AT THE OPEN (#ATO)
SET Index กลับไปยืนเหนือ 1300
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่กำไรมีแนวโน้มเติบโต

Market Strategy
SET Index คาดแกว่งขึ้นตามกรอบ 1295-1310 จุด จากความกังวล U.S. Recession ที่ลดลงหลังการรายงานตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด ด้านการรายงานงบบริษัทฯบ้านเรางวด 2Q67 โดยรวมยังดีกว่าตลาดคาดราว 5% ส่วนทิศทาง Fund Flow ต่างชาติ แม้ในตลาดหุ้นยังซื้อสลับขาย แต่มีสัญญาณบวกจากการเข้ามาพักในตลาดตราสารหนี้ ซึ่งอาจเห็นเคลื่อนย้ายมายังในตลาดหุ้นหากความชัดเจนการเมืองถูกปลดล็อค กลยุทธ์เลือกหุ้นที่กำไร 2Q67 มีแนวโน้มเติบโตดี CPALL และ CPN

การรายงานตัวเลข Initial Jobless Claim สหรัฐฯเพิ่มขึ้น 2.33 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าตลาดคาด 2.40 แสนตำแหน่ง ช่วยลดความความกังวลต่อการชะลอตัวของภาคแรงงานและ U.S. Recession ช่วยหนุนต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับขึ้นทุกดัชนี นำโดย NASDAQ +2.9% S&P +2.3% Dow Jones +1.8% และราคาน้ำมันดิบ+1% คาดว่าจะช่วยหนุนต่อหุ้นกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ (DELTA HANA KCE) และกลุ่มพลังงานต้นน้ำ (PTTEP)

การรายงานกำไรบริษัทฯ (นับเฉพาะที่ Consensus คาดการณ์) ข้อมูลถึงวันที่ 8 ส.ค.ประกาศแล้วทั้งสิ้น 58 บริษัท คิดเป็นสัดส่วน 47% ของ Market Cap ยังสร้าง Positive Surprise ราว 5% ที่ยังช่วยปิดความเสี่ยงต่อการปรับลดประมาณการกำไรลง ด้านทิศทาง Fund Flow ต่างชาติ เราเห็นสัญญาณบวกจากการไหลเข้ามาในตลาดตราสารหนี้เดือน ส.ค.ที่MTD ซื้อสุทธิ 4.1 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้ระยะสั้นสัดส่วน 57% หรือเท่ากับ 2.3 หมื่นล้านบาท มองเป็นสัญญาณบวกที่อาจเคลื่อนย้ายมาในตลาดหุ้นได้ โดยเฉพาะหากประเด็นการเมืองในประเทศมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า

Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 7.9 จุด หนุนจากกลุ่มพลังงานที่ปรับขึ้นตามน้ำมันดิบ หนุน PTTEP +1.7% TOP +3.2% SPRC +2.9% กลุ่มค้าปลีกจาก CPAXT +3.4% เก็งงบ 2Q67 กลุ่ม BEM +1.4% และ CK +5% ดีดกลับหลังลงแรงจากความกังวลเรื่องการเจรจา Double Deck ที่อาจล่าช้า ส่วนกลุ่มที่ลงสวนกลุ่มอิเล็คฯ DELTA -1% ตามกลุ่มเทคสหรัฐฯ กลุ่มท่องเที่ยว CENTEL -6% กังวลต่องบ 2Q67

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ CPN CPALL

CPALL คาดกำไร 2Q67 เติบโตดี
คาดผลประกอบการ 2Q67 อยู่ที่ 5.74 พันล้านบาท ขยายตัว 29%YoY แรงหนุนมาจาก SSSG ที่ +4%YoY หนุนจากสภาพอากาศร้อนและการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงการขยายสาขาเพิ่มขึ้น 700 สาขา YoY ทำให้สิ้น มิ.ย.67 มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 14,915 สาขา
ด้าน GPM เพิ่มขึ้น 20 bps YoY มาที่ 22.2% จากสัดส่วนสินค้า High GPM ที่ขยายดี เช่น อาหารพร้อมทาน เครื่องดื่มและสินค้า personal care ขณะที่อัตราส่วน SG&A ต่อยอดขายลดลงเหลือ 19.5% จาก 19.8% ใน 2Q66 จากค่าใช้จ่ายไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงจากรีไฟแนนซ์สินเชื่อของ Lotus ซึ่งเราเห็น Upside ต่อกำไรของ CPALL จากลูกค้าและ GPM ที่ดี
หุ้นซื้อขายไม่แพงบน PER67E เพียง 22.8 เท่า ต่ำค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี -1.7 S,D,
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 78.00 บาท

CPN Valuation ถูกเกินไป
เมื่อเทียบผลกำไรที่ยังขยายตัว
คาดกำไรหลัก 2Q67 จะอยู่ที่ 4.3 พันล้านบาท ขยายตัว +17% YoY และ +3% QoQ ตามรายได้ 1.27 หมื่นล้านบาท ขยายตัว +17% YoY และ +9% QoQ แรงหนุนหลักมาจากการการเติบโตของธุรกิจศูนย์การค้าและการขายที่พักอาศัย
เดือน เม.ย. 67 CPN ได้ลงนามในสัญญาเช่าช่วงกับ CPNREIT เป็นเวลา 15 ปีสำหรับส่วนหนึ่งของเซ็นทรัลปิ่นเกล้า คาดว่าจะทำให้ CPN มีรายได้ 180 ล้านบาทใน 2Q67 ซึ่งช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายรายไตรมาส 394 ล้านบาทจากภาระผูกพันจากการเช่าปิ่นเกล้า (lease liabilities) ได้บางส่วน
ด้านทิศทางกำไรปี 67 เราคาดยังขยายตัว 9.4%YoY ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย PER67E อยู่ที่ 14.8 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 23 เท่าถึง 2 SD จึงมองว่าเป็นระดับที่ถูกเกินไปเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 77.50 บาท

KEY FACTOR
ตลาดหุ้นต่างประเทศผ่อนคลายลงจากความกังวลเศรษฐกิจถดถอย หลังจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.33 แสนราย ต่ำกว่าที่ Consensus คาดไว้ 2.4 แสนราย นอกจากนี้สัญญาณบวกจากความเชื่อมั่นภายในประเทศก็ดีขึ้น สะท้อนจากแรงซื้อของ Fund flow ในตลาดตราสารหนี้ที่ยังมีต่อเนื่อง สะสม 4.03 หมื่นล้านบาท
ด้านตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศ วันนี้ติดตามการรายงาน CPI และ PPI ของจีน เดือน ก.ค. ซึ่ง Consensus คาด +0.3% YoY และ -0.9% YoY ตามลำดับ ในขณะที่ฝั่งสหรัฐฯ น่าจะให้น้ำหนักไปที่การรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ก.ค. ในวันที่ 14 ส.ค. ซึ่ง Consensus คาดว่าจะชะลอลงเหลือ +2.9% YoY และต่อเนื่องด้านการประชุม Jackson Hole วันที่ 22 ส.ค. ซึ่งจะบ่งชี้ถึง 1) ภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งหากเงินเฟ้อสูง อาจสร้างความกังวลเพิ่มเติมต่อภาวะ Stagflation แต่หากใกล้เคียงคาด ตลาดน่าจะผ่อนคลายแรงกดดันลง 2) มุมมองการกำหนดนนโยบายการเงินของ Fed ในช่วงถัดไป ซึ่งคาดว่าน่าจะให้น้ำหนักเปิดโอกาสการเริ่มลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย.

EYES ON
9 ส.ค. CPI และ PPI เดือน ก.ค. ของจีน

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ