วันโหวตนายกฯ 3 รอบล่าสุด SET INDEX ขึ้น
ว้นนี้สภาผู้แทนราษฎร์ จะมีวาระการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่โดยสถานการณ์ล่าสุดมีความชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะเสนอชื่อ คุณแพรทองธาร ชินวัตร เป็น CANDIDATEนายกรัฐมนตรี ซึ่งประเมินจากการแถลงท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาล เชื่อว่าน่าจะผ่านการโหวตได้ไม่ยาก และด้วยโครงสร้างพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่เปลี่ยน เชื่อว่าการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีน่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือน ส.ค. ถือเป็นช่วงเวลาที่เกิด สุญญากาศทางการเมือง ที่สั้นตามที่เราได้ประเมินไว้ส่วนการตอบสนองของ SET INDEX เชื่อว่าน่าจะเป็นบวก ทั้งนี้ในเชิงสถิติพบว่าในวันที่มีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจนครอบคลุมไปถึง 1สัปดาห์หลังจากนั้นพบว่า SET INDEX เป็น บวกทุกครั้ง ส่วนปัจจัยในต่างประเทศ พบว่าความกลัว RECESSION ลดลงตามลำดับเรามีมุมมองเชิงบวกต่อ SET INDEX เพิ่มขึ้นโดยเชื่อว่าเราจะได้รัฐบาลใหม่มาบริหารประเทศเร็วๆนี้ ส่วนกรอบวันนี้คาด 1280 – 1305 จุด หุ้นTOP PICK วันนี้เลือก CPALL, CPN และ IVL
ควากลัวเศรษฐกิจ RECESSION ดูแผ่วลง
วานนี้ตลาดหุ้นโลกยังคงเห็นภาพของการปิดตัวในแดนบวก โดยในฝั่งสหรัฐฯ พุ่งขึ้นราว 1.4% - 2.5% ส่วนในฝั่งยุโรปปรับตัวสูงขึ้นราว 0.8% - 1.7% จากการคลายความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ RECESSION หลังสัญญาณล่าสุด ทั้งยอดค้าปลีกพลิกเติบโต บวกกับการจ้างงานดูแข็งแกร่ง สะท้อนจากตัวเลขเศรษฐกิจดังนี้
• ค้าปลีกสหรัฐฯ เดือน ก.ค. 67 ขยายตัว +1.0%MOM สูงกว่าคาด+0.4%MOM และแข็งแกร่งมากสุดในรอบ 18 เดือน ซึ่งน่าจะเห็นการขึ้นเคลื่อนจาก DEMAND ที่ดีขึ้น
• ผู้ขอสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ล่าสุด 227,000 ตำแหน่ง ซึ่งต่ำกว่าคาดที่236,000 ตำแหน่ง และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ถือเป็นลดความเสี่ยงจากอัตราการว่างงานเร่งตัว
ในแง่มุมของกระแสข่าวเรื่อง RECESSION มีท่าทีที่เบาลงมาเมื่อเทียบกับช่วงต้นเดือนส.ค. 67 (BLACK MONDAY) อีกทั้งโอกาสเกิดเศรษฐกิจ RECESSION สหรัฐฯ ในอีก1 ปีข้างหน้าของ BLOOMBERG เผยว่ายังอยู่ในระดับที่ 30% ซึ่งไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
ขณะที่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลงในสหรัฐคาดว่าจะเริ่มต้นในเดือน ก.ย. นี้ โดยผลการสำรวจของ FED WATCH TOOL ให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น 74% ที่จะเห็น FED ปรับลดดอกเบี้ย ครั้งแรก 25 BPS. สู่ระดับ 5.25% ส่วนบ้านเรารอติดตามการประชุม กนง. ในวันที่ 21 ส.ค. 67
สรุป ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง บวกกับวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงที่คาดว่าจะเริ่มในเดือน ก.ย. นี้ ล้วนเป็นปัจจัยหนุนให้เม็ดเงินมีแนวโน้มไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง
การเมืองผ่อนคลายเร็ว หวัง SET เร่งฟื้นตามหุ้นโลก
ในเดือนนี้ ตลาดหุ้นโลกผันผวนจากความกังวลประเด็น RECESSION กดดันหุ้นโลกตกหนัก โดยเฉพาะในวันที่ 5 ส.ค. ที่เกิด BLACK MONDAY ขึ้นอีกครั้ง กดดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐ NAQDAQ ทำจุดต่ำสุดที่ -10.7%, ตลาดหุ้นญี่ปุ่น -20.3% และกลุ่มTIP รวมถึงไทย ลบใกล้เคียงกัน -3.4 ถึง -3.6 %
อย่างไรก็ตามมาจนถึงวานนี้นักลงทุนกังวลเรื่อง RECESSION ลดลง ตลาดหุ้นโลกฟื้นกลับขึ้นมาเร็วกลบหลุม BLACK MONDAY อาทิ NASDAQ -0%, ตลาดหุ้นญี่ปุ่น-6.1% และอินโดฯ ฟิลิปปินส์ พลิกบวก 2.1%, 1.1% ตามลำดับ แต่ตลาดหุ้นไทยถูกกดดันจากประเด็นการเมืองส่งผลให้ SET -2.3%MTD
ถือว่าระยะถัดไป SET INDEX มีโอกาสฟื้นเร่งตามตลาดหุ้นโลก จากสูญญากาศทางการเมืองแคบและเกิดขึ้นไม่นาน จากการที่วันนี้มีการโหวต คุณแพทองธาร ขึ้นเป็นนายกคนที่ 31 ของประเทศไทย ซึ่งถ้าไปเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ในอดีตช่วงโหวตนายกฯ 3 ครั้งที่ผ่านมา พบว่า SET INDEX มีการรีบาวน์ขึ้นทุกครั้งในวันโหวต 0.2%-1.6% และปรับตัวขึ้นเรื่อยๆ 1 สัปดาห์บวก 1.3% -2.0%
ส่วนหุ้นเด่นน่าสะสมหลังการเมืองผ่อนคลาย แนะนำ หุ้นท่องเที่ยวที่ลงหนักช่วงการเมืองไม่แน่นอน AOT, CENTEL, MINT หุ้นรับเหมาฯ วัสดุก่อสร้าง ได้แรงหนุนจากงบประมาณ 68 น่าจะเดินหน้าตามกรอบเวลาเดิม CK, STEC, SCC, SCCC หุ้นค้าปลีกหาจังหวะซื้อเมื่อเห็นความคืบหน้านโยบายกระเป๋าตังค์ดิจิตอล CPALL, BJC,CRC
ภาพครึ่งปีหลังยังดูดี ทั้งนโยบายเดินหน้า หนุน GDP GROWTHและกำไร
วันนี้เวลา 10.00 น. จะมีการโหวตเลือกนายกฯ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี โดยพรรคเพื่อไทยมติจะเสนอ คุณแพทองธารเป็นแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลพร้อมสนับสนุนมติดังกล่าวซึ่งฝ่ายวิจัยฯประเมินว่า วันนี้น่าจะได้นายกฯคนใหม่ จากโครงสร้างพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่เปลี่ยนแปลงมี 314 เสียง โดยที่มีพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคหลักที่มีจำนวน ส.ส.มากที่สุดที่ 141 เสียง ตามด้วยพรรคภูมิใจไทย 71 เสียง จึงเชื่อว่า นโยบายต่างๆน่าจะถูกขับเคลื่อนออกมาได้ในช่วงเวลาที่เหลือของปีอาทิ นโยบายหลักอย่าง DIGIRALWALLET ,กองทุน TESG-วายุภักษ์, ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาท/วัน,ENTERTAINMENT COMPLEX เป็นต้น ซึ่งจะหนุนให้ GDP GROWTH ยังเติบโตเป็นขั้นบันได ดังที่หลายสำนักเศรษฐกิจคาดการณ์ไว้ได้
ขณะที่วันจันทร์หน้าเตรียมรับปัจจัยบวกจากการประกาศตัวเลข GDP 2Q67 ของไทยซึ่ง BLOOMBERG คาด +2.1%YOY ดีกว่างวด 1Q67 ที่+1.5%YOY ซึ่งระยะถัดไปคาดหวังเศรษฐกิจไทยเติบโตแบบขั้นบันได โดย BLOOMBERG คาดการณ์ GDPGROWTH ใน 3Q67 +2.7%YOY, 4Q67 +4.0%YOY โดยตลอดปี 2567 คาดการณ์GDP GROWTH อยู่ที่ +2.6%YOY
อีกทั้งข้อมูลล่าสุดที่ฝ่ายวิจัยรวบรวมกำไรบริษัทจดทะเบียนงวด 2Q67 ประกาศออกมาแล้ว 679 บริษัท มีกำไรทั้งสิ้น 2.61แสนล้านบาท (IVL กำไร 2Q67-2.3 หมื่นล้านบาท) ลดลง 3.1%QOQ แต่เติบโต 16.2%YOY และดีกว่าตลาดคาดสูงถึง12.4%
ซึ่งจะทำให้กำไรช่วง 1H67 อยู่ระดับ 5.3 แสนล้านบาท ซึ่งประมาณการกำไร 2567 ของฝ่ายวิจัยฯอยู่ระดับ 1.12 ล้านล้านบาท จึงทำให้กำไรช่วง 2H67 มีโอกาสโตถึง27%HOH อยู่ระดับ 5.9 แสนล้านบาท เนื่องด้วยกำไร 4Q66 อยู่ระดับฐานต่ำกว่าระดับปกติ
สรุป ภาพครึ่งปีหลังของไทยยังดูดี ทั้ง GDP GROWTH และ กำไรบริษัทจดทะเบียนเป็นแรงจูงใจต่อ FUND FLOW ต่างชาติในการซื้อสุทธิ ส่วนความกังวลนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะล่าช้า ฝ่ายวิจัยฯคาดเกิดขึ้นแต่ไม่นานนัก เนื่องด้วยโครงสร้างพรรคร่วมรัฐบาล ที่ไม่เปลี่ยนแปลงส่วน TOPPICKS วันนี้เลือก IVL CPALL CPN เป็นหุ้นที่กำไร 2H67 เติบโต HOH และมีพื้นฐานแกร่งขนาดใหญ่เป็นเป้าหมาย FUND FLOW ต่างชาติ
Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส
เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม, CISA
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์