นปี 2567
การประชุม กนง.คงดอกเบี้ย 2.5% ตามคาด และมีแนวโน้มคงยาวไปกว่าที่ตลาดคิด
แถลงการณ์ เฟด จากการประชุมประจำปีที่ Jackson Hole
“แฮร์ริส" จาก เดโมแครต เล็งเก็บภาษีนิติบุคคลเพิ่มเป็น 28% ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากที่ อดีต ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เคยลดอัตราภาษีนิติบุคคลเหลือเพียง 21% จากเดิม 35% (การปรับฐาน ของตลาดหุ้นสหรัฐ จากมาตรการภาษี มีโอกาสเพิ่มขึ้น)
การปรับหุ้นไทยออกจาก MSCI มีผลสิ้นเดือนนี้ Standard index: AWC GPSC EA IVL
MSCI Small Cap หุ้นเข้า BJC EA KAMART TLI หุ้นออก BAFS BYD EPG NEX ORI PTG RBF THANI SC SJWD SKY SNNP THCOM

หุ้นแนะนำวันนี้
SCB เล่นดักปันผลระหว่างกาล แจกดีเกินคาด (S 105 R 109 SL 104)

 


รายงานพื้นฐานวันนี้

Bank Sector
เก็งหุ้นปันผลกลางปี
เราคาดว่าหลายธนาคารจะประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลสูงกว่า 2% นำโดย TTB, KKP, SCB และ TISCO นอกจากนี้ เรายังคาดว่า KKP, KTB และ SCB รายงานกำไรเติบโต YoY ในเดือนก.ค. 24 ทำให้เราประเมินว่า TTB และ SCB น่าจะ outperform SET ได้ในระยะสั้น
ธนาคาร 7 แห่งที่เราศึกษารายงานสินเชื่อสิ้นเดือนก.ค. 24 ที่ 10.8 ล้านล้านบาท ลดลง 0.3% MoM จากการจ่ายคืนสินเชื่อของกลุ่มลูกค้าองค์กรและกลุ่มเช่าซื้อรถยนต์เป็นหลัก โดยธนาคารที่รายงานสินเชื่อลดลง นำโดย BBL, TTB, KKP และ KBANK ในทางกลับกัน KTB และ SCB รายงานสินเชื่อเติบโต MoM
เราคาดความต้องการใช้สินเชื่อจะจะเติบโตดีขึ้นในเดือนส.ค. 24 จากการกระตุ้นเศรษฐกิจและเร่งเบิกจ่ายงบประมาณจากรัฐบาลมากขึ้น หนุนความต้องการใช้สินเชื่อสำหรับเงินทุนหมุนเวียนและ project finance สูงขึ้น


Wealth Research Strategy
ก้าวต่อไปของประเทศไทย ผ่านมุมมองคุณทักษิณ
งาน Vision for Thailand วานนี้ แนวทางนโยบายที่เราสรุปได้ แบ่งเป็น
นโยบายที่เป็นไปได้ระยะสั้น ได้แก่ แจก Digital Wallet กลุ่มเปราะบาง (คาดกระตุ้น GDP 0.1-0.2% ใน 4Q24)
นโยบายที่เป็นไปได้ระยะกลาง-ยาว ได้แก่ Digital Wallet ที่ลงทะเบียนไว้ที่เหลือ (หลังงบฯ 68, กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2025 ที่ 0.1-0.2%) นโยบายแก้หนี้ครัวเรือน แบ่งเป็น หลักๆ ปรับโครงสร้างหนี้ ลดวงเงินสมทบ FIDF (ช่วยลดรายจ่ายครัวเรือน หนุนการบริโถค) ส่งเสริมการท่องเที่ยว และผลักดันรถไฟความเร็วสูง
Economist view: วิสัยทัศน์ของคุณทักษิณสื่อถึงความเป็นไปได้ของนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลในระยะข้างหน้า โดยระยะสั้น เป็นการกระตุ้นการบริโภคผ่านการแจกเงินสดสู่กลุ่มเปราะบางและคนพิการ ซึ่งน่าจะให้เห็นการจับจ่ายใช้สอยกลับมาคึกคักใน 4Q24 คาดกระตุ้น GDP 0.1-0.2% ในระยะกลางถึงยาว เน้นการแก้ไขหนี้ครัวเรือน ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนา Entertainment Complex และ Soft Power เพื่อกระตุ้นท่องเที่ยว
ส่วนในมุมมองตลาดเรามองเป้าหมายหลักของนโยบาย และผลบวกกับแต่ละกลุ่ม ได้แก่
1) การบริโภค และการท่องเที่ยว บวกกับกลุ่ม ค้าปลีก การเงิน ท่องเที่ยว-ขนส่ง
2) การค้า/ส่งออก บวกกับ อาหารเครื่องดื่ม ธนาคาร อสังหาฯ
3) โครงสร้างพื้นฐาน บวกกับ โรงไฟฟ้า เทคโนโลยีสีเขียว รับเหมาฯ สื่อสาร
4) ตลาดหุ้น (ขยายกองทุนวายุภักษ์) บวกกับ หุ้นในกองฯ ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม พลังงาน โรงไฟฟ้า ธนาคาร และสื่อสาร
Fundamental view: เราคาดมาตรการที่น่าจะเห็นได้ในระยะสั้น ได้แก่ แจกเงินดิจิทัลให้กลุ่มเปราะบาง ในก.ย. และขยายกองทุนวายุภักษ์ ยังชอบกลุ่มค้าปลีกสินค้าจำเป็น และกลุ่มที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ได้แก่ พลังงาน ธนาคาร โรงไฟฟ้า สื่อสาร สำหรับวิสัยทัศน์อื่นๆ เป็นภาพระยะกลาง-ยาว จึงอาจไม่ได้เห็นผลกระทบในระยะสั้น


Tactical Plays
Former PM Thaksin's Tailwinds: From Vision to Velocity
ต่อเนื่องจากกลยุทธ์ภาพรวมและกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของ Vision for Thailand (ดูในรายงาน Wealth Research วันนี้) ในมุมของการเลือกหุ้นเก็งกำไร เราได้ทำผ่าน 4 กระบวนการ
1) เริ่มต้นจากมุมมอง Top-Down ที่มองมาตรการที่น่าจะเห็นได้ในระยะสั้น ได้แก่ แจกเงินดิจิทัลให้กลุ่มเปราะบาง ในก.ย. และขยายกองทุนวายุภักษ์ ส่วนระยะกลางยาวเน้นการแก้ไขหนี้ครัวเรือน ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาการท่องเที่ยว
2) เจาะจงลงมาเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่ นลท. จะเก็งกำไรการผลักดันนโยบาย โดยข้อมูลในอดีตช่วงมี.ค. 2005- มี.ค. 2006 ที่คุณทักษิณเคยเป็นรัฐบาล และมีนโยบายเศรษฐกิจเป็นชุดใหญ่ ช่วงนั้น SET ปรับตัวขึ้น 7% (และหากมองจากต่ำสุดไปสูงสุดสูงถึง 22%)
3) เลือกหุ้นส่วนใหญ่จากกลุ่ม MSCI เพื่อดัก Fund flow นักลงทุนต่างชาติด้วย ซึ่งตั้งแต่ได้นายกใหม่มาสุทธิสะสมมายังเป็นบวก
4) จับกลุ่มหุ้นกลุ่ม Quality Plays และ Growth Stocks ผสมกันแบบกลยุทธ์ Barbell (อย่างละ 5 บริษัท) เพื่อลงทุนในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า ได้หุ้นดังนี้
Quality Play: WHA (การดึงดูดการลงทุนรอบใหม่) CPALL (การกระตุ้นศรษฐกิจทั้งฐานรากและ การท่องเที่ยว) KTB (ยกเครื่องแนวทางจัดการหนี้ธุรกิจและครัวเรือน รวมทั้งเจรจา FIDF) ADVANC (การเติบโตใหม่จาก Data Center และ Digital Economy) และ CPF (เกาะกระแสสร้าง Soft Power ด้านอาหาร และธุรกิจปัจจุบันแกร่งขึ้น)
Growth Stock: COM7 (Digital economy และตัวแทน Soft Power ด้านเกม) VGI (แนวทาง Entertainment Complex และการเวนคืนสัมปทานรถไฟฟ้าในเมือง ทำให้มีเงินไปลงทุนธุรกิจอื่น) DELTA (ความต้องการดึงดูดการลงทุน Supply Chain กลุ่ม Semi-Conductor) BA (Entertainment Complex และการกระตุ้นการท่องเที่ยว) และ DITTO (Digital transformation และแนวทาง Green Technology)

MEGA
(Visit Note)
เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ การเติบโตในระยะสั้นยังเจอความท้าทาย
ในระยะสั้นการเติบโตของรายได้และกำไร อาจจะยังถูกท้าทายจากความไม่แน่นอนของธุรกิจในพม่าและไนจีเรีย ประกอบกับ 3Q จะเป็นช่วงโลว์ซีชั่น อย่างไรก็ดี ในระยะยาว การขยายงานไปประเทศต่างๆ และธุรกิจแบรนด์ที่ยังแข็งแกร่ง น่าจะช่วยให้การเติบโตดูดีขึ้นได้
Consensus: Settrade คาดการณ์กำไร MEGA ปี 2024 ที่ 2,378 ล้านบาทโต 2% (ครึ่งปีแรกกำไรหลักอยู่ที่ 1,051 ล้านบาท ลดลง 11% YoY ในขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 991 ล้านบาท โต 1% YoY) ปัจจุบัน MEGA เทรดบน PE2024 ที่ 14.3 เท่า (อดีตเทรดบน PER ที่ 20-21 เท่า) Settrade กำหนดราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 46.9 บาท (คิดเป็น upside 21% จากราคาปิดวันที่ 21 ส.ค. 2024 ที่ 38.75 บาท)

 

 

สรุปประเด็นจาก Quick take

STEC
ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น
สารสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
ภาพรวมการประชุมนักวิเคราะห์มองเป็นกลาง
View From Fundamental: แม้แนวโน้มกำไรปีนี้ไม่ตื่นเต้น แต่ Valuation ต่ำ PBV 0.7-0.8 เท่า และมองว่าเก็งกำไรจากข่าวงานประมูลได้หลังตั้ง ครม.

OR
ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก
ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
เราเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้บริหารมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของผลการดำเนินงานใน 2H24
View From Fundamental: เนื่องจากแนวโน้มกำไรปี 2024 มีแนวโน้มลดลง YoY เราจึงไม่เห็นปัจจัยหนุนที่ชัดเจนสำหรับราคาหุ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ตามอาจมีอัพไซต์ต่อประมาณการกำไรของเราจากการลงทุนใหม่ๆ เราจึงคงคำแนะนำ “ถือ”

TFG
ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป
คาด 3Q24 กำไรหลักสูงกว่าที่เคยประเมินไว้
ข้อมูลจากผู้บริหารแสดงถึงการเติบโตของยอดขายและกำไรขั้นต้นต่อเนื่องใน 3Q24 ทั้ง YoY และ QoQ โดยรวมจาก 1) ธุรกิจไก่ในไทย และธุรกิจหมูในไทยและเวียดนาม จากราคาขายที่เพิ่มขึ้น 2) ต้นทุนการเลี้ยงที่ถูกลง QoQ และ 3) ธุรกิจร้านค้า ไทย ฟู้ดส์ เฟรซ มาร์เก็ต ที่ผลการดำเนินงานดีขึ้น
View From Fundamental: การฟื้นตัวของกำไรมาเร็วกว่าที่เราเคยคาดการณ์ไว้ เราจึงมองเห็นอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรทั้งปีของเรา เราคงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมายปัจจุบัน 4.70 บาท

HANA
ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส
ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
เราเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์ช่วงบ่ายวันนี้มุมมองออกมาเป็นลบ
View From Fundamental: เรามองรายได้ 3Q24 น่าจะฟื้นตัวไม่มาก QoQ และคาดจะถูกกดดันจากเงินบาทที่แข็ง ยังคงแนะนำ wait-and-see

 

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ตั้งลำ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุุ้นไทย ดีดตัว ตั้งลำได้อีกครั้ง ยืน 1,180 จุด ได้ ด้วยตลาดต่างประเทศปรับตัวขึ้น ....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้