Market Wrap-Up
- SET วันที่ 16 ส.ค.67 ปิด +13.16 จุด อยู่ที่ 1,303.00 จุด มูลค่าการซื้อขาย 35,657 ลบ.ต่างชาติซื้อ 335 ลบ.สถาบันซื้อ 797 ลบ.รายย่อยขาย 1,141 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิรวม 583 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น BBL,TRUE,BCH,DELTA,BANPU และมียอดขายสุทธิ BDMS,BGRIM,BH,GULF,MTC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,559 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ KTC-R,OR,IRPC โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 21,707 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 50,765 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 2,587 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.24%, S&P500 +0.20%, Nasdaq +0.21% ได้แรงหนุนจากกลุ่มการเงิน หลัง ม.มิชิแกนเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เบื้องต้น ส.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ 8 & ก.ค. 66.4 และคาดการณ์เงินเฟ้อสหรัฐ 1 ปีข้างหน้าอยู่ที่ 2.9% ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.31% ได้แรงหนุนจากกลุ่มยานยนต์ +1.2% และกลุ่มการเงิน ธนาคาร UBS ของสวิตเซอร์แลนด์ +0.7%
Market View
- สัปดาห์ที่ผ่านมา DJIA +2.9%, S&P500 +3.9%, Nasdaq +5.3% WoW ได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจ เช่น ยอดค้าปลีกสหรัฐ ก.ค. ปรับขึ้นดีกว่าคาด, US CPI ก.ค. ลดลงอยู่ที่ 9% & มิ.ย. 3.0% YoY และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง ซึ่งบ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวแบบ Soft Landing ไม่มีสัญญาณถดถอย โดย CME Fed Watch ชี้โอกาส 74.5% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 17 – 18 ก.ย. สัปดาห์นี้วันพุธติดตาม Fed Minutes ก.ค. และการประชุมประจำปีเฟดที่แจ๊คสัน โฮล วันที่ 22 – 24 ก.ย.
- ตลาดหุ้นยุโรป +2.5% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี, การเงิน และยานยนต์ หลังรายงาน GDP ยูโรโซน Q2/67 +0.3% QoQ กอปรกับลดความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย สัปดาห์นี้วันอังคารติดตาม CPI ยูโรโซน ก.ค. คาด 6% & มิ.ย. 2.5% YoY เพื่อประเมินโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุม ECB 12 ก.ย.
- ตลาดหุ้นเอเขีย MSCI Asia Pacific X Japan +2.8% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดเอเชียเหนือ จากคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยปีนี้ราว 75% ส่วนดัชนีนิเกอิ +8.8% WoW ตอบรับ GDP ญี่ปุ่น Q2/67 +0.8% & Q1/67 -0.6% QoQ ได้แรงหนุนจากการบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้น หลังการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน กอปรกับค่าเงินเยนอ่อนค่าอยู่ที 147.5 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ช่วยหนุนภาคส่งออกญี่ปุ่น ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.6% WoW ได้แรงหนุนจากยอดค้าปลีก ก.ค. ดีกว่าคาด แม้ว่าราคาบ้าน, ผลผลิตภาคอุต ฯ และอัตราว่างงาน ก.ค. จะแย่กว่าคาด สัปดาห์นี้วันอังคารติดตาม ธ.กลางจีนจะปรับลดดอกเบี้ย Loan Prime Rate หรือไม่
- ดัชนี SET +0.46% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 27 หมื่น ลบ.-1.2% WoW สถาบันขาย 2,186 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 1,726 ลบ. ต่างชาติซื้อ 430 ลบ. และรายย่อยซื้อ 32 ลบ. WoW กลุ่มที่ปรับขึ้น คือ เกษตร +5.9%, ไฟแนนท์ +4.2%, ปิโตรเคมี +3.4% ขณะที่กลุ่มปรับลดลง คือ รพ. -3.7%, ท่องเที่ยว -3.0%, บรรจุภัณฑ์ -2.9% โดยช่วงต้นสัปดาห์ดัชนี SET ปรับขึ้นตามดัชนีภูมิภาค หลังตลาดคาดเฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. กอปรได้แรงหนุนจากกำไร บจ. Q2/67 รวมอยู่ที่ 2.6 แสน ลบ. +16% YoY, -3% QoQ และดีกว่าตลาดคาด +12% แต่ช่วงกลางสัปดาห์ดัชนีปรับลดลง หลัง ศาล รธน.มีมติถอดถอนนายก ฯ เศรษฐา จากความผิดกรณีเสนอแต่งตั้งพิชิต ชื่นบาน ในตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายก ฯ ซึ่งเป็นบคุคคลขาดคุณสมบัติ ส่งผลให้ ครม.สิ้นสภาพไปด้วยทั้งคณะ แต่ดัชนีสามารถฟื้นตัวหลังการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเสนอชื่อคุณแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายก ฯ คนที่ 31 ส่งผลบวกต่อความต่อเนื่องในการออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจ ประเด็นสำคัญวันนี้ สภาพัฒน์จะรายงาน GDP ไทย Q2/67 คาด +2.2% & Q1/67 +1.5% YoY , วันพุธ การประชุม กนง.คาดจะคงดอกเบี้ยที่ 2.5% ส่วนปัจจัยการเมืองติดตามการแต่งตั้ง ครม.ใหม่ และการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อสภา ฯ
Daily Strategy
- วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,290 – 1,295 แนวต้าน 1,310 – 1,320 ประเมินดัชนีมีโอกาสปรับขึ้นหลังการเมืองในประเทศมีความชัดเจน ส่งผลบวกต่อการทำงบประมาณปี 68 และ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจ แนะนำทยอยซื้อ SCB,KTB,TTB/ PTT,BCP/ AOT/SCCC เป็นหลักทรัพย์ในกองทุนวายุภักษ์ / กลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT,CPN คาดได้ประโยชน์ ม.กระตุ้นการบริโภค / อาหาร & เกษตร CPF,GFPT,ITC,STA คาดกำไรปีนี้เติบโตดี
- SYNEX* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 15.10 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 160 ล้านบาท +5%QoQ, +83%YoY เติบโตสูง YoY หนุนจากรายได้รวมที่โตจากฐานต่ำ ขณะที่ QoQ มีแรงหนุนจากการเปิดตัวสินค้าใหม่โดยเฉพาะกลุ่ม communication (smartphone) ช่วยลดผลกระทบ low season ขณะที่ GPM ดีขึ้น YoY จากการเน้นขายสินค้าที่มี margin ดีอย่างกลุ่ม gaming และ enterprise solutions ทั้งนี้หากมองข้ามไปใน 2H67 น่าจะได้รับประโยชน์จากความต้องการ Upgrade สินค้า AI PC & Mobile ที่เพิ่มขึ้น การเปิดตัวสินค้าใหม่ของ Apple และ seasonal ของสินค้าไอทีช่วงท้ายปี ทั้งนี้อิงจาก Consensus ตลาดคาดกำไรสุทธิในปี 67-68 ที่ 628 ล้านบาท +22%YoY และ 746 ล้านบาท +19%YoY
- TACC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 6.30 บาท) กำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 69 ลบ. (+28%YoY, +13% QoQ ) แม้มีปัจจัยลบจากราคากาแฟ(ต้นทุน)ที่สูงขึ้นอยู่บ้าง แต่ภาพรวมกำไรสามารถเป็นบวกได้ต่อเนื่องจาก 1.แรงหนุนเชิงรายได้ตามสภาพอากาศร้อนจัดในเดือน เม.ย.-พ.ค.67 2.การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และ 3.การออกสินค้าใหม่ๆเพื่อชดเชยมาร์จิ้น เช่น เจลี่ คอลลาเจน เป็นต้น ด้านการดำเนินงาน 3Q67 แม้คาดอ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่ 4Q67 จะกลับมาดีอีกครั้ง ทั้งนี้ ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี67 และ68 กำไรสุทธิของ TACC* จะอยู่ที่ระดับ 243 ลบ.(+18%YoY) และ 270 ลบ.(+11%YoY) ตามลำดับ
Daily Key Factors
Oil Update(-) WTI ก.ย. -$1.51 อยู่ที่ $76.65 / บาร์เรล, Brent ต.ค. -$1.36 อยู่ที่ $79.68/บาร์เรล จากความกังวลอุปสงค์จากจีนมีแนวโน้มชะลอตัว หลังโรงกลั่นได้ลดอัตราการกลั่นน้ำมันดิบ กอปรกับ Opec & EIA ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมันตลาดโลกในปีนี้
Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+$45.40 อยู่ที่ $2,537.80 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจากคาดการณ์เฟดจะลดดอกเบี้ยปีนี้ราว 0.75% กอปรกับทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์นี้ ซื้อสุทธิ +224.49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +20.34 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +186.86 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +25.21 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 34.54 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 3.915 %
(-) ดัชนี BDI วานนี้ -1 จุด อยู่ที่ 1,691
(-) BitCoinเช้านี้ -2.0% อยู่ที่ 58,496 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
19 ส.ค. สภาพัฒน์ แถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 2/67
21 ส.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 4/2567
สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์
กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย
ต่างประเทศ
20 ส.ค. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ก.ค.)
21 ส.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
22 ส.ค. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ส.ค.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ส.ค.)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US รายงานการประชุมของ FOMC
US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ( ก.ค.)
23 ส.ค. US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ
US ยอดขายบ้านใหม่ ( ก.ค.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*
(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*
(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio August 2024: GFPT*, CPALL, BH, CPF, THCOM
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th