MTC : กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สอง; คุณภาพสินทรัพย์คงที่

บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เปิดเผยผลประกอบการใน 2Q24 หลังตลาดปิดเมื่อวานนี้ (6 สิงหาคม) กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 3.9% QoQ สู่ระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาสที่ 1.44 พันล้านบาท สูงกว่าประมาณการของเราอยู่ 5% Credit cost ลดลงพร้อมกับอัตราสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) โดยไม่พบการด้อยคุณภาพสินทรัพย์ที่มีนัยสำคัญใน 2Q24 ด้านล่างนี้เป็นประเด็นสำคัญของผลประกอบการและความคิดเห็นเบื้องต้นของเรา การประชุมนักวิเคราะห์และ Opportunity Day (การประชุมนักลงทุน) มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 9 สิงหาคม (วันศุกร์)

• การเติบโตของสินเชื่อ: สินเชื่อเติบโต 4.8% QoQ และ 16.4% YoY มาอยู่ที่ 1.55 แสนล้านบาท โมเมนตัมเร่งตัวขึ้นจาก 1Q ตามฤดูกาล MTC เพิ่มสาขา 192 สาขาใน 2Q เทียบกับ 251 สาขาใน 1Q ทำให้เครือข่ายสาขารวมเป็น 7,980 สาขา ใกล้เคียงกับเป้าหมายของบริษัทที่ 8,140 สาขาภายในสิ้นปี
• อัตราผลตอบแทน/ต้นทุนทางการเงิน/ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน: สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทในการลดสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน (ซึ่งมีกำไรมากกว่าเมื่อพิจารณา net credit cost) อัตราผลตอบแทนลดลงเป็น 17.42% ใน 2Q24 จาก 17.47% ใน 1Q24 ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นท่ามกลางสภาพแวดล้อมอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น เป็น 4.08% ใน 2Q24 จาก 3.89% ใน 1Q24 ในแง่บวก MTC ยังคงควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ดี โดยค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นเพียง 1.1% QoQ ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ QoQ ที่ 47.5% (เราสังเกตว่าอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้มักจะลดลงใน 2H)
• คุณภาพสินทรัพย์: รถจักรยานยนต์ใหม่ภายใต้สัญญาเช่าซื้อคิดเป็นเพียง 2.8% ของสินเชื่อทั้งหมดของ MTC ที่ 1.55แสนล้านบาทใน 2Q24 ลดลงจาก 4.1% ใน 2Q23 MTC ลดพอร์ตโฟลิโอที่มีความเสี่ยงสูงนี้ลงเหลือประมาณ 4.2 พันล้านบาท อัตราสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) สำหรับพอร์ตโฟลิโอสินเชื่อทะเบียนรถลดลงเป็น 2.75% ใน 2Q24 จาก 2.88% ใน 1Q24 อัตรา NPL รวมอยู่ที่ 2.88% ใน 2Q24 ดีขึ้นจาก 3.03% ใน 1Q24 อย่างไรก็ตาม NPL รวมในจำนวนเงินทรงตัวที่ 4.4 พันล้านบาท โดยไม่พบการด้อยค่าในระยะที่ 2 (รายละเอียดในตารางหน้าถัดไป) ส่งผลให้ credit cost ลดลงเป็น 3.04% ใน 2Q24 จาก 3.12% ใน 1Q24
• มุมมองเบื้องต้นของเรา: ผลประกอบการรายไตรมาสของ MTC บ่งชี้ว่าสินเชื่อที่มียานพาหนะเป็นหลักประกันมูลค่าไม่สูงมีความยืดหยุ่นมากกว่าสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันในช่วงเศรษฐกิจเติบโตช้า เราสรุปจากการพูดคุยกับบริษัทว่าคุณภาพสินทรัพย์ได้รับการช่วยเหลือจากการพัฒนาการเก็บหนี้ ในขณะที่การควบคุมอย่างเข้มงวดช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร โดยต้องการเพียง 157 สาขาใหม่เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 600 สาขาใหม่ในปีนี้ สังเกตว่าอัตราการเปิดสาขาใหม่มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงใน 2H ซึ่งช่วยในการควบคุมต้นทุน โดยราคาหุ้นของ MTC ลดลง 16% จากจุดสูงสุดที่ 48.50 บาทต่อหุ้นในเดือนพฤษภาคม 2024 (เทียบกับดัชนี SET ที่ -7%) และมูลค่าก็น่าสนใจอีกครั้งที่ 15.3 เท่าของกำไรคาดการณ์ปี 2024 (กำไรใน 1H คิดเป็น 51% ของการคาดการณ์ทั้งปีของเรา) ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ MTC โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 50.00 บาท