Market Wrap-Up
- SET วันที่ 7 ส.ค.67 ปิด +16.54 จุด อยู่ที่ 1,290.55 จุด มูลค่าการซื้อขาย 40,025 ลบ.ต่างชาติซื้อ 1,667 ลบ.พอร์ตโบรกขาย 491 ลบ.สถาบันขาย 382 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิรวม 287 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น BH,BDMS,DELTA,AOT,CPF และมียอดขายสุทธิ INTUCH,MINT,BCP,ADVANC,CPALL มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,543 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ HKCE01,INTUCH-R,DEMCO โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 41,039 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 32,949 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 8,214 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.60%, S&P500 -0.77%, Nasdaq -1.05% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี -1.4% นำโดย Super Micro Computer -20% รับรายงานกำไรขั้นต้นต่ำกว่าคาด, Dell Tech.-4.9% หลัง US Bond Yield 10 ปีปรับขึ้น ส่วน Walt Disney -4.4% หลังธุรกิจสวนสนุกมีแนวโน้มซบเซา ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +1.54% ได้แรงหนุนจากกลุ่มธนาคาร +2.7% นำโดยเอบีเอ็น แอมโร +5.6% จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิปีนี้มีแนวโน้มสูงขึ้น
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐปรับลดลง หลัง Super Micro Computer ผู้ให้บริการเก็บข้อมูล & ระบบ AI รายงานกำไรต่ำกว่า กอปรกับ US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นสูงสุดที่ 3.97% หลังผลประมูลพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี วงเงิน 4.2 หมื่น ล.ดอลลาร์มีอุปสงค์ซบเซา ขณะที่ Vix Index ยังทรงตัวระดับสูงที่ 27.85 บ่งชี้ตลาดหุ้นสหรัฐยังมีความผันผวนสูง โดยค่ำวันนี้ติดตามตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์คาดที่ 241,000 & สัปดาห์ก่อน 249,000 ราย และรอความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด ก่อนการประชุมผู้ว่า ธ.กลางต่าง ๆ ที่แจ๊คสัน โฮล วันที่ 22 – 24 ส.ค. ซึ่งคาด ปธ.เฟดจะส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยใน ก.ย.
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนีได้แรงหนุนจากหุ้นธนาคาร หลัง ABN Amro ของเนเธอร์แลนด์คาดรายได้ดอกเบี้ยปีนี้ยังเติบโตดี กอปรกับ Euro Stoxx VIX Index ลดลงอยู่ที่ระดับ 7 ขณะที่นายโอลลี่ เรห์น ผู้กำหนดนโยบายการเงินของ ECB ให้ความเห็นมีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยต่อในปีนี้
- ตลาดหุ้นเอเขียวานนี้ปรับขึ้นนำโดยดัชนีนิเกอิ +1.19% หลังรอง ปธ. BOJ นายอุจิดะ เผย BOJ จะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อ หากตลาดเงินยังไร้เสถียรภาพ ส่งผลให้ความเสี่ยงของการเร่งปิดสถานะ Yen Carry Trade ลดลง และค่าเงินเยนวานนี้อ่อนค่าปิดที่ 146.64 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.09% ทรงตัวหลังตัวเลขส่งออกจีน ก.ค. ชะลอตัวอยู่ที่ 7.0% & คาด 9.7% & มิ.ย. 8.6% YoY บ่งชี้อุปสงค์ตลาดโลกยังฟื้นตัวช้า วันพรุ่งนี้เช้าติดตาม CPI จีน ก.ค. คาด 0.3% & มิ.ย. 0.2% YoY, PPI จีน ก.ค. คาด -0.9% & มิ.ย. -0.8% YoY
- SET วานนี้ปิด +1.30% ปริมาณการซื้อขาย 0 หมื่น ลบ. ต่าวชาติซื้อ 1,667 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 491 ลบ. รายย่อยขาย 793 ลบ. และสถาบันขาย 382 ลบ. ได้แรงหนุนจากกลุ่มอิเล็ก ฯ +4.2% ได้แรงหนุนจาก US Bond Yield 10 ปี อยู่ระดับต่ำ กอปรกับคาดเศรษฐกิจสหรัฐยังชะลอตัว Soft Landing ส่วนกลุ่มท่องเที่ยว +3.3% นำโดย AOT และกลุ่มโรงแรมที่คาดกำไรปีนี้ยังเติบโตดีตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้คาดที่ราว 36 ล.คน เช่นเดียวกับกลุ่มอาหาร & เครื่องดื่มก็ปรับขึ้นรับรายงานกำไร Q2/67 ของ AAI, ICHI ที่ดีกว่าคาด โดยภาพรวมดัชนี SET ฟื้นตัวตลาดภูมิภาค หลังค่าเงินเยนเริ่มมีเสถียรภาพ และได้แรงหนุนรายงานกำไร บจ. Q2/67 คาด +Single Digit QoQ และ +30% YoY ขณะที่ปัจจัยการเมือง ศาล รธน.มีคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค 10 ปี และสัปดาห์หน้าวันที่ 14 ส.ค. ศาล. รธน. จะมีคำวินิจฉัยคุณสมบัตินายก ฯ เศรษฐา หากคำตัดสินไม่คุณต่อนายก ฯ จะส่งผลให้ต้องสรรหานายก ฯ ใหม่ และจัดตั้ง ครม.ใหม่ รวมถึงความไม่แน่นอนในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ
Daily Strategy
- วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,275 – 1,280 แนวต้าน 1,295 – 1,300 คาดดัชนีทรงตัว หลังวานนี้ปรับขึ้นรับข่าว BOJ ชะลอการขึ้นดอกเบี้ย และเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่เสี่ยงถดถอย โดยนักลงทุนยังรอคำวินิจฉัยคุณสมบัตินายกฯ ในวันที่ 14 ส.ค. แนะนำทยอยซื้อกลุ่มอาหาร & เครื่องดื่ม เช่น CPF,GFPT,ITC AAI,ICHI,OSP คาดกำไรเติบโตดีตามอุปสงค์ใน & ต่างประเทศ/ GULF,GPSC,BGRIM,MTC ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง และพักเงินในกลุ่มปลอดภัย เช่น INTUCH,BH,BDMS
- COCOCO* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 15.20 บาท) แนวโน้มยอดขายและกำไรใน 2Q67 จะกลับมาเติบโตได้ดีทั้ง QoQ, YoY หนุนจากการผ่านช่วง low season ใน 1Q67 สินค้าประเภทน้ำมะพร้าวยังคงขายดีและช่วยสร้าง GPM ให้ดีขึ้นตามU-rate และ product mixed ที่เปลี่ยนไป ขณะที่อาหารสัตว์เลี้ยงพลิกเป็นกำไรได้ตั้งแต่ 1Q67 แล้ว ส่วนทิศทาง 2H67 มีโอกาสดีขึ้นต่อเข้าช่วงฤดูร้อนของสหรัฐฯ ยุโรป รวมถึงขยายไลน์สินค้าใหม่กลุ่มน้ำมะพร้าวแบบกระป๋องและขวด PET ไอศกรีมผลไม้ เข้าตลาดจีนเพิ่ม ทั้งนี้บริษัทคาดรายได้ปีนี้เติบโต 30-40%YoY เป็นไปตามทิศทางของคำสั่งซื้อที่เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประเมิน U-rate 64% และสิ้นปี 67 กำลังการผลิตสินค้าน้ำมะพร้าวสูงสุดจะอยู่ที่ 95 แสนตัน/ปี มองรายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท ภายใน 3 ปี (2569) ทั้งนี้จาก Consensus ตลาดคาดกำไรปี 66-67 ที่ 920 ล้านบาท +70%YoY และ 1.28 พันล้านบาท +39%YoY
- TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 19.00 บาท) กำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 1,219 ลบ. (+18.47%YoY, +5.68%QoQ) ออกมาใกล้เคียง Bloomberg Consensus -2% โดยในแง่ของรายได้มีแรงหนุนจากบาทอ่อน กลุ่มธุรกิจ Ambient Seafood(+1%YoY), กลุ่มธุรกิจ Value added Product(+16%YoY), และ ธุรกิจ Petcare (+41%YoY) โดยฝั่ง Pecare โตดี จาก Inventory คู่ค้ากลับสู่ปกติเมื่อเทียบ YoY ขณะที่ในส่วนของ GPM อยู่ที่ 18.52% +YoY +QoQ จาก Product mix(สัดส่วน Petcare สูง), ราคาปลาทูน่าแกว่งขึ้นจากโซนล่าง, และ ต้นทุนเหล็ก/อลูมิเนียมลดลง ทั้งนี้ TU ประกาศจ่ายปันผลที่ 0.31 บาท/หุ้น จะขึ้น XD วันที่ 21 ส.ค. 67 คิดเป็น Div Yield จากราคาปิดที่ 14.40 บาท ที่ 2%
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI ก.ย. +$2.03 อยู่ที่ $75.23 / บาร์เรล, Brent ต.ค. +$1.85 อยู่ที่ $78.33/บาร์เรล หลังแหล่งน้ำมันซาราราของลิเบียลดกำลังการผลิตจากเหตุประท้วง และ EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 3.7 ล.บาร์เรล มากกว่าคาดจะลด 7 แสน บาร์เรล เป็นการลดลง 6 สัปดาห์
Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+$0.80 อยู่ที่ $2,432.40 /ออนซ์ ยังได้แรงหนุนจากคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 0.50% ใน ก.ย. นี้ แต่สัญญาทองคำยังถูกกดดันจาก Dollar Index แข็งค่า +0.22% อยู่ที่ 103.197
Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +59.09 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +46.77 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +21.19 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -8.87 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 35.54 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 3.918 %
(+) ดัชนี BDI วานนี้ +13 จุด อยู่ที่ 1,698
(-) BitCoinเช้านี้ -2.10% อยู่ที่ 55,755 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
05 ส.ค. กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีเศรษฐกิจการค้า
07 ส.ค. ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.)
สัปดาห์ที2 หอการค้าไทย ร่วมกับม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
สภาผู้ส่งออก แถลงสถานการณ์การส่งออก
ตลท. แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์
ต่างประเทศ
05 ส.ค. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ก.ค.)
07 ส.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
08 ส.ค. US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*
(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*
(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio August 2024: GFPT*, CPALL, BH, BTG*, THCOM
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th