Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

518


ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook

แนวโน้มสินทรัพย์ต่างประเทศ อั
ปเดต Sentiment การลงทุนในภูมิภาคจาก Fund Flow
ประเด็นสำคัญ:
การติดตามกระแสการลงทุน (fund flows) ใน 5 ประเทศในสัปดาห์ที่ผ่านมา มียอดขายสุทธิ 3,341 ล้านเหรียญ ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากยอดขายสุทธิ 3,708 ล้านเหรียญ โดยมีแรงขายหลักจาก 2 ประเทศ ได้แก่ ไต้หวัน 2,211 ล้านเหรียญ และเกาหลีใต้ 1,182 ล้านเหรียญ โดยเซคเตอร์ที่มีแรงขายมากที่สุดในสองประเทศดังกล่าว ได้แก่ กลุ่มChemical ส่วน TIP market มีแรงซื้อสุทธิรวมกันบางๆ 52 ล้านเหรียญ แบ่งเป็น ไทย 12 ล้านเหรียญ อินโดนีเซีย 70 ล้านเหรียญ ในขณะที่ฟิลิปปินส์เป็นยอดขายสุทธิ 29 ล้านเหรียญ
สำหรับเซคเตอร์เด่นของภูมิภาคจากการจับสัญญาณด้วย Volume Index ในสัปดาห์ที่แล้วมีไม่มากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่เผชิญกับแรงกดดัน มีเพียงกลุ่ม ICT ของไทยเท่านั้นที่มีสัญญาณเชิงบวก
แนวโน้ม:
เซคเตอร์ไทยที่น่าจับตาในระยะสั้น (เฉพาะที่ cover ในรายงาน Flow Tracker) ได้แก่
Tier 1: กลุ่มที่ Volume Index มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากระดับสูงกว่า mid-point ได้แก่ ICT
Tier 2: กลุ่มที่ Volume Index มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากระดับใกล้กรอบล่าง ได้แก่ Energy & Utilities
อัพเดต Market-timing Indicator (เฉพาะตลาดหุ้นไทย):
ดัชนี SET เคลื่อนไหวผันผวนในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยค่า Overnight Volatility ปรับตัวขึ้นจากระดับ 9.2% เป็น 15.8% จากความกังวลของเศรษฐกิจโลกและปัญหาการเมืองภายในประเทศ
เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะยังมีแนวโน้มผันผวนต่อไปในระยะสั้น จากสัญญาณของ Market-timing Indicator ดังต่อไปนี้
1 แม้ว่าดัชนี Composite Short-term จะฟื้นตัวได้เล็กน้อยเมื่อเทียบกับระดับของ 3 สัปดาห์ก่อน แต่ Short-term Bull-to-Bear Indicator ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักอันหนึ่งได้ปรับตัวเข้าใกล้ระดับสูงสุดที่ทำไว้ในเดือน พ.ค. แล้ว ส่งผลให้ หุ้นหลายๆกลุ่มอาจสูญเสียโมเมนตัมในระยะสั้นไปได้ จากแรงกดดันของ mean-reversion process ของ indicator ดังกล่าว
2 การปรับตัวลงของ Short-term Bull-to-Bear จะทำให้ Overnight Volatility มีแนวโน้มสูงขึ้นในระยะสั้น และสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 16.7% ได้เล็กน้อย คล้ายกับวงจรการปรับฐานของเดือน เม.ย. อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าค่าความผันผวนจะพีคที่โซน 17-18% ใกล้เคียงกัน เนื่องจาก Medium-term Market Breadth Indicator ได้ปรับตัวลงจนเข้าใกล้ระดับต่ำสุดของไตรมาส 4 ปี 2023 แล้ว จึงทำให้ SET มีโอกาสรีบาวด์จากใกล้ระดับแนวรับที่ 1270 จุด

 

 

สรุปภาพตลาดวานนี้
วานนี้ดัชนี Sideways เขียวๆ แดงๆ สลับไปมาทั้งวัน กลุ่มหุ้นพยังตลาด PTT TOP TTB KBANK CPALL BJC และหุ้นกลับมาบวกแรง JMART JMT SGC SINGER พา ADVICE ขึ้นมาด้วย นอกจากนั้นยังเห็น WARRIX DITTO KAMART ก็บวกแรงเช่นกัน (การกระจายกลุ่มขึ้น สะท้อนว่าตลาดเริ่มเปิดรับความเสี่ยงหุ้นกลาง-เล็กได้มากขึ้น) ส่วนด้านลบกดดันตลาดเงินทุนออกจากหุ้นกระทบ MSCI เช่น GPSC (ลาก BGRIM มาด้วย) AWC นอกจากนี้ BH PTTEP AOT ก็มีอแรงขายออกมาเช่นกัน

แนวโน้มตลาดวันนี้
คืนชีพนกไฟฟีนิกซ์
วันนี้เราคงคำแนะนำ ซื้อหุ้นไทยสวนอารมณ์ความรู้สึกกันต่อไป ด้วยเรามองไปข้างหน้าแล้ว และมองข้ามปัจจัยการเมืองระยะสั้น ซึ่งวันนี้คดีถอดถอนนายกฯ จะได้ชัดเจนเสียที ส่วนประเด็นที่เราให้น้ำหนักมากกว่าการเมืองระยะสั้น คือ การคืนชีพ กองทุนวายุภักษ์ ได้เร็วกว่าที่คาด (เดิมคาดกว่าจะเริ่มน่าจะเดือน พ.ย.) โดยเรามีความหวังเพราะเราเคยเห็นพลานุภาพของกองทุนนี้มาแล้วในอดีตว่าสามารถช่วยชุบชีวิตตลาดหุ้นไทย หลังวิกฤตการเงินปี 40 มาก่อน...
นอกจากนี้ มาตรการกำกับดูแลสร้างเสถียรภาพให้กับราคาหุ้นไทยเริ่ม 2 ก.ย. นี้ เราคาดว่าจะลดความปั่นป่วนจาก โปรแกรมเทรด ได้ ส่วนปัจจัยอื่นต่างประเทศเราให้น้ำหนักน้อยกว่าปัจจัยภายในประเทศช่วงนี้...
เราคงคาดการกรอบตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ความผันผวนน่าจะลดลง และเล่นขึ้นได้ดีกว่าตลาดหุ้นภูมิภาค บนแนวโน้ม 1290 ถึง 1305/1325 จุด แนะเพิ่มการเก็งกำไรหุ้น Alpha ขนาดกลาง เล็ก ตามรายงานกลยุทธ์ Political events ที่เราออกรายงานไปเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์ แนะนำ เลือกหุ้นเล่นเป็นรายตัว โฟกัสไปข้างหน้า เน้นไปที่แนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะมีโอกาสถูกปรับเพิ่มประมาณการณ์ หรือ มองเห็นปัจจัยหนุนชัดเจนที่จะเข้ามาเกื้อหนุนต่อผลการดำเนินงานหลังจากนี้

วิเคราะห์ทางเทคนิค
ดัชนีบวกเล็กๆ กำลังทดสอบโซนต้านสำคัญที่ 1,300 จุด (เส้นประ) ขณะที่ RSI ชนเส้น signa line รอโอกาสทะลุผ่าน สรุปแนวโน้มดัชนีกำลังมาถึงจุดวัดใจ….หากทะลุต้านได้ มีโอกาสขึ้นยาวๆ ในทางตรงกันข้ามหากลงอาจจบรอบการฟื้นตัว… จับตาตัวแปรสำคัญ “คำตัดสินคุณสมบัติท่านนายก…วันนี้ได้ข้อสรุปดังนี้”
1. หากนายกฯไม่ถูกถอดถอน นโยบายที่ทำไว้เดินหน้าสานต่อ รัฐบาลมีเสถียรภาพ หนุน SET ปรับขึ้นคาดโซนต้านอยู่ที่ 1,350-1,380 (Fibo 38.2%)
2. หากนายกฯถูกถอดถอน อาจส่งผลให้ SET ปรับตัวลงมาที่ 1,250-1,280 (Fibo 23.6%) สุดท้ายการเมืองมีความชัดเจนแน่นอน…. แผนเทรดจะลุยซื้อหรือต่อราคาตั้งรับ ขอรอความชัดเจนอีกนิดครับ Note: หัวข้ออื่นๆ อาทิเช่น แผนเทรดเมื่อน้ำมันดิบ Brent > $80/barrel & ฟื้นกองวายุภักษ์... ดัน SET ได้แค่ไหน? ติดตามในบทวิเคราะห์ World Asset Class เช้านี้ครับ

 

What to watch
ศาลฯนัดพิจารณาลงมติคดีถอดถอนนายก 14 ส.ค.นี้
MSCI Rebalance มีผล 30 ส.ค.นี้ หุ้นออกจาก Standard index: AWC GPSC EA IVL
MSCI Small Cap หุ้นเข้า BJC EA KAMART TLI หุ้นออก BAFS BYD EPG NEX ORI PTG RBF THANI SC SJWD SKY SNNP THCOM
ผลประกอบการ บจ.ไตรมาส 2 และปันผลระหว่างกาล
การประชุมประจำปีของเฟดซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 22-24 ส.ค.นี้ โดยการประชุมจะจัดขึ้นในหัวข้อ "Reassessing the Effectiveness and Transmission of Monetary Policy"
สำหรับในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลในปีนี้ คาดว่านายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ หลังเงินเฟ้อของสหรัฐเริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลง
กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เตรียมเดินหน้าเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. แก่นักลงทุนทั่วไป มูลค่ารวมไม่เกิน 1 แสน -1.5 แสนล้านบาท คาดเริ่มเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. และนำเข้าจดทะเบียนเพื่อซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้
อดีตนายกทักษิณ โชว์วิสัยทัศน์เศรษฐกิจไทย ออกสื่อ 22 ส.ค.


หุ้นแนะนำวันนี้
WHA เล่นหุ้น Alpha ที่เรา Cover งบดี มีฐานกำไรรองรับ Beta ไม่แรง 0.93 (S 5.05 R 5.4 SL 5)

 


รายงานพื้นฐานวันนี้

Quantitative Strategy
ดัชนี Market-timing ส่งสัญญาณมิกซ์ ตลาดจะยังคงผันผวน
ดัชนี SET เคลื่อนไหวผันผวนในช่วง 3 สัปดาหที่ผ่านมา โดยค่า Overnight Volatility ปรับตัวขึ้นจากระดับ 9.2% เป็น 15.8% จากความกังวลของเศรษฐกิจโลกและปัญหาการเมืองภายในประเทศ เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะยังมีแนวโน้มผันผวนต่อไปในระยะสั้น จากสัญญาณของ Market-timing Indicator ดังต่อไปนี้ (1) แม้ว่าดัชนี Composite Short-term จะฟื้นตัวได้เล็กน้อยเมื่อเทียบกับระดับของ 3 สัปดาห์ก่อน แต่ Short-term Bull-to-Bear Indicator ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักอันหนึ่งได้ปรับตัว เข้าใกล้ระดับสูงสุดที่ทำไว้ในเดือน พ.ค. แล้ว ส่งผลให้หุ้นหลายๆกลุ่มอาจสูญเสียโมเมนตัมในระยะสั้นไปได้ จากแรงกดดันของ mean-reversion process ของ indicator ดังกล่าว (2) การปรับตัวลงของ Short-term Bull-to-Bear จะทำให้ Overnight Volatility มีแนวโน้มสูงขึ้นในระยะสั้น และสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 16.7% ได้เล็กน้อย คล้ายกับวงจรการปรับฐานของเดือน เม.ย. อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าค่าความผันผวนจะพีคที่โซน 17-18% ใกล้เคียงกัน เนื่องจาก Medium-term Market Breadth Indicator ได้ปรับตัวลงจนเข้าใกล้ระดับต่ำสุดของไตรมาส 4 ปี 2023 แล้ว จึงทำให้ SET มีโอกาสรีบาวด์จากใกล้ระดับแนวรับที่ 1270 จุด

Commodities
ค่าการกลั่นรักษาความโดดเด่นต่อ
ในสัปดาห์ที่แล้วราคาน้ำมันดิบดูไบ ลดลง $4.07 WoW เป็น $75.54/บาร์เรล (ลบต่อ PTTEP) หลังประเด็นกังวลอุปสงค์โลกที่ลดลง และประเด็นจีน-สหรัฐฯ
ค่าการกลั่น (อิงสิงคโปร์) ขยายตัวต่อ $0.87 WoW เป็น $6.13/บาร์เรล จากกลุ่ม “Low-Sulphur” และค่าขนส่งลดลง (บวกต่อ SPRC และ TOP)
ส่วนต่างราคา (Spread) เคลื่อนไหวหลายทิศทาง โดยกลุ่ม Ethylene ขยายตัวเด่น (โดยรวมบวกต่อ PTTGC มากสุด)
ราคาถ่านหิน บวกต่อ 3% WoW ที่ $146.18/ตัน (บวกต่อ BANPU เล็กน้อย)
ค่าระวางเรือเทกอง (BDI) อ่อนแอลง 2% WoW เป็น 1,683 จุด จากทุกกลุ่มย่อย (กดดันต่อ PSL และ TTA )
ส่วนค่าระวางเรือตู้คอนเทนเนอร์ (World Container Index) ย่อตัว 3% WoW เป็น 5,551 จุด (ลบต่อ RCL เล็กน้อย)
Fundamental View: เชิงพื้นฐานเราชอบ PTTEP และ TOP มากสุด



รายงานผลประกอบการวันนี้

วันนี้มีรายงานผลประกอบการทั้งหมด 19 บริษัท แบ่งเป็น
(+) Beat หรือกำไรดีกว่าคาด 3 บริษัท ได้แก่ GFPT DITTO CENTEL
(0) In-line หรือกำไรตามคาด 11 บริษัท ได้แก่ CPALL BJC BEM AP SC SPALI BDMS AAV BAM KCE PLANB
(-) Missed หรือกำไรต่ำกว่าคาด 5 บริษัท ได้แก่ LH AMATA BANPU CIVIL AH

(+) Beat:
(+) GFPT รายงานกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 583 ล้านบาท หักรายการพิเศษกำไรหลักจะอยู่ที่ 561 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68% YoY และ 27% QoQ สูงกว่าที่เราและตลาดคาด 8% จาก GM และส่วนแบ่งกำไรสูงกว่าคาด แนวโน้ม 3Q24 คาดเติบโต YoY จาก GM และส่วนแบ่งกำไรเช่นเดิม แต่ลดลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลส่งออกที่ลดลง และทำให้ GM อ่อนตัวลงด้วย เรายังคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 15.70 บาท
(+) DITTO รายงานกำไรสุทธิที่ 125 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% YoY และ 20% QoQ กำไรสุทธิดีกว่าที่เราคาด 20% จากยอดขายที่ดีกว่าคาด เราประเมินกำไร 3Q24 เติบโต YoY และ QoQ ยังคงคำแนะนำ ซื้อ
(+) CENTEL รายงานกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 168 ล้านบาท หักรายการพิเศษกำไรหลักจะอยู่ที่ 313 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 159% YoY แต่ลดลง 59% QoQ (ตามฤดูกาล) สูงกว่าที่เราและตลาดคาดที่ 224 และ 243 ล้านบาท ตามลำดับ เกิดจากค่าใช้จ่ายและภาษีจ่ายน้อยกว่าคาด โดยธุรกิจโรงแรมและอาหารเติบโต YoY ในไตรมาสนี้ แนวโน้ม 3Q24 คาดกำไรจะลดลง YoY และ QoQ ผลกระทบจากค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มในการเตรียมโรงแรมใน Maldives ที่จะเปิดใหม่ 2 แห่งใน 4Q24 และ 1Q24 เรายังคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 55 บาท มองระยะยาวมากกว่า

(0) In-line:
(0) CPALL รายงานกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 6,239 ล้านบาท หักรายการพิเศษกำไรหลักจะอยู่ที่ 6,155 ล้านบาท เติบโต 34% YoY และ 2% QoQ เป็นไปตามที่เราคาด แต่สูงกว่าตลาดคาด 5% จาก GM มากกว่าตลาดคาด โดย SSSG ยังแข็งแกร่ง +3.8% YoY แนวโน้ม 3Q24 คาดกำไรหลักเติบโต YoY (ลดลง QoQ ตามฤดูกาล) โดย SSSG คาดที่ 2-3% YoY เราเห็น Upside ต่อประมาณการกำไรทั้งปี 2024 ยังคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 71 บาท
(0) BJC รายงานกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 1,228 ล้านบาท หักรายการพิเศษกำไรหลักจะอยู่ที่ 1,203 ล้านบาท ลดลง 2% YoY แต่เพิ่มขึ้น 20% QoQ เป็นไปตามที่เราคาด แต่สูงกว่าตลาดคาด 6% แม้ GM จะออกมาแข็งแกร่ง แต่รายได้ยังมีแรงกดดัน และมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ บริษัทประกาศจ่ายปันผล 0.15 บาท สำหรับ 1H24 คิดเป็น Div. yield 0.7% ขึ้น XD วันที่ 27 ส.ค. แนวโน้ม 3Q24 คาดกำไรขยานตัว YoY จาก GM แต่ลดลง QoQ ตามฤดูกาล เราเห็น Upside ต่อประมาณการกำไรทั้งปี 2024 แต่ยังแนะนำถือ โดยในกลุ่มคอมเมิร์ช ชอบ CPALL CPAXT มากกว่า
(0) BEM รายงานกำไรสุทธิ/หลัก 2Q24 ที่ 1,003 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% YoY และ 18% QoQ เป็นไปตามที่เราคาด แต่สูงกว่าตลาดคาด 6% แรงหนุนหลักมาจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น เราคาดกำไรหลัก 3Q24 จะเติบโต YoY, QoQ จากทั้งผู้โดยสารเพิ่ม และเงินปันผลรับ เรายังคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 12.40 บาท


(0) AP รายงานกำไรสุทธิ/หลัก 2Q24 ที่ 1,269 ล้านบาท ลดลง 18% YoY แต่เพิ่มขึ้น 26% QoQ เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด แนวโน้ม 3Q24 คาดกำไรยังลดลงต่อ YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ (เปิดโอนโครงการใหม่) และเป็นจุดสูงสุดของปีนี้ แต่พบว่า GM จะชะลอตัวลงทั้ง YoY, QoQ และ SG&A จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากการแข่งขันที่สูงขึ้นและการเปิดตัวโครงการใหม่ เราปรับกำไรปี 2024 ลง 12% สะท้อน GM ใหม่ และราคาเป้าหมายใหม่เป็น 9 บาท (จาก 10 บาท) มองยังมี Downside จากตลาดราว 10-15% แนะนำถือรับปันผลราว 7% (บนการคาดการณ์เต็มปี)
(0) SC รายงานกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 531 ล้านบาท หักรายการพิเศษกำไรหลักจะอยู่ที่ 395 ล้านบาท ลดลง 23% YoY แต่เพิ่มขึ้น 116% QoQ เป็นไปตามที่เราคาด แต่สูงกว่าตลาดคาด 7% ทั้งนี้ SC ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.05 บาท คิดเป็น Div. yields 2.2% ขึ้น XD วันที่ 27 ส.ค. แนวโน้มกำไรใน 3Q24 คาดลดลง YoY แต่ทรงตัว QoQ แต่ก็เห็น GM อ่อนตัวลงเพราะการใช้ Promotion มากขึ้น และเห็น Downside จากประมาณการกำไรของตลาด 15% เรายังคงให้คำแนะนำถือ
(0) SPALI รายงานกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 1.6 พันล้านบาท ลดลง 6% YoY แต่เพิ่มขึ้น 161% QoQ เป็นไปตามที่เราคาด แต่สูงกว่าตลาดคาด ทั้งนี้ SPALI ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.6 บาท คิดเป็น Div. yields 4.0% ขึ้น XD วันที่ 27 ส.ค. แนวโน้ม 3Q24 คาดกำไรหลักจะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เกิดจากการโอน นอกจากแนวราบ ยังจะมีการโอนคอนโดเสร็จใหม่ด้วย เรายังคงคำแนะนำถือ
(0) BDMS รายงานกำไรสุทธิ/หลัก 2Q24 ที่ 3.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% YoY แต่ลดลง 18% QoQ (ปัจจัยฤดูกาล) เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด แนวโน้ม 3Q24 คาดกำไรหลักเติบโตทั้ง YoY และ QoQ ใน High Season และทำสถิติสูงสุดใหม่ เราคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท
(0) AAV รายงานกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 84 ล้านบาท หักรายการพิเศษกำไรหลักจะอยู่ที่ 381 ล้านบาท ลดลง 17% YoY และ 77% QoQ เป็นไปตามที่เราคาด แต่สูงกว่าตลาดคาด 12% แนวโน้ม 3Q24 คาดพลิกจากขาดทุน YoY แต่ลดลง QoQ ตามฤดูกาล อย่างไรก็ตาม มองว่ามี Upside จากประมาณการในปัจจุบันจากจำนวนผู้โดยสารที่อาจจะดีกว่าคาด เรายังคงคำแนะนำซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 2.70 บาท
(0) BAM รายงานกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 456 ล้านบาท เป็นไปตามที่เรา (แต่สูงกว่าตลาดคาด 6%) โดยเพิ่มขึ้น 7% YoY และ 8% QoQ หนุนจากกำไรจากเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้เพิ่มขึ้น ขณะที่การจัดเก็บเงินสดปรับลดลง 4% YoY (แต่เพิ่มขึ้น 12% QoQ) แนวโน้มกำไรสุทธิ 3Q24 จะเพิ่มขึ้น 4% YoY (กำไรจากเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้เพิ่มขึ้น) แต่ลดลง 12% QoQ (กำไรจากทรัพย์สินรอการขายลดลง และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้น) เราปรับลดกำไรสุทธิปี 2024 ลง 3% จากการปรับลดสมมติฐานการจัดเก็บเงินสดและกำไรจาการทรัพย์สินรอการขายลง เรายังแนะนำขาย
(0) KCE รายงานกำไรสุทธิ 635 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69% YoY และ 23% QoQ หากตัดรายการพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 531 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66% YoY และ 26% QoQ กำไรหลักออกมาตามที่เราและตลาดคาด โดยการเติบโตจากอัตรากำไร เราประเมินกำไรหลัก 3Q24 เติบโต YoY และ QoQ ยังคงแนะนำ ซื้อเก็งกำไร
(0) PLANB รายงานกำไรสุทธิที่ 264 ล้านบาท เติบโต 16% YoY และ 46% QoQ เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด โดยเราประเมินกำไร 3Q24 เติบโต YoY และ QoQ ยังคงคำแนะนำ ซื้อ


(-) Missed:
(-) LH รายงานกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 1 พันล้านบาท หักรายการพิเศษกำไรหลักจะอยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท ลดลง 27% YoY และ 10% QoQ ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด 8% และ 12% ตามลำดับ เกิดจาก SG&A และดอกเบี้ยจ่าย สูงกว่าที่คาด โดยกำไรที่ลดลงทั้ง YoY, QoQ จาก GM ที่หดตัวลง แนวโน้ม 3Q24 คาดยังคงเห็นการลดลง YoY ต่อ แต่เพิ่มขึ้น QoQ แม้รายได้จะเติบโตทั้ง YoY, QoQ แต่มอง GM ยังถูกกดดัน เรายังคงแนะนำให้ wait-and-see

(-) AMATA รายงานกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 231 ล้านบาท หักรายการพิเศษกำไรหลักจะอยู่ที่ 281 ล้านบาท ลดลง 17% YoY และ 43% QoQ ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด 51% และ 42% ตามลำดับ เกิดจากรายได้และ GM ต่ำกว่าคาด แนวโน้มกำไร 3Q24 คาดกลับมาเติบโต YoY และ QoQ จากการโอนที่เพิ่มขึ้น เราปรับลดกำไรปี 2024 ลง 15% และราคาเป้าหมายใหม่เป็น 27 บาท (จาก 29 บาท) แต่ยังแนะนำซื้อ จากแนวโน้มตัวเลข Presales ที่ยังดี
(-) BANPU รายงานกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 937 ล้านบาท หักรายการพิเศษกำไรหลักจะอยู่ที่ 375 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน YoY และ QoQ แต่ต่ำกว่าเราคาดจากราคาขายถ่านหินที่ต่ำกว่าคาด แต่สูงกว่าตลาดคาดไป 12% แนวโน้ม 3Q24 คาดกำไรหลักจะลดลง YoY และ QoQ กดดันจากราคาถ่านหินลดลง เราปรับกำไรทั้งปี 2024 ลง 26% คงคำแนะนำถือ
(-) CIVIL รายงานกำไรหลัก/สุทธิ 2Q24 ที่ 20.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% YoY แต่ย่อตัวลง 18% QoQ กำไรที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดที่ 22.18 ล้านบาท เพียงเล็กน้อย เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้น (GM) น้อยกว่าคาด (แต่ถือว่ารักษาระดับกำไรไว้ได้ดีกว่าก่อนหน้าที่แกว่งตัวกว่านี้)แนวโน้ม 3Q24 คาดกำไรจะเพิ่มขึ้น YoY (GM ขยายตัวจากฐานต่ำเพียง 5.3% ใน 3Q23) และอย่างน้อยทรงตัว หรือเพิ่มขึ้น QoQ จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามความคืบหน้าของทั้งงานใหญ่ และงานเล็ก เรายังคงให้คำแนะนำถือ
(-) AH รายงานกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 103 ล้านบาท ลดลง 75% YoY และ 68% QoQ หากตัดรายการพิเศษกำไรหลักจะอยู่ที่ 100 ล้านบาท ลดลง 67% YoY และ 67% QoQ ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด เราประเมินกำไร 3Q24 ลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ ปรับประมาณการกำไรปี 2024 ลง 8% มาที่ 1.2 พันล้านบาท ปรับคำแนะนำลงจาก ถือ เป็น ขาย

 


สรุปประเด็นจาก Quick take

JMT
เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส
ประเด็นสำคัญจาก Opportunity Day
JMT ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H24 จะฟื้นตัวจาก 1H24
View From Fundamental: เรามีมุมมองเป็นบวก จากแนวโน้มจากแนวโน้มผลการดำเนินงานจะฟื้นตัว QoQ ใน 3Q24 อย่างไรก็ตาม เรายังติดตามการฟื้นตัวของการจัดเก็บเงินสดของ JMT ใน 2H24 จึงแนะนำ wait and see

SVI
เอสวีไอ
ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
เราเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์ช่วงบ่ายวันนี้มุมมองออกมาเป็นกลาง
Tactical View: เราคาดอัตรากำไรใน 3Q24 มีโอกาสอ่่อนตัวลงจากใน 2Q24 จากประเด็นเงินบาท ที่ไม่ได้ส่งผลบวกเหมือนใน 2Q24 แต่ภาพรวมกำไรน่าจะยังโตแรง YoY ได้จากฐานปีที่แล้วที่ระดับ 200-300 ล้านบาท อย่างไรก็ตามภาพอุปสงค์ใหญ่ยังมีความเสี่ยงด้าน Recession กดดันเรามองเป็นการเทรดเก็งกำไร ในกรอบ 8-9.2 บาท


วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ไม่คึกคัก By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง มองตลาดหุ้นไทย คงไม่มีความคึกคัก ด้วยขาดปัจจัยบวก บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ก็ประกาศงบไตรมาส..

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้