Market Wrap-Up
- SET วันที่ 22 ส.ค.67 ปิด +3.20 จุด อยู่ที่ 1,341.03 จุด มูลค่าการซื้อขาย 38,464 ลบ.สถาบันซื้อ 597 ลบ.พอร์ตโบรกซื้อ 349 ลบ.ต่างชาติขาย 849 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิรวม 107 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น BBL,CPF,ADVANC,BEM,CPN และมียอดขายสุทธิ EA,BDMS,PTTEP,AOT,KCE มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,685 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ DEMCO,CKP,TOP-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 3,533 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 131,630 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 1,034 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.43%, S&P500 -0.89%, Nasdaq -1.67% นำโดยกลุ่มเทคโนโลยี -2.13%,สินค้าฟุ่มเฟือย -1.87% ขณะที่กลุ่มอสังหา +0.56%, การเงิน +0.48% นักลงทุนขายปรับพอร์ต Nvidia ก่อนที่จะรายงานงบ Q2/67 ในสัปดาห์หน้า ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.35% ได้แรงหนุนจากกลุ่มค้าปลีก Sport ร้านขายชุดกีฬาอังกฤษ +11% รับยอดขาย Q2/67 ดีกว่าคาด และกลุ่มเฮลธ์แคร์ หุ้นโนโว นอร์ดิสต์ +2.4%
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี หลัง US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 3.84% และนักลงทุนเลือกปรับพอร์ต Nvidia ก่อนจะรายงานงบในสัปดาห์หน้า ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจนั้น จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์อยู่ที่ 232,000 ตามคาดการณ์ และ PMI รวมภาคผลิต & บริการสหรัฐ เบื้องต้น ส.ค. อยู่ที่ 54.1 & 3 ถูกกดดันจาก PMI ภาคการผลิตต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ประเด็นสำคัญค่ำวันนี้ติดตามถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ในการประชุมที่แจ๊คสัน โฮล ซึ่งคาดจะส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย โดย CME Fed Watch ขี้โอกาส 75% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 17 – 18 ก.ย.
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มค้าปลีก & บริการสุขภาพ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจ PMI รวมภาคผลิต & บริการยูโรโซน เบื้องต้น ส.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ 51.2 & ก.ค. 50.2 ได้แรงหนุนจากภาคบริการที่ขยายตัวดี ขณะที่รายงาน ECB Minutes เผยยังไม่รีบดอกเบี้ย แต่ยังต้องหารือในการประชุมวันที่ 12 ก.ย.
- ตลาดหุ้นเอเขียวานนี้ส่วนใหญ่จะทรงตัวรอผลการประชุมประจำปีเฟดที่แจ๊คสัน โฮล โดยดัชนีนิเกอิวานนี้ +0.68% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจเช้านี้ Core CPI ญี่ปุ่น ก.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ 2.7% & มิ.ย. 2.6% YoY เป็นไปตามคาดการณ์ วันนี้ ปธ.BOJ จะเข้าขี้แจงต่อรัฐสภาญี่ปุ่นในประเด็นการตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ได้ส่งผลให้ดัชนีหุ้นญี่ปุ่นปรับลดลง -20%
- ดัชนี SET วานนี้ +0.24% ปริมาณการซื้อขาย 3.8 หมื่น ลบ. สถาบันซื้อ 597 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 349 ลบ. ต่างชาติขาย 849 ลบ. รายย่อยขาย 98 ลบ. โดยดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มบรรจุภัณฑ์, ค้าปลีก, อาหาร, ไฟแนนท์ และขนส่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Domestic Play ที่คาดจะได้ประโยชน์จาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ ส่วนวิสัยทัศน์ของคุณทักษิณในงาน Vision For Thailand 2024 มีประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับการลงทุนดังนี้
1) แจกให้เงินให้กับกลุ่มเปราะบาง 13.5 ล.คน และคนพิการ 1 ล.คน คนละ 1 หมื่น ลบ. ใน ก.ย. นี้
2) ม.ลดภาระหนี้ครัวเรือน ให้ ธปท.ลดค่าธรรมเนียม FIDF ที่เก็บจากธนาคาร และนำสภาพคล่องมาช่วยเหลือ
3) ม.กระตุ้น GDP โดยนำธุรกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจปกติ เช่น ธุรกิจพนันออนไลน์
4) หนุนเศรษฐกิจเทคโนโลยีใหม่ เช่น รถยนต์ EV, ดาวเทียมวงโครจต่ำ, การสร้าง Data Center
5) ลดค่ารถไฟฟ้าอยู่ที่ 20 บาทตลอดสาย ผ่านเงินอุดหนุนจากกองทุน IFF และหนุนโครงการแลนด์บริดจ์
- 6) ด้านพลังงาน หนุนการแสวงหาทรัพยากรในบริเวณพื้นที่ทับซ้อน เพื่อลดภาระค่าไฟฟ้า
Daily Strategy
- วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,330 แนวต้าน 1,350 คาดดัชนีมีโอกาสปรับขึ้นต่อได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่น ม.กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านวิสัยทัศน์คุณทักษิณ กอปรกับได้ปัจจัยหนุนเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ย ซึ่งเป็นผลบวกต่อการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ แนะนำทยอยซื้อ CPALL,CPAXT,BBL,KBANK,SCB,KTB, และกลุ่มไฟแนนท์เช่าซื้อ ที่ประโยชน์จากเม็ดเงินกระตุ้นการบริโภค/ AOT,AAV,BA,ERW,VGI,AWC ได้ประโยชน์จาก Entertainment Complex/ ADVANC,THCOM,TRUE,INSET,GULF,WHA,AMATA จาก ม.หนุนการลงทุนเทคโนโลยีใหม่
- COM7* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 22.70 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 2Q67 ที่ 752 ล้านบาท -9%QoQ, +7%YoY ลดลงจากปีก่อนตามอัตรากำไรขั้นต้น ขณะที่ SG&A เพิ่มขึ้นจากการขยายสาขา (ปัจจุบันมี 1,382 แห่ง) และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ส่วนแนวโน้มช่วงที่เหลือของปีคาดผ่านจุดต่ำใน 2Q67 ไปแล้ว โดยในช่วง 3Q67 แม้ถูกกดดันจากปัจจัยฤดูกาลแต่มีส่วนชดเชยจากการเปิดตัวสินค้า iPhone16 ในเดือน ก.ย. และน่าจะฟื้นตัวขึ้นต่อใน 4Q67 เป็นจุดสูงสุดของปีตามการบริโภคที่ฟื้นตัวและความต้องการสินค้า AI ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 67-68 ที่ 1 พันล้านบาท +9%YoY และ 3.5 พันล้านบาท +12%YoY
- KCG* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 12.87 บาท) กำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 95 ลบ. +32%QoQ, +86%YoY หนุนด้วย U-rate ที่สูงขึ้น และต้นทุนที่ลดลง ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังของปียังมีปัจจัยบวกจาก 1.ศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า KCG Logistics Park (ช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการเช่าคลังข้างนอกปีละราว 50 ลบ.) 2.ระดับราคาต้นทุนวัตถุดิบหลัก(เช่น แป้งสาลี, น้ำมันปาล์ม, น้ำมันเนย) ที่ยังอยู่ในระดับจัดการได้ 3.บวกตามฤดูกาลในช่วง Q4 และ 4.การปรับปรุง Production line ให้เป็น automatic มากขึ้น ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรปี67 และ68 ของ KCG* ที่ 391 ลบ.(+28%YoY) และ 459 ลบ.(+17%YoY)
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI ก.ย. +$1.08 อยู่ที่ $73.01 / บาร์เรล, Brent ต.ค. +$1.17 อยู่ที่ $77.22/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากคาดการณ์เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยใน ก.ย. และ EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 4.6 ล.บาร์เรล ลดลงมากกว่าคาดที่ 2.7 ล.บาร์เรล
Gold Update(-) Comex Gold ธ.ค.-$30.80 อยู่ที่ $2,516.70 /ออนซ์ ถูกกดดันหลัง US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 3.84% และ Dollar Index แข็งค่า +0.46% อยู่ที่ 101.51 และรอฟังถ้อยแถลงเจอโรม พาวเวลในช่วงค่ำวันนี้
Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +97.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -24.71 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +81.09 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +41.38 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 34.46 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 3.842 %
(+) ดัชนี BDI วานนี้ +9 จุด อยู่ที่ 1,768
(-) BitCoinเช้านี้ -0.09% อยู่ที่ 60,776 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
19 ส.ค. สภาพัฒน์ แถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 2/67
21 ส.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 4/2567
สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์
กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย
ต่างประเทศ
20 ส.ค. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ก.ค.)
21 ส.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
22 ส.ค. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ส.ค.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ส.ค.)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US รายงานการประชุมของ FOMC
US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ( ก.ค.)
23 ส.ค. US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ
US ยอดขายบ้านใหม่ ( ก.ค.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,
(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*
(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB
(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio August 2024: GFPT*, CPALL, BH, CPF, THCOM
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th