Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.ทิสโก้ : MAJOR คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 20.50 บาท

256

 

กำไรสุทธิ 2Q24 ลดลง YoY จากรายได้หนัง Holly Wood แต่เพิ่มขึ้น QoQ จากหนังไทยทำเงิน
MAJOR ประกาศกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 232 ล้านบาท -56%YoY แต่เพิ่มขึ้น +66%QoQ โดยเทียบกับ 2Q23 ที่กำไรสุทธิ 532 ล้านบาท เนื่องจากใน 2Q23 มีบันทึกกำไรพิเศษจากการขายหุ้น MPIC และใน 2Q24 มีการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี (tax loss carry forward) จำนวน 80 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายพิเศษจากการต่อสัญญาสาขาสุขุมวิท การปิดโรงภาพยนตร์ 4DX 3 สาขาได้แก่ รัชโยธิน หาดใหญ่ เชียงใหม่ รวมประมาณ 80 ล้านบาท โดยหากไม่รวมรายการพิเศษกำไรหลักจะอยู่ที่ 232 ล้านบาท +25%YoY และ +71%QoQ ดีกว่าที่เราและตลาดคาดจากต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าคาด

สำหรับรายได้ตั๋วหนังลดลง -10%YoY +25%QoQ เนื่องจากใน 2Q23 มีหนังเด่นหลายเรื่องได้แก่ Fast and Furios x, Guardians of the Galaxy, Transformers เป็นต้น แต่รายได้ตั๋วหนังเพิ่มขึ้น 19% YoY จากหนังเรื่อง “หลานม่า” ทำรายได้ 226 ล้านบาท , “อนงค์” ทำรายได้ 110 ล้านบาท, Godzilla x Kong จำนวน 83 ล้านบาท, “เทอม 3” 67 ล้านบาท และ Inside Out 2 จำนวน 63 ล้านบาท สำหรับรายได้ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม -17%YoY, +17%QoQ ตามรายได้หนังที่ลดลงและการทำโปรโมชั่นลดลง สำหรับสินค้า Popcorn จำหน่ายผ่านร้านค้าปลีก 7-11 จำนวน 14,000 สาขาทั่วประเทศ แต่สัดส่วนรายได้ยังเล็กน้อยคิดเป็นราว 4% ของรายได้กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม รายได้ค่าโฆษณา -8%YoY, +9%QoQ ตามรายได้ตั๋วหนัง อัตราทำกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายคาดเพิ่มขึ้นจากรายการพิเศษตามที่กล่าวข้างต้น แต่สามารถชดเชยกับการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีซึ่งมีมูลค่าใกล้เคียงกัน ส่งผลให้อัตราทำกำไรอยู่ที่ 11% ลดลงจาก 22%YoY แต่เพิ่มขึ้นจาก 8%QoQ

คาดผลประกอบการปีนี้เติบโตจากเน้นภาพยนตร์ไทยและการขยายสาขาต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น กำไรสุทธิ 1H24 คิดเป็น 44% ของที่เราคาดทั้งปี เราคาดครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก จากหนังภาพยนตร์หลายเรื่องที่เข้ามา โดยในครึ่งปีหลังจะมีหนังไทยหลายเรื่องได้แก่ “ธี่หยด 2”, “หลวงพี่เท่ง”, “หมู่บ้านโคกะโหลก”, “นาคบรรพ์” และหนังต่างประเทศ เช่น “Joker”, “Venom”, “Gladiator”, “Mufasa : The Lion King” และ , “Kraven the Hunter” เป็นต้น เราคาดกำไรหลักปี 2024F จะเพิ่มขึ้น 29%YoY จากการขยายโรงภาพยนตร์ต่างจังหวัดมากขึ้นและเน้นภาพยนตร์ไทยมากขึ้น โดยบริษัทวางแผนภาพยนตร์ไทยปีละ 50 เรื่อง ส่งผลให้รายได้อาหารและเครื่องดื่มทานเล่นและรายได้ค่าโฆษณาเติบโตตามรายได้ตั๋วภาพยนตร์ และการขายอาหาร Popcorn ผ่าน delivery รวมถึงร้านสะดวกซื้อ 7-11 เพิ่มขึ้น บริษัทได้มีการขยายช่องทางจำหน่ายผ่าน Lotus, BigC ใน ก.พ.ที่ผ่านมา และบริษัทวางแผนขยาย โรงภาพยนตร์เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะต่างจังหวัด ปีนี้ประมาณ 47 โรงภาพยนตร์ 15 โลเคชั่น จากปีที่ผ่านมามี 851 โรงภาพยนตร์ 184 โลเคชั่น เราคาด Gross margin 34% ใกล้เคียงปีที่ผ่านมา คาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย 24% ส่งผลให้คาดอัตรากำไรสุทธิปี 2024F อยู่ที่ 10%

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 20.50 บาท (อ้างอิงวิธี DCF, WACC 8%) ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER24F ที่ 14x สถานะการเงินแข็งแกร่งเป็น net cash คาด Dividend Yield’24F ที่ 2.8% มากกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มอยู่ที่ 1.5% ความเสี่ยง : 1) เศรษฐกิจซบเซา 2) การล็อกดาวน์จากสถานการณ์ COVID-19 หากรุนแรงขึ้น

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้